เสน่ห์คมดาบ – ตอนที่ 187

“พวกเขาต้องส่งคนมาตามมาแน่”เฟิงอี้เซวียนขมวดคิ้ว

 

 

“เป้าหมายของพวกมันมีเพียงข้าผู้เดียวเท่านั้น” ชีอ้าวชวางพูดเบาๆ

 

 

“คุณหนู ท่านคิดจะทำอะไร” สีเฉ่าซื่อขมวดคิ้ว “เราไม่มีทางปล่อยให้ท่านไปคนเดียวหรอก”

 

 

“ข้านำหน้าจะไปก่อน พวกเจ้าตามหลังไปก็พอ”ชีอ้าวชวางยังคงพูดอย่างราบเรียบ

 

 

“จะทำเช่นนั้นได้อย่างไร!” หลายเสียงคัดค้านโดยพร้อมเพรียงกัน

 

 

“เช่นนั้นก็ดี พวกเจ้าก็ดื่มยาแปลงเพศนี้เสีย” ชีอ้าวชวางรอให้พวกเขาพูดเช่นนี้อยู่แล้วจากนั้นก็หยิบขวดยาจากแหวนมิติออกมาและเขย่ามันต่อหน้าทุกคนทุกคนหน้าซีดไป แล้วก็เข้าใจแผนของชีอ้าวชวางเลย

 

 

แท้จริงแล้วหากเปลี่ยนเพศก็จะไม่มีใครจำได้!

 

 

“ไม่ว่าพวกเจ้าจะไปตามลำพัง หรือจะดื่มยาแล้วไปกับข้า ข้าก็จะไม่บังคับใคร” ชีอ้าวชวางเปิดจุกขวดยาแล้วดื่มไปอึกใหญ่

 

 

สีหน้าของชายหนุ่มรูปงามทั้งสี่เปลี่ยนเป็นสีเขียวไปแล้วในตอนนี้ สีเขียวราวกับแตงกวาแก่ในฤดูร้อนเลย…

 

 

ฮ่าๆ นี่แหละคือเสน่ห์ไร้ที่ติสาวงามทั้งสี่…คิกๆ…

 

 

ท่ามกลางแสงแดดแผดจ้ากลุ่มคนห้าคนลงจากอูฐและเข้าไปในเขตเมืองหนึ่งของโยซาลี่ นี่เป็นเมืองใหญ่เมืองแรกที่พวกเขาเดินทางผ่านตามการคาดคะเนของชีอ้าวชวาง อีกเจ็ดแปดวันจึงจะสามารถข้ามทะเลทรายนี้ไปถึงชายแดนโยซาลี่ได้

 

 

ทั้งกลุ่มสวมเสื้อคลุมหนาแล้วค่อยเข้ามาในเมืองใหญ่แห่งนี้ ระหว่างทางเฟิงอี้เซวียนและเหลิ่งหลิงยวิ๋นไม่ได้พูดอะไรออกมาเลยแม้แต่คำเดียวการเปลี่ยนเป็นผู้หญิงทำให้พวกเขารู้สึกหดหู่ไป๋ตี้และเฮยหยู่ซ่อนตัวอยู่ในเสื้อคลุมของชีอ้าวชวาง ไม่ได้โผล่หน้าออกมาสัตว์เลี้ยงสีดำและสีขาวนี้สะดุดตาเกินไปอาจเปิดเผยตัวตนของชีอ้าวชวางได้ดังนั้นเจ้าตัวเล็กทั้งสองจึงถูกซ่อนไว้

 

 

เมื่อมาถึงโรงแรมใกล้ตัวเมืองชีอ้าวชวางไปเปิดห้องห้าห้องขณะที่ชีอ้าวชวางถอดหมวกคลุมออกคนในล็อบบี้ของโรงแรมก็เลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจช่างเป็นชายหนุ่มรูปงามที่ไม่มีใครเทียบได้เลย มองจากรูปร่างหน้าตาและนิสัยใจคอก็รู้เลยว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดาสี่คนข้างหลังเป็นผู้ติดตามของเขางั้นหรือ

 

 

“ร้อนจะตายอยู่แล้ว” สีเฉ่าฉีพึมพำและถอดเสื้อคลุมของเขาออก

 

 

สีเฉ่าฉีถอดเสื้อคลุมออก ผู้คนในห้องโถงต่างก็อึ้งไปเล็กน้อยนางเป็นสาวงามผู้หนึ่ง สาวงามเป็นผู้ติดตามของชายหนุ่มผู้นั้นหรือ เกรงว่าจะเป็นของเล่น คนในห้องโถงคาดเดากันไปอย่างร้ายกาจ นี่ไม่รู้ว่าเป็นนายน้อยจากตระกูลไหน ถึงสำราญขนาดนี้ ออกมาข้างนอกก็ยังมีสาวงามเช่นนี้ติดตาม

 

 

“สวมเสื้อคลุมของเจ้าซะ” สีเฉ่าซื่อพูดอย่างเย็นชา

 

 

“ทำไมล่ะ” สีเฉ่าฉีขมวดคิ้ว “เจ้าไม่ร้อนหรือ” สีเฉ่าฉีเอื้อมมือไปดึงเสื้อคลุมของสีเฉ่าซื่อลง

 

 

มีเสียงอุทานเกิดขึ้นในห้องโถงพวกนางเป็นฝาแฝดกัน! และเป็นฝาแฝดที่น่าทึ่งด้วย

 

 

“เจ้าโง่นี่!” สีเฉ่าซื่อตะคอกอย่างเย็นชาเห็นได้ชัดว่าสีเฉ่าฉียังไม่ตระหนักเลยว่าตนได้กลายเป็นหญิงมากเสน่ห์ไปแล้ว

 

 

ขณะนี้แต่ละคนในห้องโถงมองไปที่ชีอ้าวชวางด้วยสายตาแตกต่างกัน มีทั้งความอิจฉาริษยาและดูถูกที่ดูถูกแน่นอนว่าเป็นที่ชีอ้าวชวางยังเด็กมาก แต่ก็สามารถเพลิดเพลินกับสาวงามทั้งสองนี้ได้แล้วหรือ

 

 

ชีอ้าวชวางเหลือบตามองทุกคนในห้องโถงแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อยบางทีนางอาจจะไม่ควรเข้ามาในเมืองหรือไม่ก็ไม่ควรให้พวกเขามามาในเมืองพร้อมกันแล้วร่วมกันหาสิ่งของนั้นนางลืมไปได้อย่างไร ว่าตอนนี้คนเหล่านี้เป็นสาวงามที่ไม่มีใครเทียบได้ไปแล้ว อีกทั้งยังไม่สามารถให้ผู้ชายมามองพวกเขาด้วยสายตาแทะโลมเช่นนี้ได้

 

 

เสน่ห์จะนำพามาความยุ่งยากมาให้ คำพูดนี้คงไม่ผิด

 

 

“สาวงามทั้งสอง อยากดื่มด้วยกันหรือไม่!”

 

 

“เด็กนั่นจะทำให้พวกเจ้าพอใจได้หรือ มาอยู่กับพวกเราดีกว่า…”

 

 

สีหน้าของสีเฉ่าฉีเปลี่ยนเป็นสีเข้ม ใกล้จะระเบิดแล้ว

 

 

“ใจเย็นๆไม่ต้องสนใจ” เหลิ่งหลิงยวิ๋นพูดเบาๆ

 

 

“นิ่งไว้” เฟิงอี้เซวียนพูดด้วยน้ำเสียงอมทุกข์

 

 

แล้วจู่ๆความรู้สึกถึงลางร้ายก็ผุดขึ้นในใจของชีอ้าวชวาง

 

 

จากนั้นพนักงานหญิงคนหนึ่งเดินเข้ามา ยิ้มพลางพูดกับชีอ้าวชวางและกลุ่มของพวกเขา “พวกท่านโปรดอย่าถือสา คนพวกนี้ก็ไร้มารยาทเช่นนี้ เชิญตามข้าขึ้นไปพักผ่อนชั้นบนเถอะเจ้าค่ะ”

 

 

สีหน้าของสีเฉ่าฉียังคงนิ่ง แล้วพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ

 

 

แต่ในช่วงเวลาต่อมา พนักงานก็เอื้อมมือมาดึงเสื้อคลุมของเฟิงอี้เซวียนและเหลิ่งหลิงยวิ๋นออกแล้วก็พบกับสองใบหน้าที่ไร้ผู้ใดเทียบเทียม

 

 

“ว้าว…”

 

 

เกิดเสียงอุทานดังขึ้นในห้องโถงนั้น

 

 

พนักงานสาวยังคงยิ้มและพูด “ท่านถอดเสื้อคลุมออกในที่เย็นๆ นี้จะดีกว่า จะได้หายใจได้สะดวก ทำเช่นนี้ดีต่อผิวของท่านด้วยนะเจ้าคะ”ทว่ามือที่อยู่ด้านหลังของนางกำลังส่งสัญญาณไปคนคนที่อยู่ตรงโต๊ะมุมห้อง

 

 

สีหน้าของชีอ้าวชวางนิ่งลง ดูเหมือนว่าพนักงานคนนี้จะทำสิ่งนั้นเพื่อผลประโยชน์ของผู้อื่นพฤติกรรมของอีกฝ่ายไม่ได้มีกลิ่นอายสังหารแต่เป็นผู้หญิงอีกคนเฟิงอี้เซวียนและเหลิ่งหลิงยวิ๋นก็ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไรมากเกินไป

 

 

ตอนนี้ล็อบบี้ของโรงแรมดูมีชีวิตชีวาสาวงามน่าทึ่งสี่คนปรากฏตัวพร้อมกัน แต่ละคนมีจุดเด่นของตัวเองซึ่งทำให้แววตาของผู้คนในห้องโถงเป็นประกายและเถ้าแก่ก็ยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น จ้องมองสาวงามไร้ที่ติอย่างตกตะลึง

 

 

“หญิงงามผู้นี้ ข้าพอจะมีโชคพอเลี้ยงเครื่องดื่มเจ้าสักแก้วได้หรือไม่”ชายผู้หนึ่งเดินเข้ามาหาเฟิงอี้เซวียน แล้วถามอย่างสุภาพน้ำเสียงของเขาสุภาพมากแต่สายตานั้นปิดบังความหยาบคายไม่ได้เลย

 

 

สีเฉ่าฉีกลั้นขำ กลั้นจนแทบจะไม่ไหวแล้ว นายน้อยตระกูลเฟิงก็มีวันที่คนเข้ามาเกี้ยวเช่นกัน แล้วคนนั้นก็เป็นผู้ชายด้วย!

 

 

“สายตาเจ้าไม่เลวเลยนะ” เหลิ่งหลิงยวิ๋นยิ้มเล็กน้อยและชื่นชมชายผู้นั้น

 

 

ใบหน้าของเฟิงอี้เซวียนแย่ลงเรื่อยๆ เหลิ่งหลิงยวิ๋นยิ้มสดใสแล้วใช้คำพูดของเฟิงอี้เซวียนมาพูดเพื่อหยุดเขา “นิ่งเข้าไว้นะ” คราวนี้สีเฉ่าซื่อและสีเฉ่าฉีต้องกลั้นหัวเราะอย่างสุดความสามารถ

 

 

ตอนนี้ทุกคนไม่คิดว่าสาวงามไร้ที่ติเหล่านี้เป็นของเล่นของเด็กชายผมดำแล้วสี่สาวสวยอายุมากกว่าเด็กชายผู้นั้นอีก! ไม่ว่าความสัมพันธ์จะเป็นอย่างไร ตราบใดที่ไม่ใช่ของเล่นก็พอแล้วยามที่พวกเขาเข้าหาหญิงงาม เด็กผู้นั้นก็ไม่ได้ห้ามปราม แล้วยังแอบให้กำลังใจทุกคนเงียบๆ อีกด้วย

 

 

“หญิงงามผู้สูงศักดิ์ ท่านโชคร้ายได้อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่เต็มใจหรือไม่ ข้ายอมแลกด้วยเงินที่มากกว่าหลายเท่าเพื่อจะไถ่ตัวท่านนะ แล้วข้าจะไม่มีทางปล่อยให้ท่านต้องมาตากแดดแน่นอน”ชายที่นั่งอยู่ในมุมหนึ่งรีบวิ่งเข้ามาจากนั้นก็พูดกับเหลิ่งหลิงยวิ๋นอย่างกระตือรือร้นเขากลัวว่าหากช้ากว่านี้จะไม่มีโอกาสอีกแล้วในสายตาของคนเหล่านี้ชีอ้าวชวางกลายเป็นเจ้านายหนุ่มที่รังแกหญิงสาวไปแล้ว!

 

 

สีหน้าของเหลิ่งหลิงยวิ๋นมืดลงอย่างกะทันหัน

 

 

“นิ่งเข้าไว้นะ” เฟิงอี้เซวียนยิ้มและพูดเบาๆ รอยยิ้มของเขายิ่งมีเสน่ห์มากขึ้นอีกทุกคนที่มองมาต่างก็ตกตะลึง

 

 

“หญิงงาม หรือว่าท่านเองก็โชคร้ายเช่นกัน ข้าจะช่วยท่านออกมาด้วยกำลังทั้งหมดของข้าเอง…” ชายแต่งตัวดีที่ยืนอยู่ข้างเฟิงอี้เซวียนก็รีบสารภาพด้วยเช่นกัน

 

 

“บ้าเอ๊ย!” เฟิงอี้เซวียนไม่สามารถทนได้อีกต่อไปแล้ว เขาตะโกนออกมาอย่างโกรธเกรี้ยวยื่นมือออกไป แล้วทันใดนั้นกระสุนลมก็มารวมกันในมือของเขา ปัดเป่าคนตรงหน้าออกไป

 

 

เหลิ่งหลิงยวิ๋นยิ่งแล้วใหญ่เวทมนตร์ในมือของเขาก็ระเบิดออกมาเช่นกัน

 

 

สีเฉ่าฉีและสีเฉ่าซื่อตกตะลึง “พวกเจ้าบอกว่าให้ใจเย็นและนิ่งเข้าไว้ไม่ใช่หรือ”

 

 

“นิ่งไว้ทำบ้าอะไร!”

 

 

“คนตายเท่านั้นแหละที่จะเย็นได้!”

 

 

เฟิงอี้เซวียนและเหลิ่งหลิงยวิ๋นตะโกนออกมาพร้อมกันด้วยความโกรธ

 

 

สีเฉ่าฉีและสีเฉ่าซื่อปากกระตุกมองหน้ากันโดยไม่พูดอะไร

 

 

ชีอ้าวชวางทั้งโกรธและขำ แล้วกล่าวว่า”ข้าจะไปเติมของก่อน แล้วจะไปรอพวกเจ้าทั้งสี่ที่นอกเมืองทางตะวันตก” ตอนนี้นางเข้าใจแล้วว่าคนเหล่านี้ไม่ควรเข้าเมืองเลยใบหน้าเหล่านี้เป็นปัญหาในทุกที่ที่ไปแม้แต่เหลิ่งหลิงยวิ๋นที่ใจเย็นที่สุดก็ไม่สามารถทนได้ผู้ชายคนไหนก็คงทนไม่ไหว

 

 

ชีอ้าวชวางออกจากโรงแรมไปคนเดียวแล้วถอนหายใจ ความปรารถนาที่จะอาบน้ำร้อนพังไปอีกแล้วออกจากโรงแรมแล้วชีอ้าวชวางก็ปิดประตูโรงแรม กั้นความวุ่นวายข้างในเอาไว้

 

 

ชีอ้าวชวางซื้อน้ำอาหารฟืนและเสื้อผ้าจำนวนมากใส่ไว้ในตะกร้าไม้ทั้งสองข้างของอูฐแม้จะมีแหวนมิติแต่ก็ไม่ควรเปิดเผยต่อหน้าผู้คน มิฉะนั้นจะทำให้เกิดปัญหาโดยไม่จำเป็นนางจึงเข้าไปในซอยเปลี่ยวแล้วใส่สิ่งของที่ซื้อมาลงในแหวนมิติจากนั้นจึงออกไปซื้ออีก ทำเช่นนี้อยู่หลายครั้ง ในที่สุดก็เติมของที่จำเป็นเสร็จ แล้วจึงขี่อูฐมุ่งไปที่ประตูเมือง

 

 

หลังจากออกจากประตูเมืองก็ตรงไปทางตะวันตกเมื่อเดินทางไปสักพักก็เห็นกลุ่มคนรออยู่ไกลๆ

 

 

ใบหน้าของเฟิงอี้เซวียนและเหลิ่งหลิงยวิ๋นนิ่งราวกับสายน้ำส่วนสีเฉ่าฉีและสีเฉ่าซื่อเห็นได้เลยว่าพวกเขาต้องกลั้นขำไว้อย่างยากลำบาก

 

 

“ไปเถอะ ต่อไปพวกเจ้าไม่จำเป็นต้องเข้าเมืองแล้ว ข้าแค่เข้าไปซื้อของเองก็พอ” ปากของชีอ้าวชวางยังมีรอยยิ้มจางๆ ประดับอยู่คนเหล่านี้ เกรงว่าจะเป็นครั้งแรกที่มีผู้ชายมาแตะต้องและลวนลามพวกเขา

 

 

ทุกคนส่งเสียงฮึมฮัมออกมาแล้วไม่ได้พูดอะไร คนในโรงแรมนั้น พวกเขาแค่ลงโทษไปเพียงเล็กน้อยไม่ได้ทำร้ายหรือฆ่าสิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือหลังจากวันนี้ ความงามไร้ที่ติของพวกเขาจะแพร่กระจายไปทั่วโยซาลี่ถึงขนาดที่แม้แต่จักรพรรดิแห่งโยซาลี่ก็รู้เรื่องนี้นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง

 

 

กลุ่มคนออกเดินทางกันอีกครั้งและไม่ได้พบปัญหาใดๆ อีกเลยชีอ้าวชวางไปเติมเสบียงคนเดียว และไม่ได้พบมือสังหารของกลุ่มสายฟ้าดำอีกนอกชายแดนโยซาลี่เป็นเมืองท่าที่ค่อนข้างเจริญเมืองนี้เป็นแหล่งรายได้หลักแห่งหนึ่งของโยซาลี่การขนส่งสินค้าทางเรือเป็นเส้นทางหลักในการซื้อขายกับประเทศอื่น

 

 

มองไปที่เมืองใหญ่นั้นเฟิงอี้เซวียนก็ห้ามไม่ให้ทุกคนเข้าเมือง

 

 

“เจ้าบอกว่าเจ้าจะไปหาสถานที่กักขังเงือกไม่ใช่หรือ” สีเฉ่าฉีมองเฟิงอี้เซวียน แล้วก็หัวเราะ “หรือว่านายน้อยเฟิงผู้มีเสน่ห์ไร้ที่ติจะกลัวว่าจะถูกลวนลามอีก”

 

 

ทันทีที่พูดคำนั้นจบ ลมกระโชกแปลกๆ ก็ห่อหุ้มสีเฉ่าฉีไว้ในนั้น ผมของสีเฉ่าฉีปลิวไสวกลายเป็นสุ่มไก่เสื้อผ้าของเขาก็ขาดกระจุยหลังจากนั้นไม่นานสีเฉ่าฉีก็กลายเป็นหญิงสาวมากเสน่ห์ในชุดขาดวิ่น

 

 

“หุ่นดีนะ” เฟิงอี้เซวียนเลิกคิ้วและยิ้มเยาะ

 

 

“เจ้า!” สีเฉ่าฉีอับอาย ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แต่ในใจของเขาเห็นด้วยกับคำชมของเฟิงอี้เซวียน ตอนนี้รูปร่างของตนดีจริงๆเฮ้ย! นี่เขาคิดอะไรอยู่สีเฉ่าฉีปัดความคิดนั้นออกไปจากหัวอย่างรวดเร็วแล้วถามหาเสื้อผ้าชุดใหม่จากชีอ้าวชวางด้วยสีหน้าขมขื่น

เสน่ห์คมดาบ

เสน่ห์คมดาบ

แคลร์ ฮิลล์ คุณหนูใหญ่สุดสำรวยแห่งตระกูลขุนนางชั้นสูงผู้มีชื่อฉาวคาวกะฉ่อนว่าโง่เง่า เอาแต่ใจและบ้าผู้ชายเป็นชีวิตพลัดตกจากหลังม้าขณะไล่ตามองค์ชายสองจนหมดสติ สร้างความอับอายให้กับตระกูลเป็นอย่างยิ่ง กระนั้นเมื่อหญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ท่าทีของนางกลับเปลี่ยนจากหน้ามือไปเป็นหลังเท้า ไม่มีอีกแล้วคุณหนูไร้ยางอายที่คลั่งไคล้การไล่จับบุรุษรูปงาม เรื่องเรียนไม่เอาอ่าว เรื่องงานไม่เอาไหน จะมีก็แต่คุณหนูแคลร์ผู้สงบเสงี่ยมเยือกเย็น สำรวมท่าที และเปี่ยมไปด้วยพลังเวทอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเท่านั้น! เกิดอะไรขึ้นกับคุณหนูแคลร์คนนั้นกันแน่นะ!?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset