เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค – ตอนที่ 452 ความโง่เขลาของสืออู่กับเตาหนูที่เหมือนท่อนไม้ (3)

แต่ก่อนจะไปก็ยังไม่ลืมกำชับชูอีให้ดูแลชุนเยี่ยนมากหน่อย อย่างไรนางก็ตั้งครรภ์อยู่

มั่วเชียนเสวี่ยเอาใจใส่อีกฝ่ายตามวัฒนธรรมในยุคปัจจุบัน แต่ในโสตของชุนเยี่ยน กลับเป็นความอบอุ่นซึ่งไร้ซึ่งความเห็นแก่ตัว

แต่ก่อน นางเห็นมั่วเชียนเสวี่ยเป็นผู้มีพระคุณของหมู่บ้านหวังจยาของพวกนาง เห็นเป็นเถ้าแก่เนี๊ยะของร้าน เห็นเป็นนายจ้าง

ตอนนี้ ในใจของนาง คุณหนูใหญ่เป็นคนดีที่สุดในใต้หล้า

……

จวนหนิง

หนิงเซ่าชิงจัดการภารกิจตามหน้าที่ แต่ก็กำชับเหล่าองครักษ์ลับว่า ไม่ว่าเวลาใด เมื่อมีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับมั่วเชียนเสวี่ยล้วนต้องรายงาน

หลังจากได้ยินองครักษ์ลับรายงานเรื่องนี้แล้ว ก็นิ่งอึ้งไป แต่สุดท้ายก็ยิ้มอย่างจนปัญญา

แม้รอยยิ้มจะเจือไปด้วยความจนปัญญา แต่กลับรู้สึกดีใจแทนมั่วเชียนเสวี่ยจากใจจริง

แต่ลองคิดดูแล้ว ก็รู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวเล็กน้อย

ทำไมเขาถึงคิดไม่ถึงว่าต้องช่วยเชียนเสวี่ยเตรียมสิ่งของเหล่านี้นะ

อย่ามองว่าของพวกนั้นจุกจิก ยุ่งเหยิงมาก แต่กลับแสดงให้เห็นถึงน้ำใจที่จย่าฮูหยินมีต่อมั่วเชียนเสวี่ย นั่นล้วนเป็นความจริงใจ!

ผู้อื่นให้เขา เขาจะตอบแทนคืน

ดีต่อมั่วเชียนเสวี่ย ดีกว่าดีต่อเขา ยิ่งทำให้หัวใจอุ่นร้อน

“สั่งการลงไป ในภายหน้าให้คนดูแลจวนจย่าหน่อย เรื่องใดๆ ล้วนต้องถอยให้สามส่วน”

“ขอรับ”

องครักษ์ลับรับคำสั่งแล้วถอยออกไป แต่ในใจกลับอิจฉาโชคชะตาของจวนจย่าในภายภาคหน้า

เดิมตระกูลจย่าเป็นตระกูลใหญ่ ทั้งยังมีชื่อเสียง มีผลงานยิ่งใหญ่ และเป็นที่นับถือในแวดวงวิชาการ

ตอนนี้สามารถได้รับการปฏิบัติอย่างใจกว้างจากตระกูลขุนนางเก่าแก่ เช่นนี้ก็มากพอที่จะกล่าวได้ว่า ในภายหลังจวนจย่าจะไม่มีใครเทียบได้เมื่ออยู่ในเมืองหลวง!

ส่วนจย่าฮูหยินกลับไม่เคยคิดเลยว่า กุศลกรรมที่นางเอาใจบุตรีบุญธรรมเช่นนี้ ถึงกับทำให้เหล่าบุตรหลานของนางราบรื่นไปตลอดชีวิต มีบุพเพโชคชะตาดีงาม

แน่นอนว่านี่เป็นเรื่องในภายหลัง พวกเราจะไม่เอ่ยถึงมันชั่วคราว

เมื่อถึงยามบ่าย สิ่งของที่จย่าฮูหยินนำมาไว้ที่บ้านไร่พวกนั้น ก็ถูกจัดการเก็บกวาดเรียบร้อยแล้วภายใต้การร่วมมืออย่างสุดความสามารถของชูอีกับชุนเยี่ยน

มั่วเชียนเสวี่ยไปห้องครัว ดูว่าจะทำอะไรให้แม่บุญธรรมของนางกิน หลังจากกลับมาเห็นลานที่โล่งกว้าง ก็โล่งใจเงียบๆ

และในตอนนี้ จย่าฮูหยินที่พักผ่อนอยู่ในห้องก็ตื่นขึ้นมาแล้ว

จย่าฮูหยินเห็นดวงอาทิตย์คล้อยไปทางทิศตะวันตก ก็ตั้งใจอำลาแล้วจากไป

อย่างไรเสีย ที่นี่ก็เป็นบ้านไร่บริเวณชานเมืองนอกเมืองหลวง จะกลับไปที่เมืองหลวง ต้องรีบทำเวลาเดินทางช่วงหนึ่ง

มั่วเชียนเสวี่ยหมายมั่นปั้นมือแต่แรกแล้วว่าจะให้จย่าฮูหยินพักที่บ้านไร่ ดังนั้นจึงออดอ้อนด้วยวิธีต่างๆ นาๆ สุดท้ายก็ทำให้จย่าฮูหยินใจอ่อนจนยอมพักที่นี่

จย่าฮูหยินพักที่นี่ แต่เหล่าข้ารับใช้ที่นางพามาด้วยพวกนั้นพักบ้านไร่นี้ไม่ได้ ดังนั้นมั่วเชียนเสวี่ยจึงติดต่อหวังเทียนซง ให้หวังเทียนซงหารถม้าส่งคนเหล่านี้กลับไปที่จวนจย่า

ตอนกลางคืนมั่วเชียนเสวี่ยอุ้มหมอนไปห้องจย่าฮูหยิน

มารดาและบุตรีสองคนนอนอยู่บนเตียงหลังเดียวกัน

มั่วเชียนเสวี่ยได้สัมผัสความรักของมารดาที่ไม่ได้สัมผัสมาเป็นเวลานาน

เหมือนได้กลับไปตอนเป็นเด็ก รู้สึกผ่อนคลายเมื่อมารดาของนางอยู่ข้างกาย

“เชียนเสวี่ย หลังจากเจ้าแต่งเข้าตระกูลหนิงไปแล้ว ต้องระแวดระวังในทุกๆ เรื่อง…”

“ท่านแม่บุญธรรม ท่านวางใจเถอะเจ้าค่ะ เซ่าชิงปฏิบัติต่อข้าด้วยความจริงใจ…”

“แม้ว่าจะจริงใจ แต่ก็ต้องควบคุมเรือนหลังเอาไว้ให้ดี บางครั้งความรู้สึกของบุรุษก็จะได้รับผลกระทบจากทางนั้นทางนี้เช่นกัน…”

สนทนากันยืดยาวจนถึงดึกดื่น สุดท้ายก็เป็นเพราะจย่าฮูหยินอายุมากแล้ว ทนต่อความง่วงงุนไม่ไหว นอนหลับไปก่อน

เนื้อหาการสนทนาของทั้งสองคน ย่อมเริ่มจากหัวข้อหลักว่ามั่วเชียนเสวี่ยจะใช้ชีวิตอย่างไรหลังจากที่แต่งเข้าตระกูลหนิงไปแล้วและขยายออกไปเรื่อย

ตอนนี้มั่วเชียนเสวี่ยกลับไม่มีความง่วงงุนเลยสักนิด

มุมปากยังคงประดับรอยยิ้มจางๆ ขณะมองจย่าฮูหยินที่นอนหลับอย่างสงบอยู่ข้างๆ ในใจก็อบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง

นางเป็นคนชอบเอาชนะตั้งแต่ยังเด็ก ดังนั้นกับบิดามารดาในยุคปัจจุบันก็ไม่นับว่าใกล้ชิดมาก แต่มาถึงต่างโลกนี้ดียิ่งกว่า เป็นเด็กที่ไร้บิดามารดาคนหนึ่ง แม้ว่าอยากจะใกล้ชิดด้วยก็ไม่มีหนทาง

แต่ทว่าสวรรค์กลับสงสารเวทนานาง รู้ว่านางขาดความรักของมารดา จึงได้ส่งจย่าฮูหยินมาอยู่ข้างกายนาง

จย่าฮูหยินปฏิบัติต่อนางอย่างดีด้วยความจริงใจ

ไม่เอ่ยถึงว่าครั้งนี้มาเยี่ยมนาง แค่เอ่ยถึงเรื่องที่นางปักปิ่นในวันนั้น เดิมนางล้วนเชิญบุตรีอนุภรรยาสามคนของจวนจย่าด้วย แต่กลับมาแค่สตรีที่หมั้นหมายแล้วเท่านั้น

อีกสองคนที่คิดจะเป็นสินเดิมติดตามนางไปตอนแต่งงานไม่ได้มาเพราะป่วย

มีเรื่องบังเอิญเช่นนี้เสียที่ไหนกัน!

จะต้องเป็นเพราะท่านแม่บุญธรรมเห็นนางไม่ยินยอม จึงช่วยจัดการให้นางแล้ว

มั่วเชียนเสวี่ยอมยิ้มน้อยๆ สุดท้ายก็ค่อยๆ หลับตาลง

เช้าวันรุ่งขึ้น เอ่ยเช่นไรจย่าฮูหยินก็ไม่ยอมพักต่อแล้ว นางเอ่ยเพียงแค่ว่า ได้เห็นว่าตอนนี้มั่วเชียนเสวี่ยสบายดีมาก นางก็วางใจแล้ว

อย่างไรเสีย นางก็เป็นนายหญิงของจวน เรื่องกองพะเนินภายในจวนล้วนรอให้นางกลับไปจัดการ

เห็นได้ชัดว่ามั่วเชียนเสวี่ยเข้าใจเหตุผลนี้ เมื่อเห็นว่ารั้งจย่าฮูหยินไม่อยู่แล้วจริงๆ ก็ตามใจนาง ให้หวังเทียนซงเตรียมรถม้า พวกคนในบ้านไร่ก็ไว้ใจได้ มั่วเชียนเสวี่ยรู้สึกอาลัยอาวรณ์ต่อจย่าฮูหยินจริงๆ ดังนั้นจึงไปจย่าฮูหยินกลับเมืองหลวงด้วยตนเอง

เดิมจย่าฮูหยินไม่ต้องการให้นางไปส่ง แต่นางบอกว่านางจะเข้าไปดูเรื่องที่ต้องจัดการเกี่ยวกับจวนกั๋วกงในเมืองหลวงพอดี จย่าฮูหยินจึงไม่ห้ามปรามนางอีก

หลังจากนางส่งจย่าฮูหยินกลับจวนจย่าแล้ว เมื่อไม่มีเรื่องอันใดอีกก็ไปที่จวนกั๋วกง

ตอนนั้นฮ่องเต้ถูกมั่วเชียนเสวี่ยใช้การข่มขู่ต่างๆ บีบบังคับให้นำเงินจากคลังหลวงมาสร้างจวนกั๋วกงขึ้นใหม่

เช่นนี้ตำแหน่งของฮ่องเต้ที่อยู่ในใจประชาชนก็ยิ่งใหญ่มากขึ้นไปอีก!

สตรีกำพร้าที่น่าสงสารนางหนึ่ง ฮ่องเต้ยังสามารถให้ความเอ็นดูถึงปานนี้ ย่อมเป็นฮ่องเต้ที่ดี

สำหรับเรื่องนี้ มั่วเชียนเสวี่ยไม่ได้คัดค้านอันใดหนิงเซ่าชิง และไม่ได้ขัดขวางเช่นกัน

แน่นอนว่า มั่วเชียนเสวี่ยไม่ได้เล่าข้อเสนอ ‘พระสนมเสวี่ย’ ในวันนั้นของฮ่องเต้ออกมาสักคำ และยิ่งไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องที่ตนเองเกือบจะถูกขันทีน่าตายผู้นั้นบีบคอตาย

หากว่าเอ่ยออกไปจริงๆ ด้วยนิสัยของหนิงเซ่าชิง เกรงว่าชีวิตคงไม่ได้ดำเนินไปอย่างสงบสุขแน่นอน

มั่วเชียนเสวี่ยไม่ใช่ว่าไม่อยากหาเรื่องฮ่องเต้เฒ่านั่น เพียงแต่ไม่อยากให้หนิงเซ่าชิงเสี่ยงอันตราย

ไม่ว่าในเรื่องนี้ ฮ่องเต้จะได้รับชื่อเสียงดีงามอย่างไร สำหรับพวกเขาก็ไม่ได้มีการคุกคามใดๆ กลับกัน ขอเพียงแค่บูรณะจวนกั๋วกงให้เรียบร้อย มั่วเชียนเสวี่ยย่อมไม่มีทางไปหาเรื่องฮ่องเต้แม้แต่น้อย

ผู้อื่นเป็นถึงฮ่องเต้ ผู้ปกครองแว่นแคว้น ถูกใส่ร้ายอย่างไม่เป็นธรรมเช่นนี้ ทั้งยังเสียเงินจำนวนมาก ได้รับชื่อเสียงบ้าง ก็สมควรเช่นกัน

การที่นางสร้างจวนกั๋วกงขึ้นมานั้นไม่ใช่เพื่อตนเอง!

แต่เพราะบิดามารดาของนาง!

แม้ว่าโดยเนื้อแท้มั่วกั๋วกงกับกั๋วกงฮูหยินจะไม่ใช่บิดามารดาของนาง แม้ว่าทั้งสองท่านจะสิ้นชีพไปก่อนหลังตามลำดับ แต่ในดินแดนสุขาวดีแห่งนี้ มั่วเชียนเสวี่ยกลับหวังว่าจะรักษามันเอาไว้ได้ภายในขอบเขตความสามารถของนาง

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค
Status: Ongoing
อ่านนิยายเหนียงจื่อของคุณชายขี้โรคเพราะสำลักน้ำชาจนขาดอากาศ(?)ทำให้ มั่วเชียนเสวี่ย สาวมั่นหัวการค้าทะลุมิติมาอยู่ในโลกยุคโบราณและในร่างของคนอื่น แต่นั่นยังไม่น่าตระหนกเท่าการที่ร่างนี้กำลังจะแต่งงานเพื่อแก้เคล็ดให้กับชายหนุ่มที่ป่วยร่อแร่เต็มที! ในโลกที่หากขาดที่พึ่งผู้หญิงก็สามารถถูกขายเป็นทาสได้ตลอดเวลาสามีคนนี้ของนางนับว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยทีเดียว ทั้งมีความรู้ สุภาพและไม่ใช้กำลังแถมหน้าตายังหล่อเหลาอีกด้วย เสียตรงร่างกายอ่อนแอไปหน่อยเท่านั้น ชีวิตครอบครัวชนบทแสนยากจนของนางจึงเริ่มขึ้นที่ตรงนั้น… แต่อย่างไรนางไม่ยอมงอมืองอเท้ารับชะตากรรมแบบนี้แน่ ในเมื่อนางมีความรู้ความสามารถยังต้องกลัวสร้างกิจการไม่ได้อีกหรือ?! เส้นทางร่ำรวยสายนี้นางจะบุกเบิกมันขึ้นมาด้วยตนเอง! และหวังว่าทุกอย่างจะราบรื่นด้วยดี เพราะเหมือน ‘ร่างนี้’ ของนางกับฐานะเดิมของสามีเหมือนจะไม่ค่อยธรรมดาเสียด้วยสิ…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset