เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System) – ตอนที่ 94 เทพแห่งระบบบ้าไปแล้ว…

บทที่ 94 เทพแห่งระบบบ้าไปแล้ว…
ฟางหนิงจ้องไปที่ด้านนอกผ่านมุมมองของระบบ ขณะนี้มังกรเพลิงกำลังบินอยู่เหนือเมฆ ท้องฟ้าและมวลเมฆสีขาวด้านล่างเคลื่อนกลับอย่างรวดเร็ว

เพียงแต่ว่ายังไม่ทันได้ยินเสียงฟ้าร้อง ก็ดูเหมือนจะมีความเร็วเหนือเสียงอื่นแทรกเข้ามาก่อนแล้ว

แต่ด้วยความเร็วของชั่วโมงบินในตอนนี้ ฟางหนิงคาดว่าเขาจะสามารถไปถึงจุดหมายปลายทางได้ภายในเวลาไม่ถึงสามชั่วโมง

ขณะที่กำลังเพลิดเพลินกับทิวทัศน์นั่นเอง ฟางหนิงก็คิดถึงกระบวนการเสแสร้ง

ฟางหนิง “ระบบ ตอนที่แกลงมาจากฟ้า มังกรพายุอีกตัวจะดูดกลืนต่อเหล่านั้นในคราวเดียวสินะ ฉากนั้นจะต้องยิ่งใหญ่อลังการแน่นอน พวกมันจะต้องตกใจชักดิ้นชักงอ ทั้งที่อัศวิน A ยังไม่ได้ออกโรง นี่อาจเป็นเหตุฉุกเฉินที่สำคัญในเสินโจว”

ระบบ “โฮสต์ไม่จำเป็นต้องสอนระบบเกี่ยวกับการต่อสู้…”

ฟางหนิง “ฉันผิดไปแล้ว…ฉันแค่คิดว่ามันคงจะดีถ้าถ่ายวิดีโอเอาไว้ ลองถามสำนักสัจธรรมสิว่าพอจะสามารถขยายต่อสาธารณะได้ไหม สิ่งนี้อาจสามารถทำเงินได้มาก แกไม่รู้หรอกว่าการถ่ายทอดสดนั้นดังแค่ไหนและดึงดูดเงินได้ตั้งเท่าไหร่…”

ระบบ “อย่าปล่อยให้ข้อมูลการต่อสู้ของฉันรั่วไหลก็พอ”

ฟางหนิงตอบกลับ “ถ้าอย่างนั้นก็ลืมมันไปเถอะ ตอนนี้มีวิธีหาเงินอีกหลายทาง แต่ไพ่ตายจะให้รั่วไหลไม่ได้ ต้องห้ามไม่ให้คนในสำนักสำนักสัจธรรมปล่อยภาพเผยแพร่ต่อสาธารณะ ไม่อย่างนั้นจะได้รับผลกระทบใหญ่เกินไป แค่ป้องกันไม่ให้ผู้อื่นขโมยหรือถ่ายทำก็พอ แกจำตอนที่ตีอสูรฉีเทาได้ไหม ในตอนนั้นมีสายลับฮัมมิ่งเบิร์ดสองคนที่ลอบตามหลังมาแอบถ่ายพวกเรา”

ขณะที่พูดนั้น ระยะห่างอยู่ไม่ไกลจากภัยพิบัติที่ระบุในหน่วยข่าวกรองซึ่งใช้เวลาบินเพียงครึ่งชั่วโมง ทันใดนั้นฟางหนิงก็สังเกตเห็นว่า QQ ส่องแสงกะพริบวาบอีกครั้ง

เจิ้งเต้า “เมื่อครู่สำนักสัจธรรมติดต่อผมมาเร่งด่วน เครือข่ายเทียนลั่วสัมผัสได้ถึงลมปราณของสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังแล่นผ่านไปด้วยความเร็วสูง พวกเขาถามว่าท่านมังกรกำลังรีบไปที่เกิดเหตุโดยใช้ร่างจริงไหม?”

ฟางหนิงแสร้งทำเป็นวางมาด “อืม ฉันอยู่กับเขาแล้ว อีกไม่นานภัยพิบัตินี้จะคลี่คลายในทันที บอกให้พวกเขาอุ่นใจและเตรียมรางวัลหลังจบงานไว้ก็พอ ภารกิจพิเศษระดับสูงแบบนี้คงไม่มากเกินไปหรอก อย่างน้อยก็สักสองร้อยล้านหยวน”

เจิ้งเต้าทำอะไรไม่ถูก “ไม่ใช่อย่างนั้น พวกเขาขอให้ท่านมังกรอย่ารีบไปที่เกิดเหตุในร่างจริง เพราะในเวลานี้ฝูงต่อกำลังรวมตัวกัน เพราะมีสัญญาณการรวมฝูงกระจัดกระจายโดยรอบ จากการวิเคราะห์บุคคลที่เกี่ยวข้องพบว่าน่าจะเป็นเพราะพวกมันสัมผัสได้ถึงการมาของศัตรูธรรมชาติ มันจึงเริ่มโหมโรงวิ่งไปรอบๆ เมื่อรวมกับข้อมูลการลาดตระเวนของเครือข่ายเทียนลั่วแล้ว พวกเขาเริ่มอนุมานได้ว่าอาจเป็นเพราะมังกรจริงที่ทำให้พวกมันรู้สึกตัว”

ฟางหนิงพูดไม่ออกหลังจากได้ยินเรื่องนี้ “โอเค ฉันเข้าใจแล้ว”

ฟางหนิงพูดกับระบบ “แกสามารถยับยั้งออร่าความเก่งกาจที่เปล่งประกายจากตัวแกได้ไหม?”

ระบบ “มันง่ายที่จะยับยั้งภายใต้ร่างมนุษย์ แต่ตอนนี้อยู่ในร่างของมังกรแล้ว ร่างมังกรนั้นแข็งแกร่งเกินไป ผลของวิทยายุทธ์กลั้นลมปราณมีขนาดเล็กมากและอาวุธวิเศษก็ไม่ได้มีประสิทธิภาพขนาดนั้น”

ฟางหนิงถอนหายใจ “เรื่องนี้ฉันเข้าใจ ทุกครั้งที่ฉันเห็นระบบแจ้งเตือน ศัตรูเหล่านั้นจะถูกกดขี่ด้วยพลังมังกรของแกและไม่สามารถใช้ทักษะของพวกมันได้ ฉันรู้ดีว่าสิ่งนี้รุนแรงแค่ไหน คราวที่แล้วสุนัขทั้งสองยังสัมผัสได้ถึงการโจมตีของมังกรเพลิงล่วงหน้าจนวิ่งหนีไป ตอนนี้พวกมันก็สัมผัสได้ถึงต่อกลายพันธุ์กลุ่มนี้ จึงไม่แปลกนักเพราะพวกมันไวต่อความรู้สึก ที่นี่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตรจากพวกมันเลยนะ! ด้วยประสาทสัมผัสในการดมกลิ่นที่เฉียบแหลม ทำให้มีพลังการให้เหตุผลเทียบเท่ากับนักสืบชื่อดังเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นเราต้องระวังให้ดี”

ระบบตอบกลับ “ระบบไม่เข้าใจ…”

ฟางหนิง “เมื่อถึงเวลาฉันจะเตือนแกเอง ตอนนี้กลับเข้าไปอยู่ในร่างมนุษย์ก่อน”

ในระหว่างการสนทนาของทั้งสอง ระบบก็เสาะหาพื้นที่ห่างไกลแล้วลงสู้พื้นดินเพื่อกลับสู่ร่างมนุษย์อีกครั้ง

ฟางหนิงเป็นกังวล “ในกรณีนี้ หลังจากมาถึงสถานที่แล้ว แกไม่สามารถใช้ค่ายกลเพื่อโจมตีได้ใช่ไหม?”

ระบบ “ในร่างมนุษย์ก็สามารถใช้ได้ แต่พลังและระยะอาจไม่ดีเท่าร่างมังกรจริง แต่พวกมันเป็นเพียงต่อขนาดเท่านกกระจอก อานุภาพของสิ่งนี้มากพอที่จะฆ่าพวกมันได้แน่นอน”

ขณะพูดนั้นอัศวิน A ก็วิ่งไปยังจุดหมายปลายทางด้วยความเร็วสูง แต่ความเร็วในการวิ่งนั้นกลับเทียบกับความเร็วในการบินไม่ได้เลยสักนิด เดิมทีเหลือเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง แต่ตอนนี้กลับใช้เวลาถึงสองชั่วโมงในการวิ่ง

ผ่านไปครู่หนึ่ง เจิ้งเต้าก็ส่งข้อความมาอีกครั้ง “คนจากสำนักสัจธรรมแจ้งมาว่าสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังที่เดินทางด้วยความเร็วสูงนั้นได้หายไปแล้ว อีกอย่างฝูงต่อกลายพันธุ์ก็หยุดกระบวนการจัดกลุ่มแล้วด้วย นายท่านกลับร่างมนุษย์แล้วหรือ?”

ฟางหนิง “ใช่ ดูเหมือนว่ากลุ่มต่อจะสามารถตรวจจับการมาถึงของมังกรจริงได้ แต่พวกมันตรวจจับได้ยังไงและด้วยวิธีการอะไรนั้นนายต้องตรวจสอบให้ละเอียด ตอนนี้เรายังห่างจากพวกมันมาก”

เจิ้งเต้า “ผมจะขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องครับ”

…………

ในเวลานี้หุบเขาทางตะวันตกเฉียงใต้ ที่ไหนสักแห่งในฐานบัญชาการลับ

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสำนักสัจธรรมเอ่ยขึ้น “การเตรียมการเจ้าหน้าที่ที่จะเริ่มต้นการล้อมปราบปรามนเป็นยังไงบ้าง?”

ผู้อำนวยการหน่วยงานกิจการพิเศษปาเฉิง “ทางฝั่งตะวันออกจัดเตรียมเรียบร้อยแล้วครับ”

ผู้อำนวยการหน่วยงานกิจการพิเศษซูเฉิง “ทางเหนือและตะวันตกก็ได้รับจัดเตรียมเรียบร้อยแล้วเหมือนกัน”

ผู้อำนวยการหน่วยงานกิจการพิเศษเตียนเฉิง “ทางใต้เรียบร้อยดีแล้วครับ”

เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนนั้นไปที่แผนที่เพื่อสั่งการ “สั่งให้พวกเขาวางตาข่ายทุกด้านทันทีแล้วค่อยๆ ล้อมมัน เซวียเฟิงนายไปถามเรื่องความช่วยเหลือจากต่างประเทศ จากความแข็งแกร่งของพวกเขา นายสามารถจัดการกับพวกเขาได้ทันทีและแจ้งให้พวกเขารีบไปยังตำแหน่งสำคัญทั้งสี่นี้ เหนือ ใต้ ออก และตก กระจายกองกำลังสนับสนุนเคลื่อนที่เพื่อเข้าช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ทหารรักษาการณ์ของเราในการจัดการกับราชาต่อที่อาจหนีไปได้”

มีเพียงชายหนุ่มถือดาบที่หลังจากเห็นสถานที่หลายแห่งบนแผนที่นั้น ลุกยืนขึ้นอย่างไร้อารมณ์และและเดินไปยังประตู

ไม่นานเขาก็กลับมาอีกครั้ง “ได้รับแจ้งแล้ว ท่านเทพมังกรและมังกรขาวทั้งสองไปถึงสถานที่ที่กำหนดทางทิศตะวันออกภายในหนึ่งชั่วโมง พระโพธิสัตว์ปีศาจไปถึงทางทิศใต้ภายในครึ่งชั่วโมง ราชาดาบเทียนจิงจะมาถึงทางทิศตะวันตกในยี่สิบนาที และนักบวชลัทธิเต๋าแห่งจื่อซานกวนอยู่ใกล้กับทางภาคเหนือและสามารถไปถึงที่นั่นได้ภายในห้านาที นอกจากนี้ยังมีกลุ่มชาวบ้านที่เดือดร้อนมารวมตัวกันที่นี่ในเวลาอีกประมาณสองชั่วโมง”

เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนนั้นเอ่ย “ระบุกลุ่มคนที่ได้รับความเดือดร้อน แต่ไม่มีประวัติและไม่ได้ระบุตัวตน ปล่อยให้พวกเขารออยู่ในที่ที่พวกเขาอยู่ อย่ารีบเร่งเพื่อไม่ให้มีการบาดเจ็บเพิ่มขึ้น ท้ายที่สุดภารกิจพิเศษในระดับนี้ยังไงก็อยู่ภายใต้ความดูแลของเรา การสนับสนุนจากต่างประเทศของพวกเขาเป็นเพียงการเติมแต่งเท่านั้น”

เซวียเฟิงพยักหน้าและไปยังประตู

สิ่งที่เรียกว่าการรวมพลังทั้งหมดที่สามารถรวมกันได้นั้นไม่ใช่การพูดเรื่อยเปื่อย และอัศวิน A ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น พลเมืองหลายคนผู้มีตำแหน่งโดยชอบธรรมที่เต็มใจอุทิศตนเพื่อสำนักสัจธรรม ถึงไม่อยากเข้าระบบที่มีข้อจำกัดมากเกินไป แต่พวกเขาทั้งหมดก็ได้ลงนามในหน่วยความร่วมมือด้านกิจการพิเศษอยู่แล้ว

แม้แต่ราชาผี ทั้งกองกำลังฐานลับและเผ่าอสูรหนูยักษ์ ก็ยังไม่มีใครกล้าตั้งตัวเป็นเป็นศัตรูหรือพยายามสร้างความแตกแยกเลย

…………

ในเวลานี้อัศวิน A อยู่ในบังเกอร์บนภูเขา กำลังยืนอยู่บนยอดไม้สีเขียวชอุ่มขนาดใหญ่ มองไปรอบๆ

รอบๆ ตัวเขา มีเจ้าหน้าที่ทางทหารที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีจำนวนมากกระจัดกระจายอยู่ทั่ว ประจำจุดสำคัญอยู่ทุกหนทุกแห่ง มีการสร้างป้อมปราการเรียบง่ายขึ้นอย่างเร่งด่วน

พวกมันถูกซ่อนไว้อย่างดีและติดตั้งอาวุธที่ไม่สามารถระบุตัวตนไว้มากมาย แต่มุมมองของระบบยังคงยอดเยี่ยม ฟางหนิงค้นพบได้อย่างรวดเร็วว่าพวกมันซ่อนตัวอยู่ที่ไหน และหลังจากดูไประยะหนึ่ง เขาก็พบว่าอาวุธที่พวกเขาใช้นั้นแตกต่างไปจากอาวุธทั่วไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งอาจเป็นอาวุธที่ได้รับการดัดแปลงมาจากอาวุธทั่วไป

ภายในพื้นที่ของระบบ

ระบบ “เป็นการกำจัดที่ใหญ่โตจริงๆ ทำไมโฮสต์ถึงอยากมาที่นี่?! จากตรงนี้กับระยะห่างไปถึงตัวบอสนั้น ระบบสัมผัสได้ว่าในพื้นที่นี้หนาแน่นไปด้วยพวกปีศาจ”

ฟางหนิงอธิบายด้วยความหงุดหงิด “แกคิดซะว่ามันเป็นหนังแล้วกัน มีภารกิจพิเศษอะไรบ้างที่ให้ฮีโร่พวกนั้นกอบกู้สถานการณ์? สำนักสัจธรรมไม่ใช่ผู้กำกับ แค่อำนวยให้เราขึ้นเวทีเพื่อโชว์การแสดง พวกเขาจะต้องวางแผนอย่างเข้มงวด เหมือนกับหลักการสี่เหลี่ยมหกมุมและสิบด้านของแผนตาข่ายในปลายราชวงศ์หมิงตอนปลายในประวัติศาสตร์ ซึ่งชั้นล่างของวงล้อมได้รับการจัดวางแล้ว พร้อมที่จะกำจัดต่อกลายพันธุ์ฝูงนี้ เนื่องจากเราใช้เครือข่ายข่าวกรองของคนอื่นเพื่อให้ได้รู้ว่ามีสิ่งแปลกปลอมที่นี่ ทั้งยังพึ่งพาผู้อื่นเพื่อล้างข้อมูลตัวตนของเราด้วย ฉะนั้นเราจะรอที่นี่อย่างใจจดใจจ่อเพื่อรอจับปลาที่ลอดผ่านอวนเข้ามา”

หลังจากที่ฟางหนิงพูดจบ เทพแห่งระบบก็ไม่ได้ตอบกลับอะไร

ฟางหนิงรู้สึกว่าสถานการณ์ในตอนนี้ลงตัวแล้ว เพียงแต่ยังคิดบางอย่างไม่ออก เขาไม่ใช่ระบบที่มีอารมณ์ฝึกฝนความขยันได้ทุกที่ทุกเวลา จึงขอเตรียมตัวเอาเวลาไปขโมยเล่นเกมดีกว่า

แต่ก่อนที่เรื่องนั้นจะเกิดขึ้น ระบบก็ปรากฏตัวขึ้นก่อน ทำเอาฟางหนิงหมดอารมณ์จะเล่นเกม

น่าขันจริงๆ ระบบที่บินได้หลายพันลี้ ไม่ทันไรก็จับปลาที่เล็ดลอดผ่านตาข่ายได้แล้ว!

ระบบกำลังประมวลผล…

ระบบกำลังประมวลผล…

ระบบกำลังประมวลผล…

ระบบตัดสินใจกำจัดแตนยักษ์กลายพันธุ์เพื่อเก็บเลเวล

ฟางหนิงรีบร้องตะโกน “เฮ้ แกจะไปคนเดียวอีกแล้วเหรอ? ผลที่ตามมาอาจเป็นเรื่องร้ายแรงมากนะ!”

อัศวิน A หูทวนลม ลอยตัวลงมาจากต้นไม้อย่างเงียบเชียบ

เขาเดินผ่านป่าทึบไปตลอดทาง แม้ว่าจะมีเจ้าหน้าที่ทางทหารที่ตื่นตัวอยู่โดยรอบ แต่กลับไม่มีใครสามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวของอัศวิน A ได้เลย เช่นเดียวกับเครือข่ายของสำนักสัจธรรมที่ไม่ตอบสนองใดๆ

ฟางหนิงเรียกอีกสองสามครั้ง เขายืนยันว่าเทพแห่งระบบได้เข้าสู่สถานะเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์เต็มรูปแบบและอยู่ในสถานะที่ไม่เชื่อฟังคำสั่งอีกแล้ว

เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่ไม่กล้าขอให้เจิ้งเต้าแจ้งสำนักสัจธรรม เพราะการรบกวนความสนใจของเทพแห่งระบบในการฆ่าปีศาจนั้นมีผลที่ตามมาร้ายแรงยิ่งกว่า

ฟางหนิงรีบใช้สมองของเขาคิดหาวิธีจัดการกับผลที่ตามมาทั้งหมด

เขารู้ว่าแม้เทพแห่งระบบจะบ้าคลั่ง แต่ข้อเสนอแนะของเขานั้นสมเหตุสมผลมากทีเดียว“กับดักถูกจัดเรียงแบบนี้ พวกเขาคงไม่อยากให้ฝูงต่อนั่นผ่านออกไปได้แม้แต่ตัวเดียว”

“สล็อตพลังปราณเหลือไม่มากแล้วนะ สองวันที่ผ่านมาคุณเปลี่ยนร่างเป็นมังกรไปมา แล้วยังเล่นเกมจนไม่มีเวลากลับมาเก็บเลเวลคืน”

“ถ้าการอาละวาดโดยพลการของคุณนำไปสู่อันตรายที่เพิ่มมากขึ้นล่ะก็ ระวังว่าสล็อตความกล้าหาญจะลดลงล่ะ”

……………………………………………………..

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System)

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System)

SBTS, 我被系统托管了
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2017 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System)จู่ๆ ก็มีดาวตกพุ่งลงมาที่โลก ทำเอาพื้นดินถึงกับสั่นไหวเล็กน้อย แต่แรงสั่นสะเทือนนั้นกลับทำให้ 'ฟางหนิง' หัวโขกกับโต๊ะคอมพิวเตอร์จนสลบไป ตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตัวเขามีระบบ ขณะที่กำลังจะดีใจว่าในที่สุดก็มีขาทองคำมาให้เกาะ เจ้าระบบนั่นกลับประเมินว่าเขาเป็นโรคขี้เกียจระยะสุดท้าย ปล่อยไว้ไม่มีทางเจริญก้าวหน้า และทำการยึดครองร่างของเขาซะงั้น!? ... จากหนุ่มโอตาคุผู้แสนจะขี้เกียจที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆ กลับต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนโฉมตนเองเป็นฮีโร่คอยปราบปรามเหล่าปีศาจร้าย ปกป้องเมืองที่ตนอยู่อาศัย และฝึกวิทยายุทธ์เพื่อก้าวสู่จุดสูงสุดนิ้วทองคำของระบบ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset