เสน่ห์คมดาบ – ตอนที่ 156

“ไม่ใช่แค่ท่านพี่หรอกที่ชอบแคลร์ ข้าเองก็ชอบแคลร์เช่นกัน” ประโยคที่เย็นชาต่อมาของแมริสเหมือนกับเอาน้ำแข็งมาราดหัวองค์ชายสอง      

 

 

ครู่หนึ่งองค์ชายสองรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว เขาเพียงแค่จ้องมองใบหน้าที่สวยงามแต่ไม่มีความอบอุ่นนั้นอย่างว่างเปล่า แมริสหลงรักแคลร์จริงๆ!  

 

 

“ท่านพี่ พี่จะต้องได้เป็นจักรพรรดิ การต่อสู้ระหว่างเรากับองค์ชายใหญ่มาถึงขั้นนี้แล้ว พี่น่าจะรู้ดีกว่าใครๆ ว่ามันจะลงเอยอย่างไรหากว่าเขาได้ครองบัลลังก์แล้วเราต้องอยู่ใต้เขา เราต้องจัดการให้เด็ดขาด!” สายตาของแมริสมีแต่ความเย็นชา  

 

 

องค์ชายสองลูบหน้าผากเบาๆ ด้วยหัวใจที่ยุ่งเหยิง หากการต่อสู้ครั้งนี้ล้มเหลว เขาย่อมรู้ผลที่จะตามมาดีกว่าใครๆ ผลนั้นก็คือความตายและมันจะไม่ใช่ความตายที่ซื่อตรงด้วย องค์ชายใหญ่จะต้องพยายามหาวิธีลดระดับเขาและให้เขาออกจากวังไปอยู่ที่อื่น จากนั้นก็ลอบลอบสังหารเขาแล้วไปอ้างว่าเขาป่วยตาย นี่เป็นวิธีการที่ราชวงศ์ใช้สำหรับผู้ที่พ่ายแพ้การต่อสู้ องค์ชายสองรู้ดีว่าถ้าเขาแพ้ในการต่อสู้ครั้งนี้ คงจะไม่ได้มีเพียงเขาที่จะตาย แต่ยังรวมถึงแมริส และนอกจากนี้ก็ยังมีมารดาและทุกคนที่มีเชื้อสายเกี่ยวข้องกับพวกเขาด้วย  

 

 

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือศักดิ์ศรีของราชวงศ์! จะยอมให้อำนาจเทพเจ้ามาลบล้างอำนาจกษัตริย์ไม่ได้!  

 

 

เขาจะแพ้ไม่ได้!  

 

 

แมริสมองสีหน้าที่เปลี่ยนไปขององค์ชายสอง นางก็ถอนหายใจ พี่ชายของนางยังไม่โหดพอ! จิตใจและความมุ่งมั่นยังไม่เพียงพอในฐานะขององค์รัชทายาท! แต่ไม่เป็นไร นางจะสนับสนุนอยู่เคียงข้างเขา จะต้องพาเขาไปสู่ตำแหน่งสูงสุดให้ได้เพื่อเติมเต็มความปรารถนาที่นางไม่สามารถบรรลุได้ด้วยตนเอง ผู้หญิงไม่ได้รับอนุญาตให้นั่งบัลลังก์ เช่นนั้นต้องให้พี่ชายของนางได้นั่งในตำแหน่งนั้นเพื่อตอบสนองความปรารถนาของนาง!  

 

 

หลังจากแมริสถอนหายใจแล้ว นางก็มององค์ชายสองแล้วพูด “ท่านพี่ ทางเดียวที่เราทำได้ตอนนี้คือบังคับให้กอร์ตั้นจิ้งจอกเฒ่านั่นแถลงจุดยืนของเขาต่อสาธารณะ เราไม่สามารถตอบตกลงคำขอจากทางวิหารได้อย่างแน่นอน ถ้าเราตอบตกลงบัลลังก์ก็จะไม่มั่นคง” หากให้ตระกูลฮิลล์ออกหน้า อย่างน้อยพวกเขาก็มีแรงสนับสนุนที่ยิ่งใหญ่มาช่วยเผชิญหน้ากับวิหารแห่งแสงได้  

 

 

 “ข้ารู้ ข้าจะไม่มีวันตกลงหรอก” องค์ชายสองถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ ในใจของเขายังลังเลและมีความขมขื่น ถ้าหากทำเช่นนี้แล้วทางด้านแคลร์จะว่าอย่างไรล่ะ?  

 

 

“ท่านพี่ พี่ไม่ต้องกังวล ข้าจะจัดการเรื่องทั้งหมดนี้เอง ทั้งหมดนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรา ถึงเวลานั้น ตระกูลฮิลล์ทุกคนจะมุ่งเป้าไปที่องค์ชายใหญ่” แมริสพูดอย่างเย็นชา ลึกๆ แล้วในใจของนางไม่อยากให้เด็กผู้หญิงที่สดใสผู้มีผมสีบลอนด์และดวงตาสีเขียวเกลียดตัวเอง  

 

 

“มันจะทำแบบนี้ได้จริงๆ หรือ?” องค์ชายสองยังคงลังเล เขายังจำสิ่งที่สัญญากับแคลร์ได้  

 

 

“ท่านพี่ พี่ต้องจำไว้ว่าพี่คือจักรพรรดิในอนาคต พี่ไม่ควรจมอยู่กับความรู้สึกเช่นนั้น” แมริสขมวดคิ้ว แต่ก็พยายามพูดเกลี้ยกล่อม “รอให้พี่ขึ้นครองบัลลังก์ก่อนแล้วค่อยหาทางแต่งงานกับนาง ตอนนี้พี่ต้องตัดสินใจให้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นพี่จะไม่ได้อะไรเลย และพี่จะสูญเสียทุกสิ่งที่พี่มีในตอนนี้ไปด้วย”  

 

 

องค์ชายสองมองแมริสด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ดวงตาของแมริสไม่มีร่องรอยความอบอุ่นอยู่เลย ในที่สุดเขาก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่  

 

 

“ตกลง เรามาทำกันเถอะ” เขาพูดประโยคนั้นออกมาอย่างแผ่วเบาและช้าๆราวกับว่าหมดเรี่ยวแรง องค์ชายสองหลับตาลงแล้วพิงพนักเก้าอี้เบาๆ เขารู้ดีว่าเมื่อก้าวเข้าสู่ขั้นนี้แล้วก็หมายความว่านับจากนี้ไป เขากับเด็กผู้หญิงผมบลอนด์และดวงตาสีเขียวผู้นั้นจะไม่มีความเป็นไปได้อีก…  

 

 

แมริสมององค์ชายสองที่ดูไม่ค่อยสบายใจ นางก็ถอนหายใจ อย่างไรก็ตามในที่สุดพี่ชายของนางก็นับว่าเข้าสู่ก้าวแรกของการเป็นจักรพรรดิแล้ว ในอนาคตเขาจะเป็นจักรพรรดิที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสม!  

 

 

“งั้นข้าจะจัดการให้เร็วที่สุด” เสียงเย็นชาของแมริสพูดขึ้น  

 

 

องค์ชายสองไม่ได้ลืมตาและถอนหายใจ จริงๆ แล้วแมริสเหมาะกับตำแหน่งสูงสุดนั้นมากกว่าเขาและองค์ชายใหญ่เสียอีก! ความเลือดเย็น วิธีการ และแผนการของนางนั้นเหนือกว่าเขาและองค์ชายใหญ่ไปมาก      

 

 

ในคืนนี้ทั้งสองคนตัดสินใจเช่นนี้แล้ว เพียงแต่พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าผลที่ตามมาจะร้ายแรงขนาดนี้และไม่สามารถควบคุมได้เลย! ถึงตอนนั้นก็สายไปแล้วที่จะรู้สึกเสียใจ  

 

 

สามวันต่อมา แคทเธอรีนหัวหน้าผู้ดูแลหญิงขององค์หญิงแมริสถูกจับในข้อหาพยายามด้วยการวางยาพิษองค์ชายใหญ่ นางถูกคุมขังอยู่ในสถานที่ควบคุมตัวสำหรับขุนนางที่กระทำผิดโดยเฉพาะและรอการพิจารณาคดี เรื่องนี้เป็นเป้าพุ่งไปที่องค์ชายสอง ในที่สุดการต่อสู้ระหว่างองค์ชายทั้งสองก็ร้อนแรงยิ่งขึ้นแล้ว  

 

 

ทันใดนั้นบรรยากาศที่ตึงเครียดก็เข้าปกคลุมเมืองหลวง  

 

 

ในขณะนี้ตระกูลฮิลล์ไม่สงบสุขเลย  

 

 

“หึ! ข้าจะดูว่าคราวนี้จิ้งจอกเฒ่าจะแสดงท่าทีอะไรหรือไม่!” แมริสยืนอยู่ที่หน้าต่างห้องนอน นางมองไปบนฟ้าแล้วยิ้มเยาะในใจ  

 

 

องค์หญิงแมริสประเมินความสำคัญของแคทเธอรีนในใจแคลร์ต่ำไปมาก ดังนั้นจึงเกิดเรื่องที่จะทำให้นางเสียใจในภายหลัง!  

 

 

ณ ห้องหนังสือในบ้านตระกูลฮิลล์  

 

 

ดยุกกอร์ตั้นนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ใบหน้าของเขาสงบนิ่ง ส่วนลาเกอร์ยืนอยู่ด้วยสีหน้ากังวล  

 

 

“ท่านพ่อ เราจะทำอย่างไรกันดีตอนนี้? นี่มันคือการสมรู้ร่วมคิด นี่คือการสมรู้ร่วมคิดแน่นอน!” ลาเกอร์โวยออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว  

 

 

“ข้ารู้!” ดยุกกอร์ตั้นพูดอย่างเคร่งขรึม เขารู้ดีอยู่ในใจว่าเกิดอะไรขึ้น เขายิ่งหงุดหงิด องค์ชายสองทำแบบนี้! ถือว่าประเมินเขาต่ำเกินไปแล้ว  

 

 

“แล้วท่านพ่อจะทำอย่างไร? หรือจะให้แคทเธอรีนถูกขังอยู่ในนั้นตลอดไปหรือ?” ลาเกอร์แทบคลั่งเมื่อคิดเรื่องที่แคทเธอรีนถูกขังอยู่ที่นั่น  

 

 

“องค์ชายสองกำลังบังคับให้ข้าแสดงจุดยืน” ดยุกกอร์ตั้นเอนหลังพิงเก้าอี้ เขาทำหน้าบึ้งและพูดอย่างเย็นชา  

 

 

“ท่านพ่อ เช่นนั้นเรา?” ลาเกอร์ถามอย่างกังวล  

 

 

“องค์ชายใหญ่ตอบตกลงคำขอจากวิหารแห่งแสงจริงๆ ถ้าเขาขึ้นครองบัลลังก์ เราจะไม่มีทางลืมตาอ้าปากได้อีกเลยในอนาคต” กอร์ตั้นหลับตาและถอนหายใจ เขารู้ดีว่าหากองค์ชายใหญ่ขึ้นครองบัลลังก์ เช่นนั้นถ้าต่อไปพวกเราจะต้องยอมคนของวิหารแห่งแสงไปตลอดอำนาจเทพเจ้าจะเข้ามาแทนที่อำนาจกษัตริย์ เรื่องลับๆระหว่างองค์ชายใหญ่และวิหารแห่งแสงนั้น ดยุกกอร์ตั้นรู้อยู่แล้วเพราะเขาไม่ใช่คนธรรมดา  

 

 

“เช่นนั้นท่านพ่อหมายความว่า…” ลาเกอร์มองกอร์ตั้นและรอคำพูด  

 

 

“จักรพรรดิแห่งอันพาแกรนด์มีได้เพียงองค์เดียวเท่านั้น” กอร์ตั้นถอนหายใจ “องค์ชายสองเหมาะสมกับตำแหน่งนี้มากกว่าองค์ชายใหญ่”  

 

 

“เช่นนั้น ท่านพ่อ เราก็มาคิดวิธีช่วยแคทเธอรีนกันไหม?” ลาเกอร์พูดอย่างรีบร้อนด้วยความดีใจ  

 

 

“เรียกเอเรคมา เจ้าส่งคนไปบอกว่าข้าอยากเจอเขา ให้เขากลับมา” เมื่อกอร์ตั้นตัดสินใจแล้ว เขาก็อยากจะลงมือทันที ไม่สามารถปล่อยให้เอเรคสนับสนุนองค์ชายใหญ่แบบนั้นได้อีกต่อไปต้องให้เขาตีตัวออกห่างองค์ชายใหญ่  

 

 

“ครับ ท่านพ่อ ข้าจะไปทำทันทีเลย” ลาเกอร์พยักหน้าแล้วก้าวถอยหลังออกไปอย่างรวดเร็ว  

 

 

กอร์ตั้นถอนหายใจเบาๆ เขาเคาะนิ้วลงบนโต๊ะทำงานโดยไม่รู้ตัวเพื่อเป็นการผ่อนคลายอารมณ์ของเขา  

 

 

“อูมาริ มีข่าวเกี่ยวกับแคลร์บ้างหรือไม่?” ดยุกกอร์ตั้นถอนหายใจและถามอูมาริที่ยืนเงียบๆ อยู่ข้างหลังเขา  

 

 

“ยังไม่มีข่าวคุณหนูเลยครับ” น้ำเสียงของอูมาริดูกังวลเล็กน้อย  

 

 

“ไม่อยู่ก็ดี ข้ารู้ว่าในที่สุดวันหนึ่ง เราจะต้องมีความขัดแย้งกับวิหารแห่งแสง แต่ข้าไม่ได้คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้” กอร์ตั้นถอนหายใจเบาๆ และรู้สึกว่ามันดีแล้วเพราะตัวตนของแคลร์พิเศษเกินไปที่จะอยู่ในการต่อสู้นี้ สถานะของนางเป็นสิ่งที่อึดอัดและบอบบางที่สุด  

 

 

“คุณหนูบอกว่าจะไปฝึก แต่นานขนาดนี้แล้วทำไมยังไม่มาเลยล่ะครับ” อูมาริกังวลจริงๆ เขาได้รู้ข่าวเพียงเท่านี้จากปากของจินเหยียนแล้วก็ไม่รู้อะไรอีกเลย  

 

 

“เด็กคนนั้นแตกต่างจากคนทั่วไป ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับนางหรอก” กอร์ตั้นพูดเบาๆ พร้อมกับแววตาที่คาดเดาไม่ได้  

 

 

แต่กอร์ตั้นคิดไม่ถึงว่าเอเรคจะเดินสวนทางกับพวกเขา เอเรคยืนหยัดว่าจะอยู่ข้างองค์ชายใหญ่อย่างมั่นคง  

 

 

“เกิดอะไรขึ้น? เกิดอะไรขึ้นกับเอเรค? เจ้าหมายความว่าอย่างไรกัน?” กอร์ตั้นตะโกนด้วยความโกรธ  

 

 

ใบหน้าของลาเกอร์มืดมนอย่างมาก เมื่อเผชิญหน้ากับความโกรธของกอร์ตั้น ลาเกอร์จึงระงับความโกรธในใจของเขาแล้วค่อยๆ พูด “เอเรคลูกชายผู้ดื้อรั้น เขาบอกว่าไม่ว่าเราจะตัดสินใจอย่างไรก็ตาม เขาจะสนับสนุนองค์ชายใหญ่อย่างมั่นคงดังเดิม แม้ว่าเขาจะต้องสังเวยชีวิตก็ตาม นอกจากนี้เขาบอกว่าเขาจะไม่กลับมาหาท่านพ่ออีก”  

 

 

“ทรยศ!” กอร์ตั้นตบโต๊ะอย่างแรงจนโต๊ะพังลงในทันที ใบหน้าของกอร์ตั้นมืดขรึมลง น้ำเสียงโกรธเกรี้ยวของเขาพุ่งเข้าใส่ลาเกอร์ “เขาจะพูดเช่นนั้นได้อย่างไร? เกิดอะไรขึ้น? มีคนควบคุมจิตใจของเขาอยู่หรือไม่?”  

 

 

“ไม่ครับ” ลาเกอร์ขมวดคิ้วและส่ายหัว  

 

 

“เขากล้ามาก! เขารู้ผลของการทำเช่นนี้หรือไม่” ปอดของกอร์ตั้นกำลังจะระเบิดออกมา ตระกูลฮิลล์มีคนที่แหกคอกและทรยศเช่นนี้!  

 

 

“เขาบอกว่าแม้ว่าเราจะขับไล่เขาออกจากบ้านและต้องละทิ้งสกุลฮิลล์ เขาก็จะติดตามองค์ชายใหญ่ต่อไป” กำปั้นของลาเกอร์กำแน่น วันนี้ลูกชายที่ดื้อรั้นเขาตายไปแล้วครึ่งหนึ่ง เขาเองก็ลำบากใจ ถ้าไม่ใช่เพราะองค์ชายใหญ่เข้ามาห้าม วันนี้เขาคงฆ่าลูกชายผู้ดื้อรั้นคน    นั้นไปแล้ว!  

 

 

“คนทรยศ! ตระกูลฮิลล์มีคนทรยศเช่นนี้หรือ!” ใบหน้าของกอร์ตั้นแย่ลงเรื่อย ๆ หมัดของเขากำแน่น นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนท้าทายอำนาจของเขาเช่นนี้!  

 

 

“ข้าไล่เขาออกจากบ้านตระกูลฮิลล์แล้วครับ” ลาเกอร์ก้มหัวลง ไม่กล้ามองใบหน้าที่บิดเบี้ยวของกอร์ตั้น  ลาเกอร์โกรธมาก ลูกชายที่ดื้อรั้นผู้นั้นไม่สนใจใยดีเลยว่าแม่ของเขาจะเป็นจะตาย เขายืนกรานที่จะติดตามองค์ชายใหญ่แล้วยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับครอบครัว! เลว! เลวยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานเสียอีก!  

 

 

“หึ! คนเลวแบบนั้น    ไม่คู่ควรกับสกุลฮิลล์!” ในใจของกอร์ตั้นโกรธมาก เขาจะต้องทำให้คนๆ นั้นชดใช้อย่างสาสมในวันข้างหน้า!  

 

 

“ท่านพ่อ เราจะทำอย่างไรกับแคทเธอรีน? นางจะถูกตัดสินในเร็วๆ นี้แล้วนะ” ลาเกอร์ยังคงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากที่สุด หลังจากที่แคทเธอรีนถูกคุมขังก็ไม่มีใครได้พบนางอีกเลย ความผิดในการลอบสังหารองค์ชายใหญ่นั้นเป็นโทษใหญ่มาก ถ้าเป็นคนธรรมดา ก็คงจะ    ส่งผลต่อครอบครัวของคนๆ นั้นด้วย      

 

 

“ข้าจะตัดสินใจเอง เจ้าออกไปก่อน” กอร์ตั้นโบกมืออย่างรำคาญ เป็นการส่งสัญญาณให้ลาเกอร์ออกไป  

 

 

…………………………………………………………………………….

เสน่ห์คมดาบ

เสน่ห์คมดาบ

แคลร์ ฮิลล์ คุณหนูใหญ่สุดสำรวยแห่งตระกูลขุนนางชั้นสูงผู้มีชื่อฉาวคาวกะฉ่อนว่าโง่เง่า เอาแต่ใจและบ้าผู้ชายเป็นชีวิตพลัดตกจากหลังม้าขณะไล่ตามองค์ชายสองจนหมดสติ สร้างความอับอายให้กับตระกูลเป็นอย่างยิ่ง กระนั้นเมื่อหญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ท่าทีของนางกลับเปลี่ยนจากหน้ามือไปเป็นหลังเท้า ไม่มีอีกแล้วคุณหนูไร้ยางอายที่คลั่งไคล้การไล่จับบุรุษรูปงาม เรื่องเรียนไม่เอาอ่าว เรื่องงานไม่เอาไหน จะมีก็แต่คุณหนูแคลร์ผู้สงบเสงี่ยมเยือกเย็น สำรวมท่าที และเปี่ยมไปด้วยพลังเวทอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเท่านั้น! เกิดอะไรขึ้นกับคุณหนูแคลร์คนนั้นกันแน่นะ!?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset