เลขากลีบฉ่ำ – ตอนที่ 6

พราวฟ้าพาร่างอ่อนแรงของตัวเองเดินออกมาหาราฟาเอลที่ห้องรับแขก

“คุณมาได้ยังไงเนี่ย”

“ผมผ่านมาพอดีน่ะ”

ราฟาเอลมองพราวฟ้าด้วยความแคลงใจ เมื่อสายตามองไปเห็นปลายจมูกแดงจัด และดวงตาที่บวมช้ำของเจ้าหล่อน

“คุณร้องไห้หรือ”

“ฉัน…”

พราวฟ้าทรุดตัวลงนั่งข้างๆ ราฟาเอล พยายามจะโกหกเขา แต่น้ำตาก็ไหลรินออกมาประจานความอ่อนแออยู่ดี

โอเค… ร้องไห้ให้สาสมใจ แล้วพรุ่งนี้หล่อนจะไม่มีวันร้องไห้ให้กับคริสเตียโนอีกแล้ว หล่อนจะต้องตัดใจจากเขาให้ได้เด็ดขาดเสียที

“ฉันอกหักน่ะ”

“อกหัก?”

“ใช่ ผู้ชายที่ฉันแอบรักเขากำลังจะแต่งงาน”

สีหน้าของผู้ชายข้างกายไม่ได้แสดงความรู้สึกใดออกมา นอกจากเรียบเฉย แต่แววตาของเขาซ่อนอะไรบางอย่างเอาไว้ที่หล่อนไม่รู้

“คุณก็เลยลางานมาร้องไห้”

“คุณรู้ได้ยังไงน่ะว่าฉันลางานมา”

“ก็นี่มันบ่ายวันพุธ แล้วคุณดันอยู่บ้าน ก็แสดงว่าคุณไม่ขาดงาน ก็ลางานมาครึ่งวัน จริงไหมครับ”

หล่อนพยักหน้าตอบรับเขาไปตามความจริง

“ใช่ค่ะ ฉันลางานมา พอฉันรู้ว่าคนที่ฉันแอบรักมานาน กำลังจะแต่งงาน ฉันก็… ทำอะไรไม่ถูกเลย”

“คุณคงรักเขามาก”

“แน่นอนล่ะ เพราะฉันแอบรักเขามาตั้งแต่สมัยมัธยมนู้นแล้ว”

น้ำตาของหล่อนร่วงกราว จนราฟาเอลต้องยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้ หญิงสาวรับมาเช็ดน้ำตา และเอาสั่งน้ำมูกเฮือกใหญ่

“ฉันจะซักคืนคุณนะ”

“ไม่ต้องแล้วล่ะ ผมให้เลยก็แล้วกัน”

ราฟาเอลอมยิ้มขบขัน และมองพราวฟ้าที่กำลังเป่าปี่น้ำตาแตกเงียบๆ

“ฉันงี่เง่ามากใช่ไหม ที่ตัดใจไม่ได้สักที ทั้งๆ ที่เขาก็ไม่เคยมองฉันเลย”

“ไม่หรอก ความรักมันบังคับกันได้ง่ายๆ ที่ไหนล่ะ ขนาดผมยัง…”

ราฟาเอลคล้ายกับจะพูดอะไรออกมา แต่ก็หยุดพูดเอาเสียดื้อๆ

“คุณจะพูดอะไรน่ะ”

“เปล่าหรอก ไม่มีอะไรหรอกครับ”

พราวฟ้าไม่ได้ซักถามต่อ เพราะตัวเองกำลังโศกเศร้าอยู่ จึงนั่งร้องไห้ต่อไป โดยมีราฟาเอลนั่งมองอยู่ใกล้ๆ ไม่ห่าง

“คุณแน่ใจนะว่าอยากจะดื่มเหล้าน่ะ”

ราฟาเอลเอ่ยถามคนที่นั่งอยู่บนรถข้างกายอีกครั้งด้วยความประหลาดใจ

“ค่ะ ฉันอยากดื่ม ฉันจะได้ลืมผู้ชายคนนั้นยังไงล่ะคะ”

“แต่คุณไม่เคยดื่มเหล้าไม่ใช่หรือ และมันก็ไม่ดีสำหรับผู้หญิงด้วย”

ตอนนี้พราวฟ้าไม่คิดอะไรอีกแล้ว สิ่งที่ต้องการก็คือต้องการลืมคริสเตียโนให้ได้เร็วที่สุด

“ไม่มีใครมาสนใจยัยแว่นหนาแต่งตัวราวกับแม่ชีอย่างฉันหรอกค่ะ”

พราวฟ้าก้มลงมองสภาพเชยๆ ของตัวเอง และยิ้มออกมาเศร้าๆ

“บางทีถ้าฉันเปลี่ยนแปลงตัวเอง เขาคนนั้นก็อาจจะหันมามองฉันบ้าง”

หล่อนพูดไปอย่างนั้นแหละ เพราะรู้แล้วว่าหมดหวังในตัวของคริสเตียโนแล้ว เพราะเขากำลังจะแต่งงานนั่นเอง

“การแต่งตัวมันก็แค่เปลือก ถ้าคนเรามองกันแค่เปลือก จะหาความจริงใจได้จากที่ไหนล่ะครับ”

หล่อนช้อนตาขึ้นมองราฟาเอล ผู้ชายคนนี้เป็นใครกันนะ ทำไมเขาถึงได้ดีกับหล่อนแบบนี้ และเพราะเขาดีกับหล่อนแบบนี้ใช่ไหม หล่อนถึงไว้ใจเขาเช่นนี้

“คุณพูดถูก แต่มันน่าจะใช้ไม่ได้กับคนสมัยนี้”

“แต่ถ้าผมเป็นคุณ ผมจะไม่สนใจเลยว่าใครจะมองยังไง เราแค่ทำในสิ่งที่หล่อนต้องการ แค่เป็นในสิ่งที่เราอยากจะเป็นก็พอ”

“คุณหล่อแบบนี้ ก็พูดได้น่ะสิคะ แต่ฉันน่ะ ทั้งเฉิ่ม ทั้งเชย เหมือนป้าแก่ๆ ไม่มีผิด”

“ยังมีผู้ชายที่ไม่ได้มองผู้หญิงที่เปลือกนอกอยู่ครับ สักวันคุณจะเจอเขาคนนั้น”

สายตาของราฟาเอลที่ประสานมองจ้องมองนั่นทำให้หัวใจของหล่อนเต้นโครมครามแปลกประหลาด จนต้องยกมือขึ้นกุมหน้าอกของตัวเองเอาไว้

“เราเข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ”

หล่อนตัดบท และเสหลบสายตา

“ครับ”

ราฟาเอลก้าวลงไปจากรถ และเดินอ้อมมาเปิดประตูรถให้กับหล่อน

“เชิญครับ”

“ขอบคุณค่ะ”

หล่อนก้าวลงไปจากรถ และมองสถานบันเทิงเบื้องหน้าด้วยความตื่นตระหนก เพราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยย่างกายเข้ามาใกล้สถานที่แบบนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว

“เปลี่ยนใจยังทันนะครับ”

“ไม่ค่ะ ฉันไม่เปลี่ยนใจหรอก”

“งั้นก็โอเคครับ”

แล้วราฟาเอลก็ยื่นมือออกมาข้างหน้า ส่งสัญญาขอจับมือหล่อน

“คุณเดินจับมือฉัน ไม่อายเหรอคะ”

“ทำไมผมต้องอายล่ะ”

แล้วเขาก็คว้ามือของหล่อนไปกุมทันที โดยที่หล่อนยังไม่ทันอนุญาต

“นี่คุณ…”

หล่อนขืนตัวเอาไว้ แต่เขาไม่สนใจ ลากหล่อนเดินผ่าฝูงชนเข้าไปภายในตัวสถานบันเทิง

“อย่าดื้อสิครับ”

ตลอดทางหล่อนเห็นสายตาของผู้คนทั้งหญิงและชายมองจ้องมา แม้ภายในจะค่อนข้างมืดสลัว แต่หล่อนก็พอจะเห็นสายตาขบขันของทุกคนได้เป็นอย่างดี

หล่อนรู้สึกไม่ดีเลยที่ทำให้ราฟาเอลต้องถูกมองเป็นตัวตลกไปด้วย แต่เขาสิ… กลับไม่มีทีท่าทุกข์ร้อนอะไรเลยแม้แต่น้อย กลับยิ้มแย้มไปตลอดทางอีกต่างหาก

อีตาบ้านี่คิดอะไรอยู่กันนะ?

“คุณเมามากแล้วนะครับ พราวฟ้า”

เสียงเตือนของราฟาเอลทำให้พราวฟ้าเงยหน้าขึ้นจากแก้วเหล้าที่กุมเอาไว้แน่น และยิ้มออกมาอย่างครองสติไม่อยู่

“ฉันไม่ม่าววววว สักหน่อย…”

“แต่ผมว่าคุณเมาแล้วนะครับ”

“ไม่ม่าวววว เอาอีก… ฉันจะดื่มอีก… เอามาอีกแก้วน้องงงงง”

แล้วพราวฟ้าก็ตะโกนโหวกเหวียกเรียกพนักงานเพื่อจะสั่งเหล้าเพิ่ม แต่ราฟาเอลห้ามเอาไว้เสียก่อน จากนั้นก็เช็คบิล และพยุงกึ่งลากหญิงสาวออกจากสถานบันเทิงอย่างทุลักทุเล

“ไม่อ้าวววว ไม่กลับ… นี่คุณปล่อยฉันนะ… ฉันจะดื่มเหล้าต่อ…”

“ทำไมเวลาเมา แล้วแปลงร่างเป็นแบดเกิร์ลแบบนี้ล่ะ พราวฟ้า”

ราฟาเอลดันร่างโซซัดโซเซของพราวฟ้าเข้าไปในรถ และก้มลงไปคาดเข็มขัดให้ จากนั้นก็รีบเดินกลับขึ้นมานั่งหลังพวงมาลัยรถ

“แล้วจะพาไปสงบสติอารมณ์ที่ไหนดีเนี่ย พากลับไปส่งที่บ้านตอนนี้คงไม่ดีแน่ๆ”

“ฉันไม่กลับบบบ เอาเหล้ามา… เอาเหล้ามา…อีก…”

ราฟาเอลมองผู้หญิงที่พึมพำอะไรไม่หยุดข้างกายด้วยความเป็นกังวล เขายื่นมือไปเอาแว่นออกจากใบหน้าของหล่อนแผ่วเบา ก่อนจะเคลื่อนรถคันงามออกจากหน้าสถานบันเทิงไปอย่างช้าๆ

เลขากลีบฉ่ำ

เลขากลีบฉ่ำ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย เลขากลีบฉ่ำคริสเตียโน ซาโนรี่ หรี่ตามองเลขาหน้าห้องของตัวเองด้วยความประหลาดใจ พราวฟ้า บวรศักดิ์ ทำงานกับเขามาห้าปีเต็ม ตั้งแต่หล่อนจบปริญญาตรีมาใหม่ๆ หญิงสาวเป็นคนหัวไว ทำงานคล่องแคล่ว และรู้ใจเขาเป็นที่สุด จนเขาคิดว่าจะทำงานกับเลขาคนนี้ไปจนกว่าบริษัทตัวเองจะเจ๊ง แต่จู่ๆ หล่อนก็มายื่นใบลาออก โดยให้เหตุผลว่า ‘เบื่อ’ ที่หล่อนเบื่อนี่ หล่อนเบื่องาน หรือว่าเบื่อเจ้านายอย่างเขากันแน่? “ผมยังไม่อนุมัติหรอกนะ จนกว่าผมจะได้เหตุผลดีๆ จากการยื่นใบลาออกของคุณ พราวฟ้า” เขาจะมารั้งหล่อนเอาไว้ทำไมกัน ในเมื่อเลขาหน้าตาเฉิ่มเชยอย่างหล่อน ก็เป็นได้แค่ทาสที่เดินตามเขาต้อยๆ เท่านั้น ไม่เคยเลยที่เขาจะหันมามองหรือว่าใส่ใจความรู้สึกของหล่อน เพราะอะไรน่ะเหรอที่หล่อนทำงานกับเขามายาวนานขนาดนี้ เพราะว่าหล่อนตกหลุมรักเขายังไงล่ะ หล่อนเห็นเขาตั้งแต่ตอนที่ตัวเองเพิ่งเรียนอยู่ระดับชั้นมัธยมปีที่สามเท่านั้น คริสเตียโน ได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรพิเศษที่โรงเรียน และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา หล่อนตั้งใจและใฝ่ฝันว่าจะต้องเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขาให้ได้ ซึ่งเวลาผ่านมาอีกหลายปีหล่อนก็ทำสำเร็จ หล่อนได้เข้าไปทำงานในบริษัทของเขา และก็โชคดีมากที่ได้ตำแหน่งเลขาหน้าห้องมาครอบครอง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset