เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ – ตอนที่ 191 แหย่ลูกพี่ที่น่ากลัวกว่าหยางเฟยหลายเท่าตัว

ฉินหร่านเป็นฝ่ายเดียวที่ประกาศถอนตัวออกมานานแล้วหลายปี

 

 

แต่ทางด้านทีมOSTกลับยังไม่ได้แก้สัญญา ตอนที่โค้ชจ่ายเงินในแต่ละเดือน เงินเดือนขั้นต่ำก็ถูกโอนไปที่บัตรใบหนึ่ง

 

 

โค้ชถึงกับอึ้งเมื่อได้ยินที่ฉินหร่านพูด ในไม่ช้าเขาถึงจะรู้ตัวว่าฉินหร่านกำลังพูดถึงอะไร เขาจึงรีบตอบไปว่า “มี! อวิ๋นกวงกรุ๊ปส่งของใหม่มาให้ทุกปี!”

 

 

ทุกปีจะมีชุดประจำทีมเพิ่มมาหนึ่งชุด

 

 

ขณะนี้เกมแรกเพิ่งเริ่มต้นการแข่งขัน โค้ชไม่รู้ว่าทักษะของฉินหร่านเป็นอย่างไรหลังจากที่ไม่ได้ฝึกซ้อมมาเป็นเวลานาน

 

 

และสิ่งสำคัญที่สุดคือฉินหร่านไม่เคยเข้าร่วมการฝึกซ้อมกับลูกทีมคนอื่นมาก่อน

 

 

การแข่งขันขึ้นอยู่กับทักษะการควบคุมส่วนตัวและความร่วมมือระหว่างคนในทีม หากโดนไพ่โจมตีแล้วคนอื่นตามไม่ทันหรือเกิดอีกฝ่ายได้รับความช่วยเหลือโดยการใช้ไพ่เสริม ความพยายามที่ทุ่มเทไปล้วนเสียเปล่า

 

 

ตอนนี้หยางเฟยลงสนามไม่ได้และยังมอบหน้าที่ให้ฉินหร่าน หากชนะได้ก็ดีอกดีใจกันถ้วนหน้า แต่ถ้าแพ้ ฉินหร่านจะต้องได้รับความกดดันและคำตำหนิจากชาวเน็ตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

 

หลังจากที่โค้ชอยู่ในอาการตกตะลึง ในใจก็รู้สึกหนักอึ้ง เขาไม่ต้องการให้ฉินหร่านกลายเป็นคนแบกรับข้อหาดังกล่าวในตอนท้าย

 

 

แต่ถึงอย่างไรหยางเฟยก็เป็นคนตามฉินหร่านมาในเวลานี้และบอกเองว่าเชื่อศักยภาพในตัวฉินหร่าน

 

 

พอคิดดูแล้วโค้ชก็ลืมเรื่องนี้ไปชั่วขณะ เขาไม่เต็มใจที่จะเห็นyanลงสนามมากกว่าเมื่อเทียบกับฉินหร่าน โค้ชมองไปทางฉินหร่าน “เมื่อก่อนเธอใช้ไอดีอะไร? ฉันเอาไอดีใหม่ให้เธอเอาไหม?”

 

 

ไอดีเกมของทีมOSTเป็นไอดีเกมมืออาชีพ นอกจากไพ่เทพแล้วก็มีการ์ดไพ่อื่นๆ ครบครัน

 

 

แต่ผู้เล่นมืออาชีพต่างก็ชอบใช้ไอดีเกมของตัวเองเมื่อลงสนาม เมื่อก่อนหยางเฟยกับอี้จี้หมิงก็เคยใช้ไอดีสังเวียนในการต่อสู้มาก่อน

 

 

ฉินหร่านพิงพนักเก้าอี้แล้วส่ายหน้า “ไม่ต้อง ฉันจะใช้ไอดีตัวเอง”

 

 

“งั้น…” เดิมทีโค้ชคิดจะให้ฉินหร่านใช้ไอดีเกมของทีม เพราะที่จริงแล้วทางทีมมีไอดีเกมมืออาชีพอยู่หลายอันที่มีการกำหนดค่ามาตรฐานไพ่เทพ “ก็ได้ ฉันจะไปเอาชุดประจำทีมมาให้เธอและมอบหมายลูกทีมเสียหน่อย” 

 

 

โค้ชเดินออกไปโดยไม่พูดอะไรมาก

 

 

**

 

 

ห้องพักรับรองของลูกทีมคนอื่นๆ ในทีมOSTใหญ่กว่าห้องพักรับรองส่วนตัวของหยางเฟย

 

 

โค้ชเดินตรงไปยังที่ของตัวเองและหยิบชุดประจำทีมออกมาหนึ่งชุด

 

 

ตอนที่ออกเดินทางมาที่นี่ตอนบ่าย จู่ๆ หยางเฟยก็ให้เขาพกมันมาด้วย ตอนนั้นโค้ชยังคิดว่ามือหยางเฟยมีปัญหาเพียงเล็กน้อย แม้จะแปลกใจกับการตัดสินใจของหยางเฟย แต่เขาก็หยิบมันมาด้วย

 

 

ตอนนี้ดูแล้วหยางเฟยคงรู้แล้วว่าสภาพร่างกายตัวเองมีปัญหาแน่ๆ

 

 

yanนั่งอยู่ในตำแหน่งด้านในสุด เขายังคีบบุหรี่ไว้ในมือ

 

 

ก้มหน้าเลื่อนดูเวยป๋อ

 

 

ประเด็นร้อนล้วนเป็นการต่อสู้อันดุเดือดระหว่างอันดับหนึ่งแห่งประเทศ h และอันดับแห่งประเทศจีน

 

 

(ถึงเวลาที่จะได้เห็นเทพพระอาทิตย์ผู้หล่อเหลาจนหุบขาไม่ลงแล้วสิ!)

 

 

(นี่ยังต้องเดากันอีกเหรอ?  แค่ดูผลงานในสนาม ผลลัพธ์ที่ออกมาแทบจะไม่ต้องสงสัย ดูเทพพระอาทิตย์ของฉันก็จบเรื่องแล้ว)

 

 

(…) ยังมีความคิดเห็นอื่นๆ อีกมากมายนับไม่ถ้วน

 

 

yanเลื่อนดูอยู่เป็นเวลานานพลางยิ้มเยาะ

 

 

คอยดูเถอะ ถึงอย่างไรเทพพระอาทิตย์ของพวกเธอก็ลงสนามไม่ได้!

 

 

เดิมทีเขาก็เป็นคนดังในทีมอื่นและยังถือว่าพอมีชื่อเสียงอยู่บ้างในแวดวงกีฬาอีสปอร์ตในประเทศ แต่เนื่องจากในทีมOSTยังมีสมาชิกเก่าอยู่หลายคน เขาถูกจัดอันดับตามหลังหยางเฟยและอี้จี้หมิงเท่านั้น

 

 

ทุกครั้งที่เขาเล่นกับเด็กฝึกหัด แม้จะลงสนาม แต่ทุกคนก็เห็นเพียงความพยายามของหยางเฟยเท่านั้นหลังจากที่แข่งเสร็จ

 

 

แทบจะไม่มีใครเห็นความสามารถของเขาที่ระเบิดออกมา

 

 

คนที่ได้รับการสนับสนุนจากทีมเล็กๆ อย่างyanจะทนได้อย่างไร?

 

 

วันนี้เขาแค่ต้องการพิสูจน์ว่าเขาก็สามารถยืนอยู่ในจุดสูงสุดเหมือนหยางเฟยได้เช่นกัน ไม่มีหยางเฟยเขาก็สามารถพาทีมOSTชนะได้!

 

 

แววตาเต็มไปด้วยความดื้อรั้น เขาอ่านความคิดเห็นเหล่านี้พลางยิ้มเยาะ จากนั้นก็ปิดเวยป๋อเงยหน้ามองไปที่โค้ช

 

 

ยาที่คนพวกนั้นให้เขา ตอนนี้ก็น่าจะออกฤทธิ์แล้ว

 

 

ตอนนี้โค้ชที่อยู่ในห้องพักรับรองของหยางเฟยมาตลอดได้อธิบายให้คนที่กำลังจะลงแข่งในลำดับถัดไปเกี่ยวกับการ์ดไพ่ที่ทีมWATมักจะใช้ในการแข่งขัน

 

 

การที่โค้ชมาที่นี่กะทันหัน yanแทบจะไม่ต้องคิดอะไรมาก ต้องเป็นเพราะเกิดปัญหากับหยางเฟยแน่ๆ โค้ชถึงมาหาเขาเพื่อไปเล่นแทนหยางเฟย

 

 

พอนึกถึงเมื่อวานตอนเย็นที่โค้ชบอกเขาว่าจะยอมใช้ผู้เล่นใหม่ที่ไม่เคยลงแข่งมาก่อนอย่างเสี่ยวอวี๋ลงสนามและไม่ยอมใช้เขา yanก็ยิ้มเยาะ

 

 

พอตอนนี้โค้ชจะมากราบแทบหัว เขาก็จะไม่ตอบตกลงง่ายๆ

 

 

yanคิดอยู่ตลอดว่าโค้ชจะชักชวนตัวเอง แต่โค้ชแค่ไปหยิบชุดประจำทีมในกระเป๋า แทบจะไม่ชายตามองเขาเลยด้วยซ้ำ

 

 

เริ่มแรกyanยังคงใจเย็น แต่เมื่อเห็นโค้ชหยิบชุดประจำทีมออกไปโดยไม่พูดสักคำ เขาก็เริ่มนั่งไม่ติดที่

 

 

“โค้ช” yanยืนขึ้นและมองไปทางโค้ช เขายิ้มมุมปาก “ยังเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงก็ถึงตาพวกเราแล้ว พวกอี้จี้หมิงเตรียมตัวพร้อมหรือยังฮะ?”

 

 

โค้ชหยุดฝีเท้า

 

 

หยางเฟยและฉินหร่านไม่ได้บอกโค้ชเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาคาดเดาเอาไว้

 

 

ซึ่งโค้ชก็คิดมาตลอดว่านี่เกิดจากปัญหาทางร่างกายของหยางเฟย แต่พอyanพูดประโยคความนัยมาถึงขนาดนี้ โค้ชก็หรี่ตาลงโดยไม่รู้ตัว

 

 

เขาหันไปด้วยสีหน้าไม่ค่อยเข้าใจ พูดน้ำเสียงราบเรียบ “พร้อมแล้ว”

 

 

yanมีสีหน้าแข็งทื่อราวกับไม่อยากจะเชื่อ แม้จะเป็นเพียงชั่วขณะ แต่โค้ชกลับสังเกตเห็นได้ถึงสายตาครุ่นคิด

 

 

เขามองyanเพียงแวบเดียวก็เดินไป

 

 

yanที่อยู่ข้างหลังกำหมัด เขาหลุบตาลง แววตาเต็มไปด้วยความเคียดแค้น

 

 

โค้ชไม่ได้หาคนเปลี่ยนตัว เพราะฉะนั้นหยางเฟยยังสบายดี?

 

 

ยาที่พวกเขาบอกเขาว่าจะทำให้หยางเฟยลงสนามไม่ได้ชั่วคราวเป็นของปลอม?

 

 

เวลานี้โค้ชไม่มีเวลามาสนใจเรื่องyan  เขาออกไปและสั่งการอย่างเป็นทางการ

 

 

ทำการเปลี่ยนชื่อหยางเฟยเป็นฉินหร่าน

 

 

“คุณแน่ใจนะว่าจะเปลี่ยนตัวหยางเฟย?” เมื่อเจ้าหน้าที่ที่เป็นแฟนคลับของทีมOSTได้ยินที่โค้ชบอก เขาก็ถึงกับช็อก

 

 

จะแข่งขันต่อไปได้อย่างไรถ้าเปลี่ยนตัวหยางเฟย?

 

 

คู่ต่อสู้ก็เป็นถึงอันดับที่สองในรอบชิงชนะเลิศ ไม่ใช่ทีมธรรมดาทั่วไป

 

 

“โค้ช คุณต้องคิดให้ดีๆ นะ!” เขาพูดอย่างรวดเร็ว

 

 

โค้ชส่ายหน้า “คุณไปจัดการเถอะ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้แล้ว”

 

 

ถ้าแฟนคลับรู้เรื่องหยางเฟยก่อนล่วงหน้า พอถึงเวลาโค้ชกลัวว่าฉินหร่านจะแบกรับความกดดันไม่ไหว

 

 

**

 

 

หลังจากแก้ปัญหาเหล่านี้แล้ว โค้ชก็ไปหาฉินหร่านที่ห้องพักรับรองของหยางเฟยและมอบเสื้อให้เธอ “เธอลองใส่ดูซิว่าพอดีไหม”

 

 

ชุดประจำทีมจะมีการเปลี่ยนทุกปี ซึ่งจะวัดตามไซต์ของแต่ละคน

 

 

ชุดประจำทีมสีดำ พิมพ์ตัวอักษรสามตัว “OST” สีขาวที่แขนเสื้อ

 

 

โค้ชไม่รู้ว่าชุดประจำทีมที่เตรียมไว้สำหรับฉินหร่านจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละปีหรือไม่ เขากลัวว่ามันจะใหญ่ไป

 

 

สนามการแข่งขันทั้งหมดเป็นห้องปรับอากาศ เมื่อเข้ามาฉินหร่านก็ถอดเสื้อนอกออกและถือโอกาสสวมชุดประจำทีมที่โค้ชเอามาให้เธอ

 

 

เฉิงเจวี้ยนเอนตัวไปข้างๆ เพื่อคอยดูเธอค่อยๆ สวมชุดประจำทีม เพียงแวบเดียวก็ดูออกว่าชุดนี้ถูกตัดตามไซต์เธออย่างเห็นได้ชัด

 

 

เขาอดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไปเคาะบนโต๊ะอย่างส่งๆ เลิกคิ้วสวย นี่ยังพอดีอีกเหรอ?

 

 

โค้ชผงะไปสักพัก เขาไม่คิดว่าฉินหร่านไม่ได้ร่วมทีมมาถึงสามปีแล้วแต่เธอก็ยังสวมชุดประจำทีมได้พอดีตัว

 

 

“พวกนายห้าคนต้องการจะนัดแนะกันก่อนไหม?” ยังมีเวลาอีกครึ่งชั่วโมงกว่าก่อนจะเริ่มการแข่งขัน โค้ชอดไม่ได้ที่จะกระแอมเสียงเมื่อมองไปที่พวกเขาห้าคนที่รวมตัวกันอยู่

 

 

การรวมตัวของทั้งห้าคนนี้ เสี่ยวอวี๋ยังไม่เคยลงสนามอย่างเป็นทางการมาก่อน ส่วนฉินหร่านเองก็ไม่เคยเล่นร่วมทีมกับสมาชิกคนอื่นๆ ด้วยเช่นกัน

 

 

โค้ชจึงรู้สึกกังวลใจ

 

 

อี้จี้หมิงที่กำลังถือโทรศัพท์ส่งเวยป๋ออยู่ก็ยังไม่เงยหน้าขึ้น “โค้ช พวกเรากำลังจะลงสนามกันแล้ว นัดแนะกันเวลานี้มันสายไปแล้วและยังส่งผลต่อสภาพจิตใจของคนอื่นๆ ในทีม โค้ชให้เทพฉินประจำที่แทนเทพพระอาทิตย์ก็พอแล้ว ส่วนเรื่องอื่นโค้ชไม่ต้องเป็นห่วง”

 

 

อี้จี้หมิงเองก็เป็นผู้เล่นที่มีประสบการณ์ เขาดูมั่นใจโดยไม่กังวลเลยแม้แต่น้อย ถึงขนาดบอกโค้ชให้ใจเย็น

 

 

โค้ชพยักหน้า “ก็ได้”

 

 

สิบนาทีผ่านไป ทั้งสองทีมแข่งจบเกมแรก

 

 

โค้ชพาพวกฉินหร่านและสมาชิกทีมไปพื้นที่เตรียมตัว

 

 

ฉินหร่านหยิบผ้าปิดจมูกสีดำบนที่นั่งของหยางเฟย

 

 

“นี่มันอะไร…ของหยางเฟยเหรอ?” เฉิงเจวี้ยนยกมือขึ้น ชี้ไปที่โต๊ะอย่างส่งๆ พลางเลิกคิ้วมองฉินหร่าน

 

 

ขณะที่ฉินหร่านกำลังสวมผ้าปิดจมูกก็ตอบอย่างคลุมเครือ “อือ..ที่นั่งของเขาก็คงจะใช่ของเขาแหละมั้ง?”

 

 

เฉิงเจวี้ยนพยักหน้าพลางเหลือบมองไปที่ผ้าปิดจมูก เขาคิดว่านี่ยังไม่ได้ถามหยางเฟยเลยว่าเคยใส่มันมาแล้วหรือยัง

 

 

เขาก้มหน้าพลางเดินตามหลังฉินหร่านไปอย่างเงียบๆ

 

 

ฉินหร่านต้องไปพื้นที่เตรียมตัว ส่วนเขา ลู่จ้าวอิ่ง และเฉิงมู่ไปที่ที่นั่งผู้ชม

 

 

ลู่จ้าวอิ่งกดคางแล้วกระซิบถามเฉิงเจวี้ยน “คุณชายเจวี้ยน นายว่าฉินเสี่ยวหร่านไปเป็นเพื่อนร่วมทีมกับเทพพระอาทิตย์ตั้งแต่เมื่อไหร่? การแข่งขันครั้งนี้เธอจะมีปัญหาอะไรไหม? เธอไม่ได้เป็นแค่ไพ่เสริมหรอกมั้ง เพราะเสี่ยวอวี๋คนนั้นเป็นคนเล่นไพ่เสริม…”

 

 

ลู่จ้าวอิ่งก็กังวลว่าชาวเน็ตในโลกออนไลน์จะส่งผลกระทบต่อฉินหร่านในทางที่ไม่ดีเหมือนโค้ช

 

 

เขากับเฉิงเจวี้ยนต่างจากคนเหล่านี้ หลังจากแพ้เกมการแข่งขัน ชาวเน็ตบนโลกออนไลน์เหล่านี้มักจะชอบหาเรื่องตำหนิได้ตลอดเวลา

 

 

ถ้าคราวนี้แพ้ ฉินหร่านจะต้องโดนด่าอย่างไร้ความปรานี…

 

 

เขาอุตส่าห์พูดไปตั้งนานสองนาน เฉิงเจวี้ยนก็ยังไม่ขยับ หน้าตายังคงเรียบเฉย

 

 

และเย็นชาเล็กน้อย

 

 

ฉินหร่านตามโค้ชไปพื้นที่เตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว เฉิงเจวี้ยนยืนอยู่ตรงทางเดินและมองตามแผ่นหลังฉินหร่านอยู่เป็นเวลานานถึงจะจากไป

 

 

**

 

 

WATเป็นทีมอันดับหนึ่งของประเทศ h ที่ได้ที่สองตลอดกาลในการแข่งขันระดับเอเชีย

 

 

แต่เดิมการแข่งขันรอบก่อนชิงชนะเลิศ แม้ว่าจะเป็นการแข่งขันอย่างเป็นทางการ แต่ก็จะไม่จัดให้อันดับที่หนึ่งและอันดับที่สองปะทะกัน อย่างไรก็ตามทางWATได้ซื้อตัวเจ้าหน้าที่อย่างลับๆ ไว้แล้ว

 

 

เพื่อที่จะเหยียบทีมเทพที่ไม่เคยพ่ายแพ้ให้จมดินในรอบการแข่งขันรอบก่อนชิงชนะเลิศ 

 

 

โค้ชของพวกเขากำลังก้มหน้าคุยกับชายที่สวมหมวกแก๊ป “แน่ใจนะว่าเห็นหยางเฟยไปแล้ว?”

 

 

“แน่ใจครับ สภาพจิตใจของโค้ชทีมOSTดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่”

 

 

“ถ้าเป็นอย่างนี้แสดงว่าyanนั่นลงมือแล้วสินะ เลวจริงๆ แต่เลวแบบนี้ก็ดีแล้ว” โค้ชทีมWATสูบบุหรี่และหยิบเงินจำนวนหนึ่งให้ชายคนนั้นพลางยิ้ม “ไม่มีหยางเฟยแล้วมันยังจะกล้าพึ่งyanกับอี้จี้หมิงและยังคนเล่นใหม่ที่ไม่ได้ฝึกมาอีกเหรอ คิดจะสู้กับlungของเราเนี่ยนะ? คราวนี้ฉันจะทำให้พวกมันไม่ผ่านเข้ารอบสี่ทีมสุดท้าย!”

 

 

ชายคนนั้นรับเงินและหัวเราะออกมา

 

 

lungเป็นไพ่ไม้ตายของทีมWATในประเทศ h ซึ่งมีสถานะไม่ต่างกับหยางเฟย

 

 

แค่ไม่ได้รับความนิยมเท่าหยางเฟย

 

 

ในช่วงสามปีที่ผ่านมาตราบใดที่ทีมOSTเข้าร่วมการแข่งขัน ทีมWATก็จะแตะได้เพียงอันดับสองเท่านั้น

 

 

ไม่ใช่ว่าคนของทีมWATไม่เคยคิดจะซื้อตัวคนของทีมOSTในการล้มมวยเพื่อให้พวกเขาแพ้สักยก แต่อย่างไรก็ตามวิธีการนี้ก็ไม่สำเร็จ แม้ว่าราคาจะสูงก็ตามก็ซื้อตัวใครมาไม่ได้ 

 

 

ไม่ง่ายเลยที่จะพบyanที่เป็นจุดบอดของทีม

 

 

โค้ชทีมWATให้เงินเสร็จก็เดินไปที่ห้องพักรับรองของพวกเขา จากนั้นก็เรียกลูกทีมของพวกเขาไปที่พื้นที่เตรียมตัว

 

 

ทั้งสองทีมลงสนามตามกันมาติดๆ

 

 

และเจอกับพวกฉินหร่าน อี้จี้หมิง และคนอื่นๆ เข้าพอดี

 

 

lungก็เจอแล้วเช่นกัน เขามองไปที่คนของทีมOSTอย่างเงียบๆ แต่ไม่พบหยางเฟยในหมู่พวกเขา

 

 

“หยางเฟยล่ะ?” เขาถามโค้ชด้วยภาษาจีนที่ไม่ค่อยคล่อง

 

 

โค้ชทีมOSTตอบอย่างสงบเยือกเย็น “เขามีธุระ มาไม่ได้ชั่วคราว” 

 

 

ในฐานะที่หยางเฟยเป็นถึงนักกีฬาอีสปอร์ตอันดับหนึ่งในจิ่วโจวอีสปอร์ตทัวร์นาเมนต์ ตราบใดที่เป็นผู้เล่นมืออาชีพก็ไม่มีใครที่ไม่อยากจะเอาชนะเขา lungก็เช่นกัน ดังนั้นพอวันนี้lungไม่เจอหยางเฟย เขาก็ถึงกับขมวดคิ้ว

 

 

ทั้งสองทีมเข้าสู่สนาม lungรู้สึกแปลกๆ โค้ชทีมWATเองก็ขมวดคิ้ว

 

 

เขาไม่เห็นหยางเฟยอยู่ท่ามกลางสมาชิกทีมOSTและไม่พบyanตามที่คาดการณ์ไว้

 

 

เห็นเพียงผู้หญิงที่เป็นผู้เล่นหน้าใหม่ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทีมOSTมีลูกทีมเป็นผู้หญิง จึงไม่ได้ประหลาดใจมากนัก

 

 

แต่พวกเขาแปลกใจที่ไม่เห็นyanลงสนามมากกว่า

 

 

ชายที่เพิ่งรับเงินมานั่งอยู่ข้างๆ พูดเสียงเบาว่า “น่าจะเป็นเพราะพวกเขาจับได้ว่าyanเป็นคนวางยา ถึงได้ไม่ให้เขาลงแข่ง”

 

 

หัวหน้าทีมWATพยักหน้าและคิดว่าที่เขาพูดก็มีเหตุผล

 

 

“น่าเสียดายจริงๆ” เขามองไปยังกลุ่มคนของทีมOSTพร้อมกับยิ้มอย่างคลุมเครือ “เดิมทีมีyanก็แพ้อย่างน่าอนาถอยู่แล้ว ตอนนี้ยังมีผู้เล่นหน้าใหม่ที่ไม่เคยได้ยินชื่ออีกสองคน…”

 

 

ทั้งสองวางแผนมากมายหลายอย่างเพื่อให้OSTแพ้และพยายามอย่างหนักในการใช้เล่ห์เหลี่ยมเพื่อไม่ให้เป็นผลดีต่อหยางเฟย

 

 

แต่ไม่คิดเลยว่าคราวนี้แผนพวกเขาจะมุ่งเป้าไปที่หยางเฟยโดยตรง

 

 

หยางเฟยลงสนามไม่ได้ แต่พวกเขากลับแหย่ลูกพี่ที่น่ากลัวกว่าหยางเฟยหลายเท่าตัว

 

 

**

 

 

ช่วงพักเบรกระหว่างการแข่งขันสิ้นสุดลงแล้ว

 

 

การแข่งขันระหว่างOSTและWATจะเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการในเกมที่สอง

 

 

ช่วงเวลานี้OSTไม่ได้ประกาศเปลี่ยนตัวหยางเฟยเนื่องจากกลัวเสียจังหวะและส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของฉินหร่าน

 

 

แฟนคลับในสนามต่างตะโกนเรียก “เทพพระอาทิตย์” ดังลั่น

 

 

ผู้ชมทุกคนที่เฝ้าชมการถ่ายทอดสดต่างก็รอคอยหยางเฟยปรากฏตัวอย่างใจจดใจจ่อ

 

 

เจ้าภาพยิ้มพร้อมกับถือไมโครโฟน “ตอนนี้ขอเรียนเชิญทีมที่ทุกคนตั้งตารอคอยกันมากที่สุด——เชิญทีม OSTเข้าสู่สนาม!”

 

 

เสียงปรบมือดังสนั่นหวั่นไหว

 

 

ทีมOSTปรากฏตัวทีละคนตามลำดับ เริ่มตั้งแต่อี้จี้หมิงและลูกทีมคนอื่นอีกสองคนไปจนถึงเสี่ยวอวี๋

 

 

ผู้ชมที่อยู่ในสนามที่กำลังรอคอยหยางเฟยต่างก็เริ่มร้อนรน เสียงเรียก “เทพพระอาทิตย์” ดังขึ้นกว่าเดิม

 

 

คนสุดท้ายเดินตามหลังเสี่ยวอวี๋มาติดๆ

 

 

สวมผ้าปิดจมูกพร้อมด้วยชุดประจำทีมแบบพอดีตัว มองเห็นหน้าค่าตาไม่ค่อยชัด เห็นเพียงดวงตาอันเยือกเย็นคู่หนึ่ง

 

 

ลูกทีมหญิง ไม่รู้จักและไม่เคยได้ยินมาก่อน

 

 

ตอนนี้ทุกคนที่ชมอยู่ในสนาม คนที่นั่งดูการอยู่ในร้านอินเทอร์เน็ต หอพัก หรือที่บ้านตัวเองต่างก็มีเสียงระเบิดดัง “ตู้ม”  ออกมา

 

 

“ฉันเคยเห็นเสี่ยวอวี๋ในเวยป๋ออี้จี้หมิง แต่ว่าคนสุดท้ายคือใคร?”

 

 

“เทพพระอาทิตย์ล่ะ? เทพพระอาทิตย์ไปไหน? พวกเราจะดูเทพพระอาทิตย์!”

 

 

“เกิดอะไรขึ้นกับทีมOST? ไม่มีเทพพระอาทิตย์ลงแข่งแล้วจะเล่นกันยังไง?”

เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ

เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ

ด้วยว่าพ่อแม่หย่าร้างกันตั้งแต่ยังเล็ก และ ฉินหร่าน ไม่ใช่เด็กประพฤติดี นอกจากจะไม่ตั้งใจเรียนจนผลการเรียนย่ำแย่แล้ว เธอยังหัวรั้นและก่อเรื่องทะเลาะวิวาทจนโดนพักการเรียนไปเป็นปี แตกต่างจาก ฉินอวี่ น้องสาวที่เป็นนักเรียนดีเด่นผู้แสนเพียบพร้อมราวฟ้ากับเหว ด้วยเหตุนี้แม่ของเธอจึงเลือกพาน้องสาวไปอยู่ด้วยเพียงคนเดียวและทิ้งฉินหร่านเอาไว้ท่ามกลางชนบท ปล่อยให้เธอเติบโตเพียงลำพังในความดูแลของคุณยายวัยชรา สองยายหลานร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาสิบสองปี จนกระทั่งวันหนึ่งคุณยายเกิดป่วยหนักอาการโคม่าต้องส่งตัวไปยังโรงพยาบาลในเมือง ครอบครัวฉินจึงได้กลับมาพบหน้ากันอีกครั้ง เมื่อคุณยายไม่สามารถดูแลฉินหร่านด้วยตัวเองได้ต่อไปได้อีก แม่ของเธอจึงอาสารับเลี้ยงเธอไว้แทน กระนั้นก็ยังไม่วายเหน็บแนมหญิงสาวอยู่ตลอดว่าอย่าทำตัวน่าขายหน้า ให้เอาอย่างฉินอวี่ผู้เป็นน้องบ้าง กระนั้นกลับไม่มีใครล่วงรู้เลยว่านอกจากฉินหร่านจะมีใบหน้างดงามเกินเด็กอายุรุ่นราวคราวเดียวกันแล้ว เธอยังมีอีกหนึ่งตัวตนปริศนาที่ซุกซ่อนเอาไว้อยู่ เพราะใครกันล่ะที่ทำข้อสอบกากบาททุกข้อแล้วผลคะแนนสอบจะออกมาได้เท่ากับศูนย์ในทุกๆ วิชา เธอโง่จริงๆ หรือว่าตั้งใจกันแน่… เช่นเดียวกับ เฉิงเจวี้ยน หมอหนุ่มประจำโรงเรียนที่แสนธรรมดาคนนั้น ทว่า…เขาเป็นแค่หมอประจำโรงเรียนจริงหรือ เมื่อโชคชะตานำพาให้คนสองคนที่ปกปิดตัวตนของตัวเองเอาไว้ได้มาพบกัน หน้ากากของใครจะถูกกระชากออกมาก่อนนะ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset