มงกุฎแอนเดรียเป็นมงกุฎอันโปรดของจักรพรรดิผู้ก่อตั้งประเทศลากัค มงกุฎนี้ได้รับการออกแบบและสร้างโดยช่างฝีมือที่ดีที่สุดในประเทศ อัญมณีและทองคำที่ใช้คือสิ่งที่ดีที่สุดในประเทศ รูปแบบและฝีมือในการทำ มงกุฎนี้ก็มีเอกลักษณ์ในแบบที่ไม่มีใครเหมือน เพราะว่าจักรพรรดิผู้ก่อตั้งได้สังหารช่างฝีมือหลังจากที่พวกเขาทำมงกุฎนี้เสร็จ คนรุ่นหลังเสียดายช่างฝีมือเหล่านั้นมาก ต่อมามงกุฎนี้สูญหายไปในสงครามแล้วก็ไม่ได้พบเห็น อีกเลย แต่วันนี้กลับได้เห็นที่นี่! ขุนนางในที่นี้รวมถึงฮว๋าซิ่วหนิงจำได้เลยว่ามงกุฎในมือของหลี่เยว่เหวินนั้นคือมงกุฎแอนเดรียอย่างแน่นอน! เพราะไม่มีใครทำปลอมได้อีกแล้ว มงกุฎนี้ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ เทียบได้ ! ในประวัติศาสตร์ของจักรพรรดิ ภาพของจักรพรรดิผู้ก่อตั้งจะสวมมงกุฎนี้อยู่ตลอด! ทำไมมงกุฎแอนเดรียจึงมาปรากฏอยู่ที่นี่และเป็นของบริจาคของตระกูลหลี่ได้ล่ะ?
“บังเอิญได้มาเพคะ” แคลร์ยิ้มบางๆ “เช่นนั้น พวกเราขอลาไปก่อนเพคะ”
“องค์รัชทายาทเพคะ พวกเราขอทูลลา” หลี่เยว่เหวินช่วย แคลร์ขณะนางหมุนตัว เดินจากไป เหลือไว้เพียงกลิ่นหอมจางๆ ในอากาศเท่านั้น
องค์รัชทายาทพยักหน้าเล็กน้อย สีหน้าค่อนข้างดูซับซ้อน
เหล่าขุนนางชะเง้อคอจ้องไปที่หลังของแคลร์ แต่องค์รัชทายาทยังคงจับจ้องมงกุฎอยู่ ความคิดนับไม่ถ้วนเข้ามาในความคิดของเขา
หญิงลึกลับผู้นี้เป็นใคร? ทำไมถึงมีมงกุฎแอนเดรียอยู่ในมือ? ฟังจากน้ำเสียงของนาง สิ่งที่มีค่าเช่นนี้เป็นเพียงสิ่งเล็กน้อย สำหรับนางเท่านั้นและความตั้งใจของนางก็ชัดเจนมาก สิ่งที่บริจาคนี้จะถูกประมูลเพื่อสร้างโรงพยาบาล แต่สิ่งนี้ คือสมบัติ ของราชวงศ์ ไม่มีใครกล้าประมูลหรอก ราชวงศ์สามารถประมูลมงกุฎคืนได้ในราคาที่ต่ำที่สุดเลยด้วยซ้ำ หญิงลึกลับที่ไม่มีใครเทียบได้ นำสิ่งนี้มาส่งให้เช่นนี้เลยหรือ? นางมีภูมิหลังแบบไหนกันแน่?
จากนั้นแคลร์ หลี่เยว่เหวิน และคามิลล์ก็ไปจากที่นี่
ทุกคนยังคงอยู่ในอาการอึ้งและไม่สามารถเรียกสติคืนมาได้ การปรากฏตัวของหญิงลึกลับที่ไม่มีใครเทียบนี้เหมือนดอกไม้ไฟที่งดงามที่สุด หลังจากที่นางทำให้ทุกคนตกใจแล้ว นางก็หายตัวไปทันที
สีหน้าของฮว๋าซิ่วหนิงเปลี่ยนไปมาก นางกำหมัดแน่นจนข้อนิ้วเป็นสีขาว เล็บจิกฝังอยู่ในเนื้อโดยไม่มีใครสังเกตเห็น
วันนี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าทึ่งในประวัติศาสตร์เลย
แม้เวลาภายหลังจากนี้ ไปอีกนาน ผู้คนก็ยังคงพูดถึงเรื่องในวันนี้ อยู่ หญิงสาวที่สวยงามราวกับเทพธิดาปรากฏตัวขึ้นที่จัตุรัสของเมือง รูปร่างของนางไม่มีใครเทียบได้ ใบหน้าที่ไม่มีใครเทียบของนางพราวเสน่ห์และน่าหลงใหล ชุดที่ลึกลับและสูงส่งของนางสร้างความประทับใจเป็นอย่างมาก
ในรถม้า แคลร์โยกคอแล้วเอนพิงในรถม้า จากนั้นก็พูดอย่างเย็นชา “ฮว๋าซิ่วหนิง เจ้าดูถูกแม่ข้า ข้าจะคิดบัญชีกับเจ้า”
“แต่ว่าวันนี้สนุกจริงๆ นะ” หลี่เยว่เหวินหัวเราะอย่างมีความสุข “ข้าเห็นนางเกือบจะระเบิดออกมา ข้าอยากจะหัวเราะจริงๆ เลย”
“พี่คิดเรื่องที่จะจัดการต่อไปดีกว่า แล้วก็ร้านเสื้อผ้าได้ดำเนินการแล้วหรือไม่?” แคลร์พูดเบาๆ
“เอ้อ… แผนต่อไป… ” หลี่เยว่เหวินตบหน้าผากแล้วพูด จากนั้นนางก็หันกลับไป “จริงสิ แคลร์ ข้ามองไม่ออกเลยนะว่าเจ้าจะออกแบบเสื้อผ้าได้ด้วย ความสามารถขนาดนี้ พอเปิดร้านเสื้อผ้าแล้ว ธุรกิจจะต้องดี คนต้องมากันแน่นร้านแน่นอน ฮ่าๆ”
แคลร์ยกมุมปากและไม่พูดอะไร ถึงนางจะพูดไปอย่างไรว่ากี่เพ้าเป็นแก่นแท้ของวัฒนธรรมตะวันออก คนเหล่านี้ก็ไม่เข้าใจหรอก
แต่ว่า ขั้นตอนแรกก็สำเร็จไปแล้ว ต่อไปก็จะเป็น จุดเริ่มต้นจริงๆ แล้ว!
ค่ำคืนที่เยือกเย็นราวกับสายน้ำ
ที่ห้องหนังสือในพระราชวัง
“นี่คือมงกุฎแอนเดรียของจักรพรรดิผู้ก่อตั้งจริงๆ” ชายวัยกลางคนที่มีใบหน้าสง่างามมองไปที่มงกุฎในมือของเขาอย่างเคร่งขรึมแล้วพูดยืนยัน เขาแต่งกายด้วยเครื่องแต่งกายสีพระจันทร์เสี้ยวที่งดงามไปด้วยลวดลายสีทองเรียบง่ายบนเสื้อผ้า แหวนนิลขนาดใหญ่ที่นิ้วหัวแม่มือแสดงตัวตนของเขาได้อย่างดี เขาคือจักรพรรดิแห่งลากัค… คารอน คีล แม้ว่าเขาจะอยู่ในวัยกลางคน แต่จากโครงหน้าของเขาก็เห็นได้เลยว่าเขาเป็นผู้ชายที่หล่อเหลามากเมื่อสมัย ที่เขายังเป็นหนุ่ม
“ใช่ ท่านพ่อ นี่คือคริสตัลความทรงจำ ท่านพ่อสามารถดูเหตุการณ์ในวันนี้ได้” องค์รัชทายาทแอ็บบี้ คีลส่งคริสตัลที่ใสบริสุทธิ์ให้
นักเวทย์ในราชสำนักที่ยืนอยู่ข้างๆ จักรพรรดิหยิบมันมาทันที จากนั้นก็ใส่พลังเวทย์เข้าไปเพื่อเปิดคริสตัลความทรงจำ
สายตาของจักรพรรดิเปลี่ยนไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของภาพในคริสตัลความทรงจำ
สาวงามที่ไม่มีใครเทียบได้ เขาไม่เคยเห็นหรือได้ยินมาก่อน ว่ามีคนเช่นนี้ด้วย ทุกย่างก้าวมีดอกบัวโผล่ออกมา นี่นางทำสิ่งนี้ได้อย่างไร?
“แอ็บบี้ เจ้าคิดเห็นอย่างไร?” จักรพรรดิวางมงกุฎลงในมือของเขาและถามองค์รัชทายาทด้วยรอยยิ้ม เขาพอใจมาก ลูกชายเพียงคนเดียวของเขาอย่างมาก ลูกชายคนนี้ เหมือนเขาทุกอย่าง ทั้งความฉลาด ความสงบ ความเอื้ออาทร สายตาที่กว้างไกล และความสามารถทางการทหารนั้นน่าทึ่งยิ่งกว่า จักรพรรดิสามารถคาดการณ์ได้เลยว่าภายใต้การปกครอง ของลูกชายของเขา ลากัคจะต้องไปสู่ยุคที่รุ่งเรืองมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน
“หญิงผู้นี้ลึกลับมาก แต่ว่าข้า มั่นใจเลยว่า เบื้องหลังของนางน่าจะมีกำลังสนับสนุน ที่เราไม่รู้อยู่” องค์รัชทายาทวิเคราะห์เสียงทุ้ม “ประการแรก หญิงผู้นี้เป็นคนแข็งแกร่ง การที่ในทุกย่างก้าวของนางมีดอกบัวปรากฏขึ้นไม่ใช่สิ่งที่เกิดจากความผิดปกติของธรรมชาติ แต่เป็นเพราะนางใช้เคล็ดวิชาลับของนางสร้างมันขึ้นมา ประการที่สอง นางเอามงกุฎแอนเดรียที่หายไปนานของเรามาให้ ประการที่สาม ชุดที่นางใส่ ข้าไม่เคยพบ เคยเห็นมาก่อนเลย ประการที่สี่ รูปลักษณ์ของนางมีเสน่ห์มาก นางเป็นหญิงที่ไม่มีใครเทียบได้เช่นนี้ จะเป็นไปได้อย่างไรที่ไม่มีคนรู้? นางเพิ่งมาปรากฏตัวในวันนี้และดึงดูดสายตาของทุกคน นางคงจะ เติบโตขึ้นภายใต้การคุ้มครองที่เข้มงวดมากเลยทีเดียว”
“ไม่เลว” ความชื่นชมฉายในแววตาของจักรพรรดิ แต่เขา หยุดสายตานั้น และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “แอ็บบี้ เจ้าวิเคราะห์ได้สมเหตุสมผลมาก แต่ว่า มันไม่เพียงพอที่จะบอกว่านางมีกำลังสนับสนุน อยู่เบื้องหลังนาง แต่ว่าที่ข้าสนใจมากที่สุด เจ้าก็คงรู้ ไม่ใช่มงกุฎนี้และก็ไม่ใช่ทรัพย์สินที่มีค่ามากกว่ามงกุฎ”
“ครับ ท่านพ่อ ข้ารู้ว่าท่านพ่อหมายถึงอะไร” องค์รัชทายาทยิ้ม “ท่านพ่อกำลังนึกถึงดาบที่ดูไม่โดดเด่นนั่น”
“ใช่” จักรพรรดิพยักหน้าชื่นชม “ตามที่คาดไว้เลย ลูกชายของข้าเข้าใจ ทันทีว่าข้าคิดอะไรอยู่”
“ข้าได้ส่งคนไปค้นหาแล้ว อาวุธนั้นผลิตโดยคนจากตระกูลหลี่ แต่ว่ามันต้องใช้เวลา พลังงานและวัสดุมากกว่าดาบธรรมดา แม้ว่าดาบเช่นนั้นจะไม่สามารถผลิตได้ในปริมาณมาก แต่หากผลิตดาบที่คุณภาพ ด้อยกว่านั้นสักหน่อยก็น่าจะผลิตได้มากอยู่ ถ้าหากว่าทหารของเราได้อาวุธเช่นนี้ล่ะก็…” มีประกายในดวงตาขององค์รัชทายาท
“แอ็บบี้ เจ้าไปเถอะ หญิงผู้นั้นบอกว่าจะชดใช้อาวุธให้เจ้าอีกไม่ใช่หรือ? เจ้าไปตีสนิทกับนาง ดูว่าที่จริงแล้วนางเป็นมาอย่างไรกันแน่ งานระดมทุนครั้งนี้ได้มามากจริงๆ ไปสืบหาให้แน่ชัดว่านางมีจุดประสงค์อะไรกันแน่” ดวงตาของจักรพรรดิเลื่อนไปมอง มงกุฎที่อยู่ข้างๆ ดวงตาของเขามีประกายความประหลาดใจ มงกุฎนี้งดงามมาก ประกายแวววาวก็ยิ่งดึงดูดผู้คน ไม่แปลกใจที่มงกุฎนี้มีชื่อเสียงมาโดยตลอด ถ้าในสายตาของหญิงสาวที่ไม่มีใครเทียบนั้นมองว่าของล้ำค่าเช่นนี้ มีค่าเพียงของเล็กน้อย เช่นนั้น หญิงผู้นี้มีสมบัติที่ล้ำค่าอะไรอีกล่ะ ในเวลานี้จักรพรรดิก็สงสัยอยู่เช่นกัน
“ครับ ท่านพ่อ เช่นนั้นข้าขอทูลลา” องค์รัชทายาททำความเคารพและกล่าวลา
“เดี๋ยวก่อน แอ็บบี้” จักรพรรดิเรียกองค์รัชทายาทไว้ด้วยรอยยิ้ม
“ท่านพ่อมีอะไรจะสั่งอีกหรือครับ?” องค์รัชทายาทถามอย่างสงสัย
“แอ็บบี้ ถ้าหญิงผู้นี้มีผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังที่เราไม่รู้ เจ้าก็คิดดูว่าจะดำเนินการอย่างไร ข้ารู้สึกว่านางมีคุณสมบัติพอที่จะนั่งในตำแหน่งพระชายาของเจ้านะ เจ้าน่ะ สายตามีแววจริงๆ” จักรพรรดิพูด
“ท่านพ่อ…” สีหน้าขององค์รัชทายาทดูเก้ๆ กังๆ แล้วพูด
“เจ้าเป็นลูกชายของข้า ข้าจะไม่รู้ใจเจ้าอย่างนั้นหรือ? ไปเถอะ” จักรพรรดิยิ้มแล้วปล่อยให้องค์รัชทายาทไป
องค์รัชทายาทเดินออกมา หลังจากปิดประตูห้องหนังสือแล้ว จักรพรรดิก็นวดที่ขมับของเขาอย่างจนใจ “ลิซ่า เจ้าออกมาได้หรือไม่?”
ผู้หญิงในเครื่องแบบสีแดงเพลิงปรากฏตัวต่อหน้าจักรพรรดิ ดูแล้วนางน่าจะอายุ ไม่เกินสามสิบต้นๆ ใบหน้าที่สวยงาม ความกล้าหาญที่ไม่สามารถบรรยายได้ ผมสีแดงและดวงตาสีดำเข้มของนางมองที่ไปจักรพรรดิด้วยท่าทางที่ดูเอาแต่ใจ
“ลิซ่า อย่ามองข้าเช่นนี้สิ” จักรพรรดินวดขมับอย่างปวดหัว เขารู้ดีว่าทำไมความงามที่ร้อนแรงตรงหน้าเขาถึงอารมณ์เสีย
“ฝ่าบาทคิดจะเอาสิทธิ์การจัดหา อาวุธให้ กองทัพ ของตระกูลเฟิงไปให้ตระกูลหลี่งั้นหรือ?” หญิงสาวชกโต๊ะจนสิ่งของบนโต๊ะสั่นสะท้าน นักเวทย์ประจำราชสำนักที่อยู่ข้างๆ ชิน เสียแล้ว หญิงผู้นี้เป็นเพียงผู้เดียวในประเทศที่กล้าแสดงท่าทีไม่เกรงใจจักรพรรดิแล้วไม่ถูกลงโทษ นางคือผู้ที่ดูแลการทหารของลากัคและเป็นหญิงเพียงผู้เดียวที่ได้ดำรงอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญเช่นนี้!
“ลิซ่า ฟังข้าพูดก่อน เจ้าคิดดูสิว่าถ้าตระกูลหลี่สามารถทำอาวุธเลียนแบบดาบใน ที่งานระดมทุน วันนี้ได้ล่ะ โอ้ ไม่สิ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นอาวุธที่ด้อยกว่านั้นครึ่งหนึ่ง หากเอามาให้กองทัพของเรา มันจะมีพลังขนาดไหน” จักรพรรดิอธิบายอย่างอดทน เห็นได้ชัดว่าเขากลัวหญิงผู้ร้อนแรงตรงหน้าอยู่เล็กน้อย
“ฝ่าบาทจะพิจารณาส่งมอบให้ก็ได้ แต่ข้าต้องการพบหญิงผู้นี้ หญิงผู้นี้ หึ ไม่ธรรมดาเลย” หญิงสาวหรี่ตาที่สวยงามของนางแล้วพูดอย่างเย็นชา สาวงามที่ไม่มีที่เทียบ ในคริสตัลความทรงจำนั้น ตระกูลหลี่ที่ใกล้จะเสื่อมโทรมครั้งนี้ไปพึ่งพิงต้นไม้ใหญ่เช่นนี้ได้อย่างไร กันแน่?นาง จะต้องรู้ให้ได้
“เจ้าคิดว่าอย่างไร?” จักรพรรดิดูเหมือนว่าจะต้องการฟังความเห็นของหญิงสาวตรงหน้าเขามาก
“ไม่ธรรมดา” หญิงสาวได้แต่พูดคำนี้
“ใช่ ข้าก็มองไม่ออก ข้าจึงให้แอ็บบี้ไปสืบหาก่อน” จักรพรรดิพูด
“ข้ารู้ เมื่อกี้ได้ยินแล้ว ข้าก็ต้องขอแสดงความยินดีกับฝ่าบาทด้วย ในที่สุดองค์รัชทายาทก็ตกหลุมรักใครสักคนเสียที” หญิงสาวเลิกคิ้วแล้วพูดติดตลก “ตอนแรก ฝ่าบาทยังสงสัยว่าลูกชายของฝ่าบาทมีปัญหาเลยนี่”
“เอาน่า เจ้าเองก็สงสัยเช่นกันไม่ใช่หรือว่าลูกชายของข้ามีปัญหาแล้วยังหาคนไปทดสอบอีกด้วย จริงสิ ตอนนี้เฟิงอี้เซวียนเป็นอย่างไรบ้างล่ะ?” จักรพรรดิพูดล้อเล่นกับหญิงตรงหน้าเขา มีเพียงแค่คนตรงหน้านี้เท่านั้นที่จักรพรรดิจะผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่
………………………………………………………………………………