เสน่ห์คมดาบ – ตอนที่ 177

เรื่องของหญิงสาวผู้มีสีดำทั้งสองในตำนานไม่ได้รู้จักกันโดยทั่วไป ดังนั้นโจรม้าจึงประหลาดใจกับการปรากฏตัวของหญิงสาวตรงหน้า แต่ไม่ได้คิดอะไรมาก  

 

 

“ช่วยหรือ?” หลงซ่าซือยิ้มเยาะ “เจ้าล้อเล่นหรือไง… ” ไม่รอให้เหล่าโจรม้าหัวเราะ คนข้างๆ หญิงสาวก็โบกมือเบาๆทันใดนั้นลมที่รุนแรงก็โหมกระหน่ำและพลังที่มองไม่เห็นก็ได้โจมตีผู้คนที่อยู่เบื้องหลังหลงซ่าซือ เหล่าโจรม้าส่งเสียงร้องและร่างของทุกคนก็ลอยขึ้นไปโดยไม่มีข้อยกเว้น แล้วจากนั้นก็ตกลงกับพื้น  

 

 

รอยยิ้มบนใบหน้าของหลงซ่าซือแข็งค้างไป เหล่าโจรม้าลุกขึ้นอย่างรวดเร็วใบหน้าของพวกเขาแสดงความตกใจ ไม่มีการบาดเจ็บใดๆ พวกเขาเข้าใจได้ทันทีว่าอีกฝ่ายเตือนเพียงเล็กน้อย แต่ไม่ได้จะทำร้ายพวกเขาจริงๆ  

 

 

นักเวท?! และยังทรงพลังเช่นนี้ด้วย?  

 

 

หลงซ่าซือขมวดคิ้วและเลียริมฝีปากที่แห้งผากของเขาโดยไม่รู้ตัว มองคนทั้งสามตรงหน้าอย่างตื่นตัว ทั้งสามคนเป็นใคร? จุดประสงค์คืออะไรกัน?  

 

 

“เจ้าจะทำอะไร?” หลงซ่าซือถามอย่างระมัดระวัง มีสิ่งหนึ่งที่เขารู้ดีพวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของทั้งสามคนนี้อย่างแน่นอน  

 

 

“ข้าจะให้เจ้ากลายเป็นเจ้าแห่งทะเลทรายแห่งนี้” หญิงสาวผมสีดำตาสีดำปรากฏยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้า ทำให้ผู้คนหลงใหล  

 

 

กลายเป็นเจ้าแห่งทะเลทรายแห่งนี้?!  

 

 

หลงซ่าซือตะลึงเขาจ้องไปที่หญิงสาวลึกลับตรงหน้าเขา เพื่อจะตัดสินว่าคำพูดของหญิงสาวนั้นจริงหรือเท็จ  

 

 

“หลงซ่าซือ ทายาทคนเดียวของจักพรรดิทางเหนือ ชนะใจทั้งทหารและประชาชน เป็นเพียงคนเดียวที่จะรับสืบทอดเป็นองค์ชายทางเหนือคนต่อไปแต่ในเวลานั้นองค์รัชทายาทขี้ขลาดและไร้ยางอาย คนเช่นนั้นไม่ใช่คนที่จะเป็นที่ยอมรับ เจ้าก้อนหินที่ขัดขวางการเป็นจักรพรรดิขิงเขา ดังนั้นยังไม่ทันได้เป็นจักรพรรดิทางเหนือก็ถูกใส่ร้ายเสียก่อน”ในเสียงนั้นไม่มีความอบอุ่นอยู่เลย  

 

 

“เจ้า! เจ้าเป็นใครกันแน่?” การแสดงออกของหลงซ่าซือเปลี่ยนไปแล้ว  

 

 

“ข้า…ชื่อของข้าคือชีอ้าวชวาง” หญิงสาวผมดำตาดำยิ้มราวกับดอกไม้  

 

 

ชีอ้าวชวางชีอ้าวชวาง……รอยยิ้มเศร้าจางๆ ฉายไปทั่วดวงตาของหญิงสาวผมสีดำ คิดว่าจะไม่ใช้ชื่อนี้อีกแล้วเสียอีก  ใช่แล้ว ชื่อนี้เป็นชื่อที่แท้จริงของแคลร์!  

 

 

“เชื่อข้า ข้าจะทำให้เจ้ากลายเป็นเจ้าแห่งทะเลทรายนี้” เสียงอันไพเราะของชีอ้าวชวางมีเสน่ห์ที่ไม่อาจบรรยายได้  

 

 

“ข้าจะเชื่อใจเจ้าได้อย่างไร?” หลงซ่าซือเพิ่งเห็นหญิงสาวลงมือกับคนข้างกายไป แม้ว่าใจของเขาจะตกใจ แต่แค่คำพูดเพียงอย่างเดียวนี้มันก็ไม่น่าเชื่อมากพอหรอก  

 

 

รอยยิ้มที่สดใสปรากฏบนใบหน้าของชีอ้าวชวางแต่ไม่รู้ทำไมหลงซ่าซือรู้สึกขนลุกเล็กน้อยเมื่อเห็นรอยยิ้มนี้  

 

 

สายตาของชีอ้าวชวางเคลื่อนไปที่ชายน่าสมเพชถัดจากหลงซ่าซือ แล้วดวงตาก็นิ่ง  

 

 

เวลาต่อมาก็เกิดสิ่งที่ทำให้ทุกคนอึ้ง  

 

 

ชายน่าสมเพชกระโดดออกมาเผชิญหน้ากับหลงซ่าซือน้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเสน่หา“เจ้านาย เจ้านายรู้หรือไม่ ว่าร่างที่สูงสง่าของท่านตราตรึงในใจข้ามานานแล้ว ความรักของข้าที่มีต่อท่านเปรียบเสมือนท้องฟ้ายามค่ำคืน เป็นดวงจันทร์สว่างที่สุดเท่าที่จะรู้ได้ และข้าจะไม่มีวันเปลี่ยนใจจากท่าน…”  

 

 

ผู้คนที่อยู่เบื้องหลังหลงซ่าซือไม่สามารถทนต่อการพลังนี้ได้ พวกเขากุมที่หน้าอกและเริ่มอาเจียน หลงซ่าซือใบหน้าเคร่งขรึม เพราะเขารู้งานอดิเรกของชายน่าสมเพชดีกว่าใครๆ คนตรงหน้าเขาตาใสและพูดอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ว่าเพียงแค่คิดถึงสิ่งนี้ใบหน้าของหลงซ่าซือก็เปลี่ยนไป การควบคุมจิตใจขั้นสูง! มันคือการควบคุมจิตใจขั้นสูง! เขารู้ดีถึงเวทมนตร์ที่โหดร้ายเช่นนี้เขาถูกคนที่รักที่สุดหักด้วยเวทมนตร์แบบนี้จากนั้นก็ถูกคนสนิทกล่าวหา!  

 

 

หลงซ่าซือเงยหน้าขึ้นมองสาวสวยผมสีดำและพูดอย่างเย็นชา “พอแล้ว ข้าเชื่อแล้ว” หัวใจของเขาตกใจยิ่งกว่าทำไมหญิงสาวตรงหน้าถึงรู้เรื่องของตนเองชัดเจนขนาดนี้? นางเป็นใครกัน?  

 

 

ชีอ้าวชวางถอนการควบคุมจิตใจ ยิ้มเบาๆ และพูด “ขอโทษนะ ที่ดึงความทรงจำเลวร้ายในอดีตของเจ้ากลับมา”  

 

 

ชายน่าสมเพชมองหลงซ่าซืออย่างว่างเปล่าเมื่อเขาเห็นว่าคนที่อยู่เบื้องหลังหลงซ่าซือมองตัวเองด้วยแววตาที่แปลกประหลาดนั้น เขาก็ยิ่งรู้สึกมึนงง  

 

 

“ทำไมถึงมาพบข้า” หลงซ่าซือถามด้วยเสียงต่ำ  

 

 

“เพราะข้าต้องการบารมีของเจ้า” ชีอ้าวชวางยิ้มจางๆ “คนส่วนใหญ่ในโยซาลี่ต่างเชื่อมั่นว่าเจ้าถูกใส่ร้าย”  

 

 

หลงซ่าซือเงียบ  

 

 

“หากเชื่อข้าก็ไปหาข้าที่ร้านขายอาวุธในเมืองชิงเฉวียน” ชีอ้าวชวางค่อยๆดึงบังเ**ยน อูฐก้าวไปข้างหน้า แล้วเหลิ่งหลิงยวิ๋นและเฟิงอี้เซวียนที่อยู่ข้างๆก็ตามไป  

 

 

เหล่าคนที่อยู่หลังหลงซ่าซือมองหน้ากัน จากนั้นพวกเขาก็หลีกทางให้อูฐทั้งสามเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ทุกคนมองไปที่หลังของพวกเขา แล้วมองกลับไปที่หลังของหลงซ่าซือ พวกเขาทั้งหมดรอการตัดสินใจของหลงซ่าซือ  

 

 

หลงซ่าซือไม่พูดอะไรสักคำ มองชีอ้าวชวางและพวกจากไปด้วยสีหน้าหนักใจ  

 

 

“อ้าวชวางเจ้าคิดว่าเขาจะมาหาเราหรือไม่?” เฟิงอี้เซวียนถามด้วยเสียงทุ้ม ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะพบคนที่พวกเขาตามหาในทะเลทรายนี้เลย  

 

 

“มาสิ” รอยยิ้มจางๆ ปรากฏบนใบหน้าของชีอ้าวชวาง  

 

 

เมืองชิงเฉวียนเป็นโอเอซิสขนาดเล็กที่อยู่ใกล้ชายแดนโยซาลี่มากที่สุด แม้จะมีขนาดเล็กแต่ก็มีความสำคัญมาก หลายคนจะมาที่นี่เพื่อจัดหาซื้อของ  

 

 

พวกเขาทั้งสามก็เหมือนกับหลายคนที่มาที่นี่ อูฐเดินเข้าไปในโอเอซิสเล็กๆ แห่งนี้ เหล่าพ่อค้าแม่ค้าวางแผงขายของข้างทางเรียกลูกค้าอย่างไม่มีแรง บ้างก็นั่งพิงรอลูกค้ามา บ้านเรือนดูบางตาส่วนใหญ่ปิดประตู แต่มีร้านค้าบางแห่งเท่านั้นที่เปิดประตู คนที่เดินผ่านล้วนแต่งตัวด้วยเสื้อคลุมตัวยาว  

 

 

ทั้งสามมาที่บ้านหินที่ดูไม่โดดเด่น มัดอูฐไว้ เปิดประตูแล้วเดินเข้าไป  

 

 

“คุณหนู ท่านกลับมาแล้ว” หญิงอ้วนทักทาย  

 

 

“อืม” ชีอ้าวชวางพยักหน้าเบาๆ “คืนนี้จะมีคนมาหาข้าที่ร้ายขายอาวุธ ถึงเวลานั้นก็พาเขามานะ”  

 

 

“ค่ะ” หญิงอ้วนเป็นคนที่วิหารแห่งความมืดส่งมาเพื่อช่วยชีอ้าวชวาง เป็นผู้รับผิดชอบในการติดต่อชื่อว่าลู่ย่า  

 

 

ทั้งสามคนเข้าไปในห้องด้านหลังเดินไปที่ตู้ข้างกำแพง ยื่นมือออกไปเปิดตู้ไม้ออก มีอุโมงค์ลึกอยู่ตรงหน้าพวกเขา นิ้วของชีอ้าวชวางสะบัดคบเพลิงทั้งหมดที่อยู่ข้างกำแพงอุโมงค์สว่างขึ้นทำให้อุโมงค์สว่างไสว แล้วชีอ้าวชวางก็ก้าวไปข้างหน้า  

 

 

หลังจากทั้งสามคนเข้าไปประตูตู้ไม้ก็ปิดลงและไม่มีอะไรผิดปกติ อูฐสามตัวที่อยู่นอกประตูถูกนำออกไปทันที  

 

 

หลังจากเดินผ่านอุโมงค์แล้วจะมีอาคารใต้ดินปรากฏอยู่ตรงหน้า ที่เชิงเขาเป็นทางเดินยาวที่มีห้องหลายห้องทั้งสองข้างและด้านหน้าเป็นห้องโถง  

 

 

“ท่านนักบุญท่านกลับมาแล้ว” สีเฉ่าฉีทักทายเขาทันทีด้วยใบหน้าที่จะร้องไห้ เหลิ่งหลิงยวิ๋นและเฟิงอี้เซวียนรู้สึกตกใจกับตัวตนของชีอ้าวชวางพวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชีอ้าวชวางมีตัวตนเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไร ตอนชีอ้าวชวางบอกพวกเขาว่าหิมะถล่มครั้งนั้นถูกโจมตีจากวิหารแห่งความมืดเหลิ่งหลิงยวิ๋นก็เข้าใจทันที  

 

 

ชีอ้าวชวางค่อยๆเดินไปข้างหน้าและพูดเบาๆ “ทำไม?”  

 

 

“ท่านผู้นำบอกว่า เราจะถูกลงโทษถ้าท่านไม่กลับมา นี่มันก็หลายวันแล้ว แต่ท่านก็ไม่กลับมา” สีเฉ่าฉีเดินตามทุกคนที่อยู่ข้างหลังและบ่น  

 

 

“ท่านนักบุญ” เดินไปถึงห้องโถง สีเฉ่าซื่อยิ้มเลื่อนเก้าอี้ให้ชีอ้าวชวางแล้วรินชาดอกไม้ให้  

 

 

ทุกคนรู้ดีว่าพระสันตปาปาองค์เก่าของวิหารแห่งแสงเสียข้างหนึ่งอาร์ชบิชอปทั้งสิบสองแห่งถูกจัดการทั้งหมดนี่เป็นสิ่งที่ทำให้คนมากมายตื่นเต้น และสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็เพราะหญิงสาวตรงหน้านั่นเอง! ผู้คนในวิหารแห่งความมืดต่างตื่นเต้นและพวกเขาเชื่อมั่นว่าชีอ้าวชวางจะนำพวกเขาไปสู่ยุคใหม่ได้  

 

 

“ท่านนักบุญพบคนที่ท่านกำลังตามหาแล้วใช่หรือไม่?” สีเฉ่าซื่อรินชาให้ทุกคน  

 

 

ชีอ้าวชวางจิบชาและพยักหน้าเบาๆ “คืนนี้คงจะมา”  

 

 

“ท่านนักบุญท่านพบสิ่งที่เราค้นหาทั้งหมดเลย”สีเฉ่าซื่อหยิบแผนที่ออกมาจากแขนของเขาและกางออกต่อหน้าชีอ้าวชวางแผนที่นั้นมีจุดสีแดงสองจุด สีเฉ่าซื่อยื่นมือออกไปชี้ไปที่สองจุดนั้น “นี่คือฐานที่มั่นของเหล่าคนแคระและนี่คือฐานของโนม”  

 

 

“อืม”ชีอ้าวชวางมองแผนที่อย่างครุ่นคิด  

 

 

“ท่านนักบุญ บอกได้หรือไม่ว่าท่านกำลังมองหาพวกเขาทำไม? พวกคนแคระทำได้หล่อโลหะเสียงดัง พวกโนมก็ทำได้แค่ขุดเหมืองเท่านั้น พวกเขาไม่ติดต่อกับมนุษย์เลยและเป็นศัตรูกับมนุษย์ จะหาพวกเขาไปทำไม?”สีเฉ่าฉีมองไปที่แผนที่ด้วยความสับสนและในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะถาม ในการค้นหาสถานที่ทั้งสองแห่งนี้ ต้องใช้พลังงานอย่างมากและเสียกำลังพลไปบางส่วนด้วย  

 

 

“พันธกิจของวิหารแห่งแสงคืออะไร?” ชีอ้าวชวางย้อนถามแต่ไม่ตอบ  

 

 

“มันจะเป็นอะไรได้อีกล่ะ? ก็รับโดยไม่ต้องให้ แล้วทำให้คนงมงาย” สีเฉ่าฉีตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เป็นเรื่องธรรมดาที่คนโง่จะหลงและหาเงินมาให้ และพวกเขาก็ทำสิ่งที่ดีสักหน่อยแล้วก็เผยแพร่ต่อสาธารณะไป”  

 

 

“มันยุติธรรมหรือไม่?” ชีอ้าวชวางถามอย่างมีความหมาย  

 

 

“นี่ไม่ใช่เรื่องไร้สาระนะ ต้องไม่ยุติธรรมอยู่แล้ว!” สีเฉ่าฉีพูดอย่างไม่พอใจ  

 

 

“ถ้าเจ้าต้องการโค่นล้มกลุ่มเทพพวกนี้ให้สิ้นไป เจ้าคิดว่าการสังหารผู้นำจะเพียงพอหรือ?” ชีอ้าวชวางพูดเบาๆ และมองจุดสีแดงบนแผนที่  

 

 

สีเฉ่าฉีตะลึงคราวนี้วิหารแห่งแสงเสียหายไปอย่างมากในการจัดการชีอ้าวชวางชีอ้าวชวาง แม้ว่าพลังของวิหารแห่งแสงอ่อนแอลงชั่วคราว แต่ก็ยกระดับชื่อเสียงของวิหารแห่งแสงให้ถึงจุดสูงสุด พันธกิจของวิหารแห่งแสงฝังรากลึกในจิตใจของผู้คนไปแล้ว ว่าพวกเขาคือรูปแบบแห่งความยุติธรรมอันยิ่งใหญ่  

 

 

“ท่านหมายถึง!” สีเฉ่าฉีกำหมัดแน่นน้ำเสียงของเขาตื่นเต้นเล็กน้อย จริงๆหรือ? จะเป็นไปตามที่คาดเดาไว้จริงหรือผู้หญิงตรงหน้าทำได้จริงหรือ?  

 

 

อำนาจเงินทอง ฐานะ…  

 

 

สิ่งที่มนุษย์ใฝ่หาอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย…  

 

 

“โยซาลี่จะเป็นประเทศแรกที่เชื่อในเทพเจ้าแห่งความมืด” ชีอ้าวซวางยกถ้วยชาขึ้นจิบเบาๆ แล้วยิ้มราวกับดอกไม้  

 

 

สีเฉ่าฉีระงับความตื่นเต้นไว้ และทันใดนั้นเขาก็เข้าใจแผนของชีอ้าวชวางแผนการที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ เป็นแผนการที่ไม่มีใครคาดถึงหากมีคนอื่นพูดเขาจะคิดว่ามันเป็นเรื่องตลกเท่านั้น แต่เมื่อหญิงสาวตรงหน้าพูด เขาไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องตลกแต่อย่างใด เขามีความคิดอยู่ในใจลึกๆ ว่าผู้หญิงตรงหน้าเขาทำได้แน่นอน จะต้องโค่นวิหารแห่งแสงได้อย่างแน่นอน!  

เสน่ห์คมดาบ

เสน่ห์คมดาบ

แคลร์ ฮิลล์ คุณหนูใหญ่สุดสำรวยแห่งตระกูลขุนนางชั้นสูงผู้มีชื่อฉาวคาวกะฉ่อนว่าโง่เง่า เอาแต่ใจและบ้าผู้ชายเป็นชีวิตพลัดตกจากหลังม้าขณะไล่ตามองค์ชายสองจนหมดสติ สร้างความอับอายให้กับตระกูลเป็นอย่างยิ่ง กระนั้นเมื่อหญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ท่าทีของนางกลับเปลี่ยนจากหน้ามือไปเป็นหลังเท้า ไม่มีอีกแล้วคุณหนูไร้ยางอายที่คลั่งไคล้การไล่จับบุรุษรูปงาม เรื่องเรียนไม่เอาอ่าว เรื่องงานไม่เอาไหน จะมีก็แต่คุณหนูแคลร์ผู้สงบเสงี่ยมเยือกเย็น สำรวมท่าที และเปี่ยมไปด้วยพลังเวทอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเท่านั้น! เกิดอะไรขึ้นกับคุณหนูแคลร์คนนั้นกันแน่นะ!?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset