ตอนที่ 296 เครื่องเคลือบลายครามสมัยราชวงศ์หยวน
” หกแสนหยวน ! ” หยางโปกล่าว
คนญี่ปุ่นทั้งสองคน ดูเหมือนจะรับไม่ไหวแล้วก็กระซิบกัน
หยางโปมองไปที่ทั้งสองคนแล้วยิ้ม เขาไม่เชื่อว่าทั้งสองคนกำลังปรึกษาหารือกัน เนื่องจากราคาไม่สูงเกินไป พวกเขาน่าจะรับได้ !
แน่นอนว่าในไม่ช้าพวกเขาก็กล่าวว่า ” หนึ่งล้านหยวน ! “
หยางโปไม่ลังเล ” สองล้านหยวน ! “
ลัวย่าวหัวดึงหยางโปอีกครั้ง ” มันมากเกินไปหรือเปล่า ! พวกเขาจะยอมแพ้ไหม ? “
หยางโปกระซิบ ” มั่นใจได้เลย นายไม่ได้สังเกตเลยเหรอ พวกเขาไม่ได้เลือกของมานานราวกับว่าพวกเขารอบันทึกการเดินทางชิ้นนี้อยู่ ! “
” เมื่อกี้พวกเขาไม่ใช่ว่าอยากได้คทาไปแล้วเหรอ ? ” ลัวย่าวหัวกล่าว
” ไม่ใช่ วัตถุประสงค์ของพวกเขาคือบันทึกการเดินทาง ! ” หยางโปกล่าว
” สามล้านหยวน ! ” คนญี่ปุ่นที่สวมแว่นกันแดด ถอดแว่นกันแดดออกแล้วมองไปที่หยางโป
หยางโปก็มองกลับไปด้วย เขาเห็นดวงตาสีดำของชายสวมแว่นกันแดด ดูเหมือนว่ากระแสน้ำวนสีดำได้ก่อตัวขึ้นแล้ว กระแสน้ำวนหายวับไปทำให้หยางโปเข้าใจผิดว่าตนตาฝาด
หยางโปไม่ได้พูดอะไรต่อไป อีกฝ่ายจึงซื้อขายสำเร็จ
” บันทึกการเดินทาง ! ” หยางโปพึมพำเบาๆ เขาไม่รู้เนื้อหาเฉพาะของบันทึกการเดินทางและใครเป็นคนเขียน แต่เขาแน่ใจว่าต้องการหาสุสานของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หยวนที่ราวกับเรื่องเลื่อนลอยนี้เจอแน่
ของชิ้นสุดท้ายถูกส่งมาอย่างรวดเร็วถาดถูกปิดด้วยฝาปิดสีแดงและทรงสูง ดูเหมือนว่าจะเป็นวัตถุที่มีขนาดไม่เล็กเลย
อูปายืนอยู่ข้างหน้าและจ้องมองฝูงชนด้วยสายตาที่เฉียบคม ” ชิ้นสุดท้ายทุกคนจะต้องตั้งตารอคอยมันแน่ ! “
พูดจบ ทันใดนั้นเขาก็ยกผ้าคลุมออกและดวงตาของหยางโปก็ส่องสว่างขึ้น เขาเห็นแจกันลายครามอยู่ในถาด !
” แจกันลายครามพรห้าประการลายดอกเหมย สมัยราชวงศ์หยวน ! ” อูปากล่าวเสียงดัง
เป็นครั้งแรกที่เกือบทุกคนในงานยืนขึ้น ! เมื่อปีที่แล้ว เครื่องลายครามกุ่ยกู๋จื่อสมัยราชวงศ์หยวน ตกต่ำในอังกฤษการทำธุรกรรมมากกว่าสองหมื่นห้าพันล้านหยวน แวดวงของโบราญจึงโหนกระแสแจกันลายครามสมัยราชวงศ์หยวนให้บูมขึ้น แต่แจกันลายครามของราชวงศ์หยวนนั้นหายากมากในตลาด หากแจกันลายดอกเหมยนี้เป็นของแท้ ถ้าอย่างนั้นมันก็น่าจะมีค่ามากกว่าของทุกอย่างก่อนหน้านี้!
การประมูลหยุดลง ทุกคนวิ่งไปผลัดกันเพื่อตรวจดูอย่างระมัดระวัง
หยางโปไม่มีข้อยกเว้น เขายังไม่เคยมีเครื่องลายครามสมัยราชวงศ์หยวนในมือเลย ผิวของเครื่องลายครามถูกเคลือบอย่างหนาและทนทาน เคลือบสีอุ่นแวววาว ภายใต้ดวงจันทร์ค้างคาวบินขึ้นไปสู่ดอกเหมย ค้างคาวหมายถึงโชคลาภ ดอกเหมยหมายถึงการเปิดรับ(โชคลาภ)ดังนั้นจึงเรียกว่าพรทั้งห้า
รูปวาดมีความชัดเจนและเหมือนจริง แจกันดอกเหมยมีรูปทรงที่เพรียวและงดงาม อย่างน้อยเครื่องลายครามราชวงศ์หยวนใบนี้มีรูปทรงที่พอดี
หยางโปมองดูแล้วใช้พลังพิเศษ เกิดรัศมีตรงหน้าก่อตัวรวมกันอย่างรวดเร็ว หยางโปค่อนข้างประหลาดใจ เครื่องลายครามใบนี้ อันที่จริงมันเป็นของเลียนแบบของสาธารณรัฐจีน !
หยางโปมองด้วยความประหลาดใจ ในเวลานี้เขาไม่มีเวลาศึกษาภาพรวมให้ชัดเจนขึ้น หยางโปมองผ่านผนังชั้นนอก เห็นคำสามคำบนผนังด้านในของเครื่องลายคราม ” เฉียวโซ่วหลิว ” !
หยางโปเดินกลับออกมาโดยไม่ได้กล่าวอะไร ใบหน้าเรียบเฉย แต่ในใจมีความปั่นป่วนอยู่ข้างใน ” เฉียวโซ่วหลิว “เป็นผู้เชี่ยวชาญการเลียนแบบเครื่องเคลือบดินเผาที่รู้จักกันดีในสาธารณรัฐจีน ในเวลานั้นเจียงไคเชกได้ทำลายเครื่องเคลือบ
เกอเหยาราชวงศ์ซ่งโดยบังเอิญ ซึ่งเป็นของรักของซ่งเหมยหลิง จึงขอให้หลิวซึ่งมีฝีมือดีทำของเลียนแบบในเวลาเพียงสิบวัน เมื่อทำเสร็จแล้วและที่สำคัญที่สุดซ่งเหมยหลิงไม่แม้แต่จะสังเกตเห็น !
เครื่องลายครามชิ้นนี้ได้สูญหายไปในระหว่างการเคลื่อนย้ายในสงครามต่อต้านญี่ปุ่นและตกอยู่ในมือของคนญี่ปุ่นซึ่งถูกมองว่าเป็นสมบัติของชาติ ถูกนำไปที่โทชิม่า ในปีค.ศ. 1987 เศรษฐกิจของญี่ปุ่นขยายตัวและเครื่องลายครามชิ้นนั้นถูกขายในราคาสิบสองล้านเหรียญสหรัฐหรือเทียบเท่ากับหลายร้อยล้านหยวน ในเวลานั้นมันถูกมองว่าเป็นของที่มีราคาสูงที่สุดของการทำธุรกิจเครื่องเคลือบดินเผา
หลังจากที่เจ้าของเครื่องเคลือบได้รับเครื่องเคลือบแล้ว เขาได้จัดงานแถลงข่าวเป็นพิเศษ ในการแถลงข่าวเจ้าของเครื่องเคลือบดินเผาจัดงานเพื่อเฉลิมฉลอง แต่ไม่คาดคิด เครื่องเคลือบตกลงกับพื้นและแตกเป็นชิ้นๆ เป็นเศษเล็กเศษน้อย มีอักษรสามตัวอ่านว่า เฉียวโซ่วหลิว
ในที่สุดฝีมือของหลิวก็หลอกคนญี่ปุ่นได้ครั้งหนึ่ง !
เมื่อหยางโปคิดดู เขาก็ยิ้มเล็กน้อย คราวนี้ฝีมือของหลิวก็ยังคงหลอกได้อีกครั้งหนึ่งแล้ว !
เมื่อหันหลังกลับและนั่งลง ใบหน้าของหยางโปเต็มไปด้วยความมั่นใจ ลัวย่าวหัวมองไปที่หยางโป ” นายจะซื้อมันไหม ? “
หยางโปกระซิบ ” ไม่ซื้อ ให้คนญี่ปุ่นไป ! “
ลัวย่าวหัวมีความสุขในทันที แต่เขาก็เปลี่ยนอารมณ์อย่างรวดเร็ว ” ดูเหมือนว่าเครื่องลายครามนี้ดีมากใช่ไหม ? “
” ใช่ ไม่เลวเลย ! ” หยางโปตอบ
อูปา ไม่ได้ปล่อยให้ทุกคนมีเวลาคิดและพูดโดยตรงๆว่า ” ราคาเริ่มต้นที่ สิบล้านหยวน ! “
” สิบสองล้านหยวน ! “
” สิบห้าล้านหยวน ! “
….
ดูเหมือนว่าทุกคนจะดุดันขึ้นโดยทันที เมื่อกี้ราคาเพิ่มขึ้นเพียง หนึ่งแสนและตอนนี้ก็มาถึงระดับล้านหยวนแล้ว
ไม่นาน ราคาก็สูงขึ้นถึง สามสิบเจ็ดล้านหยวน เสียงในงานค่อยๆลดลง อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับการบันทึกธุรกรรมการทำเครื่องเคลือบลายคราม สองหมื่นห้าพันล้านหยวน ตัวเลขนี้ไม่ได้แม้แต่เศษเสี้ยว
หยางโปเหลือบมองไปที่คนญี่ปุ่น ” สี่สิบล้านหยวน ! “
คนญี่ปุ่นไม่ได้เคลื่อนไหว ชั่วโมงนั้นทำให้หยางโปคิดผิดว่าอีกฝ่ายจะยอมแพ้แล้ว
เมื่อราคาสูงขึ้นถึง ห้าสิบล้านมีผู้ประมูลเพียงสองรายที่เหลืออยู่ในงาน ฝ่ายหนึ่งคือหยางโปและอีกคนคืออวี่เหวิน
หยางโปมองดูอวี่เหวิน เห็นล็อคเก็ตนาฬิกาในมือของเขา เมื่อเวลาผ่านไปก็เปิดฝาแล้วดู นาฬิกาถูกมัดเอาไว้กับมือด้วยโซ่เงิน
ตาอ้วนหลิวอธิบายด้วยเสียงเบาๆ ” นั่นคือเข็มทิศ แต่ดูเหมือนเป็นนาฬิกาแค่นั้นแหละ ! “
หยางโปรู้สึกประหลาดใจ ” เข็มทิศนั้นเล็กมาก มันจะไม่ทำให้มองไม่ชัดเหรอ ? “
ตาอ้วนหลิวส่ายหน้า
ราคาที่ห้าสิบล้านอวี่เหวินจะได้มันไป ในเวลานั้น หยางโปวอกแวกและหัวเราะกับผู้คนรอบข้าง ในที่สุดคนญี่ปุ่นก็ทนไม่ได้
” หกสิบล้านหยวน ! “
ทุกคนในงานมองไปและคนญี่ปุ่นกำลังออกมา !
หยางโปหยุดพูด เมื่อมองไปที่คนญี่ปุ่น อีกฝ่ายก็ยื่นข้อเสนอในเวลานั้นทันที ” หกสิบห้าล้านหยวน ! “
” แปดสิบล้านหยวน ! ” คนญี่ปุ่นมีความดุดันยิ่งขึ้น การเพิ่มขึ้นของราคาทีเดียวสูงถึงสิบห้าล้านหยวน !
หยางโปค่อนข้างหวาดกลัว อย่างไรก็ตามเขาไม่ใช่เสือกระดาษ(คนที่ดูเหมือนจะน่ากลัว)กำลังคิดเกี่ยวกับทรัพย์สินของเขา เป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับเงินสดแปดสิบล้าน แต่ในกรณีนี้สามารถยืมเงินได้เท่านั้น ! เมื่อคิดถึงอนาคตแล้วหยางโปก็ไม่ลังเลเลย
หนึ่งร้อยล้านหยวน !
คนญี่ปุ่นตื่นตระหนกและทั้งสองคนก็กระซิบพูดคุยกัน สักพักใหญ่ ล่ามชายตัวผอมๆ หันหน้าไปทางอูปา ” พวกเราสงสัยว่าอีกฝ่ายไม่มีสินทรัพย์นับร้อยล้านและพวกเราขอตรวจสอบบัญชีทุน ! “
คนญี่ปุ่นเจ้าเล่ห์เพทุบาย !
หยางโปยังสับสนอยู่ในใจ เมื่อเขาสามารถสงบสติอารมณ์เสียได้จึงกล่าวเยาะเย้ย ” ถ้าพวกคุณต้องการใช้โอกาสในการหาเวลาเพื่อระดมทุน ผมเข้าใจได้ว่าเป็นการดีกว่าที่จะไม่โทรหาใครสักคนเลย ยังไงพวกเราก็อยู่ที่นี่ตั้งมากขนาดนี้ ! “
คำพูดของหยางโป ทำให้คนญี่ปุ่นถึงกับโกรธเคือง
” พวกเราไม่มีความคิดนี้ ! ” ล่ามรีบกล่าว
คนญี่ปุ่นหยุดเขาและจ้องไปที่หยางโป ” หนึ่งร้อยสิบล้านหยวน ! “