เสน่ห์คมดาบ – ตอนที่ 97

ในเวลาต่อมา แคลร์ก็รู้สึกถึงแรงที่ไม่อาจต้านทานได้ดูดนางเข้าไป ซัมเมอร์ที่จับมือแคลร์ก็ถูกดูดเข้าไปด้วยทันที  

 

 

ทั้งสี่คนหายไปในพริบตาเดียว  

 

 

เบนส่งเสียงอย่างเย็นชา ยื่นมือออกไป และหายไปต่อหน้าทุกคน  

 

 

จินเหยียนไม่พูดอะไรสักคำ เดินไปข้างหน้าและหายไปโดยอัตโนมัติ คนอื่นๆ มองหน้ากัน คามิลล์ยักไหล่และเดินตามไปอย่างสบายใจ ทุกคนที่เหลือตามไปอย่างใกล้ชิด และหายไปที่ปากทางเข้าถ้ำกันหมด  

 

 

ทันทีที่ทุกคนถูกดูดเข้าไปในเขตกั้น พวกเขาก็รู้สึกถึงแรงที่ไม่อาจต้านทานได้ เสียงกรีดร้องของซัมเมอร์กับเฉียวฉู่ซินก็ดังก้องอยู่ในหูของพวกเขา  

 

 

แคลร์กลอกตา นางหมดคำพูดกับผู้ที่ออกแบบสิ่งนี้ที่ให้ ความรู้สึกเหมือนนั่ง รถไฟเหาะ !พวกเขาไหลไปตามสไลเดอร์ครึ่งวงกลมขนาดใหญ่ ผนังโดยรอบก็ถูกแต่งแต้มด้วยแร่ธาตุเรืองแสงที่ทำให้ถ้ำสว่างไสว ทุกคนเลื่อนสไลด์ขนาดใหญ่นี้ลงมาทีละคนอย่างรวดเร็ว ซัมเมอร์และเฉียวฉู่ซินกรีดร้องตามกัน ความรู้สึกไร้น้ำหนักนี้อึดอัดมาก แต่ปัญหาใหญ่ที่สุดไม่ใช่แค่นี้ แต่เป็นการปวดก้นต่างหาก!  

 

 

ในที่สุดทุกคนก็สไลด์ลงไปถึงด้านล่างและ เริ่มมองไปรอบๆ  

 

 

แคลร์แตะก้นที่เจ็บของนางและสาปแช่งคนที่ออกแบบเขตกั้นนี้  

 

 

“นั่นคือสมบัติหรือ?” ซัมเมอร์กระซิบด้วยความประหลาดใจ  

 

 

ทุกคนมองไปในทิศทางที่ ซัมเมอร์มอง สิ่งที่ดึงดูดสายตาของทุกคนก็คือแท่นสูงที่ทำจากหยกขาวและบันไดหลายขั้นที่ทำจากหยกขาวแบบเดียวกันที่ นำทางไปสู่แท่น ดาบปัก อยู่บนแท่นหยกขาวเป็นดาบที่ดูธรรมดามาก! มันดูตรงกันข้าม กับแท่นหยกสีขาวที่ส่องแสงนี้เป็นอย่างมาก  

 

 

“มันดูธรรมดามากเลย ข้าคิดว่ามันน่าจะเป็นดาบที่เต็มไปด้วยอัญมณีเสียอีก” ซัมเมอร์พูดอย่างผิดหวัง  

 

 

“สิ่งที่หรูหราพวกนั้น เป็นสิ่งที่ไม่จริง” หลี่เยว่เหวินพูดอย่างเย็นชา เห็นได้ชัดว่าท่าทีของซัมเมอร์ทำให้นาง ไม่พอใจเล็กน้อย  

 

 

“มันง่ายเกินไปหรือไม่ที่เราได้เห็นสมบัติเช่นนี้?” วัลโดมองไปรอบๆ อย่างสงสัย  

 

 

“มันไม่สำคัญว่าเจ้าจะเห็นมันหรือไม่ เพราะสิ่งประดิษฐ์จะเลือกเจ้าของเอง แม้ว่าทุกคนจะเห็น แต่ถ้า ไม่มีใครสามารถดึงมันออกมาได้ ดาบนี้ก็ ยังคงเป็นเพียงของประดับตกแต่งอยู่เช่นนั้น ไม่มีทางเลยที่จะใช้งานมันได้” หลี่หมิงหยู่อธิบาย  

 

 

แคลร์จำสิ่งที่หลี่หมิงหยู่พูดได้ สิ่งประดิษฐ์นี้สร้างขึ้นโดยบรรพบุรุษของตระกูลหลี่และมีเพียงลูกหลานของตระกูลหลี่เท่านั้นที่สามารถดึง ออกมาได้ ไม่แปลกใจที่หลี่หมิงหยู่จะไม่ใจร้อนใดๆ เป็นไปไม่ได้เลยที่เครื่องมือเวทย์แห่งอารมณ์นี้จะ เลือกคนอื่นที่ไม่ใช่พี่น้องทั้งสองอย่างพวกเขา  

 

 

“แต่มันดูธรรมดา จริงๆ นะ ” เบนเดินไปที่ระเบียงหยก นั่งลงมองดาบตรงหน้า อย่างสงสัย  

 

 

“เจ้ารู้อะไรบ้างล่ะ!” แคลร์ก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่อสังเกตและพูดอย่างเย็นชาสอนเบน “ยิ่งเป็นสิ่งที่ไม่โดดเด่น ก็ยิ่งเป็นสิ่งที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้ สิ่งที่ดูธรรมดา มักจะทำให้ผู้คนไม่ระวังตัว และเปิดโอกาสให้คนอื่นๆ ได้ ก็เหมือนการต่อสู้ที่รออยู่เฉยๆ แล้วค่อยโจมตีอย่างร้ายแรง การทำสิ่งธรรมดาแบบนี้ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดได้นะ”  

 

 

เบนขมวดคิ้วและมองแคลร์ เขาฟังการสอนของแคลร์อย่างตั้งใจแล้วพยักหน้าตามและพูด “เจ้าจะบอกว่า ตั้งใจทำให้ดูธรรมดาๆ เช่นนี้หรือ?”  

 

 

“ทำให้ศัตรูสับสนไง ปล่อยให้ศัตรูคิดว่ามันไร้ประโยชน์มากแล้วค่อยโจมตีอย่างดุเดือด ใช้ความพยายามเพียงครึ่งเดียวแต่ได้ผลลัพธ์ถึงสองเท่าไงล่ะ ” แคลร์พูดอย่างเย็นชาพร้อมทั้งอธิบายและสอนต่อไป  

 

 

“อ้อๆๆๆ” เบนพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่าและบันทึกเอาไว้อย่างจริงจัง  

 

 

ท่าทางการเรียนและการสอนของทั้งคู่ ทำเอาคนอื่นงงไปตามๆ กัน  

 

 

หลี่หมิงหยู่เดินไปข้างหน้าช้าๆ และมองไปยัง ดาบที่ดูไม่โดดเด่นตรงหน้า เขารู้ดีว่าดาบเล่มนี้ไม่ได้ธรรมดา เหมือนรูปลักษณ์ของมัน สิ่งประดิษฐ์ที่ใช้พลังงานของบรรพบุรุษของตระกูลหลี่ต้องมีเอกลักษณ์สิ  

 

 

เมื่อหลี่หมิงหยู่เข้ามาใกล้ดาบ ก็มี เหตุประหลาดเกิดขึ้น  

 

 

ดาบสั่นเล็กน้อยและก็ค่อยๆ เปล่งประกายแสงสีเงินออกมา  

 

 

รอยยิ้มแห่งความโล่งใจและความสุขปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลี่เยว่เหวิน ดูเหมือนว่าดาบนั้นจะมีความมุ่งมั่นมาก คาดว่าการฟื้นฟูตระกูลหลี่จะต้องทำได้แน่นอน!  

 

 

หลี่หมิงหยู่รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ดาบที่เขาตามหาอยู่ตรงหน้าเขาและก็ตอบสนองต่อเขาด้วย!  

 

 

แคลร์มองภาพมหัศจรรย์ตรงหน้าด้วยดวงตาเบิกกว้างและถอนหายใจ สิ่งประดิษฐ์นั้นมีจิตวิญญาณจริงๆ และมันสามารถเลือกเจ้าของได้! ทุกคนยังกลั้นหายใจมองภาพตรงหน้าอย่างตั้งใจ  

 

 

เมื่อหลี่หมิงหยู่เดินเข้าใกล้ ดาบก็สั่นสะเทือนมากขึ้นและแสงบนดาบก็สว่างมากขึ้นด้วย  

 

 

“โปรดตอบรับการเรียกของข้า ทำตามความประสงค์ของข้า และนำพาตระกูลหลี่กลับ สู่ความมั่งคั่งอีกครั้ง” หลี่หมิงหยู่พูดด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึมและยืนอยู่ตรงหน้าดาบ  

 

 

ทุกคนไม่ขยับเขยื้อนสายตาและมอง หลี่หมิงหยู่อย่างตั้งใจ เพราะกลัวว่าจะพลาดช่วงเวลามหัศจรรย์ที่กำลังจะเกิดขึ้น  

 

 

หลี่หมิงหยู่หลับตาลงอย่างเคร่งขรึมและวางมือบนด้ามจับช้าๆ แล้วดึง ดาบออกมาอย่างแรง  

 

 

ความสดใสของช่วงเวลานั้นสว่างมากจนน่าหลงใหล… แปลก!  

 

 

ดาบไม่ขยับออกมา แต่มันยังคงสั่นเล็กน้อยและเปล่งแสงสีเงิน  

 

 

หือ? หลังจากที่หลี่หมิงหยู่สะดุ้งเล็กน้อยเขาก็ดึง ดาบออกมาอีกครั้ง  

 

 

ดาบก็ยังคงไม่ขยับ!  

 

 

ทุกคนกระพริบตาด้วยความสงสัย ทำไมถึงไม่ดึง ขึ้นมาล่ะ  

 

 

แคลร์ขมวดคิ้วและมองหลี่หมิงหยู่ นางไม่เข้าใจว่าเขากำลังทำอะไร ทำไมถึงยืนอยู่อย่างนั้นและไม่ดึงดาบขึ้นมาล่ะ?  

 

 

หลี่เยว่เหวินขมวดคิ้วเล็กน้อย เพราะจากสิ่งที่รู้เกี่ยวกับพี่ชายของนาง หลี่หมิงหยู่ไม่ใช่ คน ลังเล แต่ทำไมเขาถึงไม่ดึง ดาบ! ลางสังหรณ์ไม่ดีเกิดขึ้นในใจของนาง  

 

 

หลี่หมิงหยู่พยายามดึง ดาบอย่างแรงอีกครั้ง แต่ดาบก็ยังคงอยู่ในแท่นหยกขาวโดยไม่ขยับเขยื้อนออกมา เหมือนเดิม  

 

 

สีหน้าของหลี่หมิงหยู่เปลี่ยนไป ในที่สุดเขาก็ค่อยๆ ปล่อยมือและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “ข้าดึงมันไม่ออก เยว่เหวิน เจ้ามาลองดูสิ”  

 

 

“ห้ะ?!” ทุกคนอุทานและถอนหายใจ หลี่หมิงหยู่ไม่สามารถดึงดาบออกมาได้หรือ?! ดาบสมบัติของตระกูลไม่ยอมรับหลี่หมิงหยู่เป็นเจ้านายจริงหรือ?! ก่อนหน้านี้ดาบเล่มนี้ยังสั่นสะท้านและยังส่องสว่าง ตอนหลี่หมิงหยู่เดินขึ้นมาอยู่เลย นี่ไม่ใช้การหลอกใช่หรือไม่?  

 

 

“ข้าหรือ?” หลี่เยว่เหวินถามอย่างสงสัยและชี้ที่ตัวเอง  

 

 

“ใช่ เจ้าเป็นคนเดียวที่มีคุณสมบัติตระกูลหลี่นอกจากพี่” น้ำเสียงของหลี่หมิงหยู่ดูซับซ้อนเล็กน้อย ตระกูลหลี่มีเพียงพี่น้องสองคนเท่านั้นที่ยังคงดิ้นรนเพื่อสนับสนุนตระกูลอยู่  

 

 

แคลร์และคนอื่นๆ มองฉากตรงหน้าพวกเขาอย่างพูดไม่ออก ทำได้เพียงแค่รอ เงียบๆ  

 

 

หลี่เยว่เหวินค่อยๆ เดินไปที่แท่นหยกขาวด้วยสีหน้าที่ซับซ้อนและค่อยๆ ยื่นมือออกไป มือของหลี่เยว่เหวินสั่นเล็กน้อย นางหวังว่าจะดึงมันออกมาได้ แต่ก็หวังว่าจะดึงออกมาไม่ได้ ดึงออกมาได้จะหมายความว่าอย่างไรล่ะ? หมายความว่าว่าพี่ใหญ่ไม่ดีเท่าตนเองหรือ? แล้วหากดึงออกมาไม่ได้ ตระกูลหลี่จะฟื้นฟูได้อย่างไร? ในใจของหลี่เยว่เหวินซับซ้อนมาก หลังจากนั้นนางก็วางมือลงบนด้ามดาบ  

 

 

นางตั้งสมาธิแล้วดึงดาบ!  

 

 

ดาบไม่ขยับ  

 

 

หลี่เยว่เหวินถอนหายใจด้วยความโล่งอก เจ้านายที่ดาบสมบัติเลือกไม่ใช่นาง!  

 

 

ทันใดนั้นในถ้ำก็เงียบลง ทุกคนมองหน้ากันและไม่พูดอะไร  

 

 

ตอนนี้มันคือสถานการณ์อะไรกัน?!  

 

 

ดาบสมบัติตระกูลหลี่ไม่เลือกเจ้านาย! พี่น้องตระกูลหลี่ไม่ได้เป็นเจ้าของดาบ!  

 

 

มีเพียงความเงียบงันเกิดขึ้นรอบตัว มีเพียงดาบที่ยังคงสั่นเล็กน้อยเท่านั้น  

 

 

หลี่หมิงหยู่และหลี่เยว่เหวินมองไปที่ดาบสมบัติอย่างว่างเปล่าโดยไม่มีคำพูดหรือการกระทำใดๆ พวกเขาทำทุกวิถีทางเพื่อค้นหาดาบ แต่ตอนนี้ทำได้แค่มองไปที่มันเท่านั้น ทุกคนไม่กล้าพูดอะไรและ รอดูท่าทีของสองพี่น้อง ทุกคนเงียบ ดูเหมือนว่าในเวลานี้จะไม่เหมาะที่จะพูดคำปลอบโยนใดๆ ออกมา  

 

 

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนจน แคลร์รู้สึกว่าเท้าชาเล็กน้อย นางจึง พูดอย่างแผ่วเบา “เช่นนั้น เราสามารถหาวิธีอื่นได้หรือไม่ เราเอาแท่นหยกขาวนี้ลงมา ขนแท่นหยกขาวกลับไปพร้อมกับดาบเลยได้หรือไม่ บางทีคนอื่นในตระกูลหลี่ของเจ้าอาจดึงดาบได้”  

 

 

หลี่หมิงหยู่ส่ายหัวเบาๆ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความผันผวน “ถ้าทำได้คงมีคนทำแบบนี้มานานแล้ว นี่ แสดงให้เห็นว่าเราไม่แข็งแกร่งพอและดาบสมบัติไม่ยอมรับเรา”  

 

 

หลี่เยว่เหวินก็ดูเศร้าโศกเช่นกัน  

 

 

ทันใดนั้นบรรยากาศอันเงียบงันของความโศกเศร้าก็แพร่กระจายออกไป ทุกคนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี  

 

 

แคลร์มองสีหน้าเศร้าโศกบนใบหน้าของหลี่เยว่เหวิน หัวใจของนางรู้สึกอึดอัด แม้ว่าหญิงผู้นี้จะดูร้ายกาจอยู่เสมอ แต่แคลร์ก็ไม่สามารถเกลียดนางได้ แคลร์อยากจะปลอบใจนาง แต่ไม่รู้จะพูดว่าอะไรดี  

 

 

แคลร์บิดตัว ตอนนี้เท้านางชาแล้ว  

 

 

จากนั้นแคลร์ก็เอื้อมมือออกไปโดยไม่รู้ตัว คิดเพียงแค่จะเอามือไปเท้าที่ดาบเพื่อพยุงตัวเองเท่านั้น  

 

 

เสียง “ปัง” ผิดปกติดังขึ้นในถ้ำที่เงียบงัน  

 

 

ทุกคนมองฉากตรงหน้าพร้อมอ้าปากกว้างตะลึง  

 

 

แคลร์ล้มลงบนแท่นหยกขาวโดยมีดาบที่ไม่โดดเด่นนั้นหล่นอยู่ข้างๆ!  

 

 

แคลร์รีบลุกขึ้นมองดาบที่วางอยู่ข้างๆนางหยิบดาบ ขึ้นมาและพูดด้วยความตื่นตระหนก “ข้าแค่อยากจะพิงมัน ไม่ได้ตั้งใจจะ…”  

 

 

แค่จะพิง ข้าไม่ใช่ตั้งใจ ข้า ข้าจะเสียบคืนเดี๋ยวนี้…  

 

 

เสียงสะท้อนไม่มีที่สิ้นสุด เสียงสะท้อนที่ไม่มีที่สิ้นสุด…  

 

 

เสียงนั้นยังคงสะท้อนก้องต่อไป  

 

 

ปฏิกิริยาแรกของแคลร์คือต้อง รีบสอดดาบกลับไปอย่างรวดเร็ว  

 

 

ทันใดนั้นแคลร์ก็ยืนนิ่งทื่อ มีลมพัดเย็นๆ อยู่ข้างหลัง แคลร์ก้มลงช้าๆและมองดาบในมืออย่างโง่เขลา  

 

 

เจ้าต้องให้ทายาทของตระกูลหลี่เป็นผู้ดึงออกไปไม่ใช่หรือ? ไม่ใช่ว่าต้องมีเจตจำนงที่มั่นคงและพลังแข็งแกร่งจึงจะสามารถดึงออกมาได้หรือ? ทำไมนาง แค่สัมผัสก็ล้มลงเลยล่ะ?  

 

 

แคลร์หันไปและเห็นสีหน้า ที่แปลกประหลาด ของกลุ่มคนที่ยืนอยู่ข้างๆ และด้านล่าง โดยเฉพาะหลี่อเยว่เหวิน นางเบิกตากว้างมองตรงไปที่ดาบในมือของแคลร์  

 

 

“คือ… ไม่ใช่ว่ามีแค่คนของตระกูลหลี่ที่สามารถดึงดาบ ออกมาได้หรือ? ดาบเข้าใจผิดแล้ว ข้า ให้ข้าเสียบกลับไปหรือไม่?” แคลร์ถามอย่างอ่อนแรงมองดวงตาที่ดูกินเลือดกินเนื้อของหลี่เยว่เหวิน  

 

 

“ดะ ดาบสมบัติเลือกเจ้าเป็นเจ้าของแล้ว!” ซัมเมอร์พูดติดขัดและยื่นนิ้ว ชี้ไปที่ดาบในมือของแคลร์ ดวงตาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อและประหลาดใจ จิตใจของคนอื่นว่างเปล่า พวกเขามองไปที่แคลร์ด้วยความงุนงง  

 

 

“ข้า ข้า ข้าจะเสียบกลับไปเดี๋ยวนี้…” แคลร์พูดอย่างอ่อนแรงด้วยใบหน้าไร้เดียงสา  

 

 

“เจ้า! เจ้าตัวเหม็น!” หลี่เยว่เหวินคว้าคอเสื้อของแคลร์อย่างบ้าคลั่งและเขย่าอย่างแรง “เจ้าเห็นดาบสมบัติของตระกูลหลี่ของเราเป็นอะไร? เจ้ายังจะเสียบกลับไปอีกงั้นหรือ? มันเลือกเจ้าแล้ว มันเลือกเจ้าให้เป็นเจ้าของแล้ว เข้าใจหรือไม่?เรื่องนี้มี เหตุผลหรือไม่?!”  

เสน่ห์คมดาบ

เสน่ห์คมดาบ

แคลร์ ฮิลล์ คุณหนูใหญ่สุดสำรวยแห่งตระกูลขุนนางชั้นสูงผู้มีชื่อฉาวคาวกะฉ่อนว่าโง่เง่า เอาแต่ใจและบ้าผู้ชายเป็นชีวิตพลัดตกจากหลังม้าขณะไล่ตามองค์ชายสองจนหมดสติ สร้างความอับอายให้กับตระกูลเป็นอย่างยิ่ง กระนั้นเมื่อหญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ท่าทีของนางกลับเปลี่ยนจากหน้ามือไปเป็นหลังเท้า ไม่มีอีกแล้วคุณหนูไร้ยางอายที่คลั่งไคล้การไล่จับบุรุษรูปงาม เรื่องเรียนไม่เอาอ่าว เรื่องงานไม่เอาไหน จะมีก็แต่คุณหนูแคลร์ผู้สงบเสงี่ยมเยือกเย็น สำรวมท่าที และเปี่ยมไปด้วยพลังเวทอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเท่านั้น! เกิดอะไรขึ้นกับคุณหนูแคลร์คนนั้นกันแน่นะ!?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset