เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย – ตอนที่ 39 การแข่งปราบปราม (3)

“ โอ้วครอส การแข่งปราบปรามวันนี้เป็นยังไงบ้างล่ะ? ”

 

ทันทีที่กลับมาถึงคฤหาสน์

พอได้คุณเทโลเมียร์ช่วยใช้สกิลฟื้นฟูให้ทุกชนิดจนหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง ตัวผมที่มุ่งหน้ามายังสวนเพื่อเข้ารับการฝึกวิชา ก็ถูกคุณลีโอเน่เค้ายิงคำถามใส่มาว่าอย่างนั้น

 

“ เอ่อ ก็เรื่องนั้นแหละครับ…… ”

 

ตอนแรกก็กะจะขอคำปรึกษาในช่วงอาหารเย็นอยู่แล้ว แต่เพราะได้คุณลีโอเน่ช่วยพูดเปิดประเด็นให้ ผมก็เลยทำการบอกกล่าวเล่ารายละเอียดของการแข่งปราบปรามในวันนี้ออกมาตรงนั้นเลย

 

“ ——ก็อารมณ์ประมาณนี้ครับ หืดขึ้นคอสุดๆไปเลย พอจะมีข้อแนะนำดีๆบ้างไหมครับ ”

 

พอผมเอ่ยถามวิธีการรับมือกับสไลม์ปุกปุยไปแบบนั้น คุณลีโอเน่กับคุณเทโลเมียร์ที่ช่วยรับฟังพลางพยักหน้า “อืมๆ” มาตลอดจนถึงตอนนี้ ก็พลันอ้าปากขึ้นพูดออกมาในจังหวะที่เกือบๆจะพร้อมเพรียงกัน

 

“ งี้นี่เองนะ ถ้างั้นก็เอาแบบนี้แล้วกัน ช่วงนี้ลองหันมาฝึกสกิลที่เน้นในด้านความเร็วดูซักพัก ถ้าศัตรูมันเอาจำนวนข่มใส่เข้าว่างั้นเราก็ต้องตอบโต้ด้วยลีลา เดี๋ยวจะสอนสกิลสายบัพความว่องไว กับสกิลจู่โจมสายกระหน่ำโจมตีให้ เอานั่นมาเป็นฐานแล้วฝึกท่วงท่าการเคลื่อนไหวให้สามารถปกป้องคุ้มครองพวกกองหลังได้กันเหอะ ”

“ งั้นก็มามุ่งมั่นเรียนให้ได้สกิลปั่นหัวที่มีผลในระยะกว้างกันเถอะน้าา ❤ ถ้าทำให้ทั้งสไลม์ปุกปุยกับเหล่านักผจญภัยที่มาเข้าร่วมการแข่งปราบปรามง่อยหมดสภาพไปให้หมดซะแบบนั้นก็ครองผลงานทั้งหมดไว้ได้คนเดียวเลยย กอบโกยเงินเย้~อแยะมากมายก่ายกองได้ในทีเดียวเลยเชียวน้าา ❤ ”

 

คุณลีโอเน่เสนอวิธีการรับมือให้พร้อมกับรอยยิ้มอันดุดัน ส่วนคุณเทโลเมียร์เค้าก็แนะนำวิธีการรับมือให้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มที่ดูชั่วร้ายนิดๆยังไงชอบกล ทว่า—-

 

“ อ๊า? ”

“ หา? ”

 

พอได้ยินแนวทางการฝึกของกันและกันปุ๊บ รอยยิ้มนั่นก็กระจุยหายลับไปในบัดดลเฉย!?

 

“ เฮ้ยเทโลเมียร์ ครองผลงานไว้คนเดียวบ้าบออะไรของหล่อนน่ะ ครอสไม่ใช่คนนิเสียเสียชั่วช้าเลวทรามคบหาไม่ได้อย่างหล่อนนะเฮ้ย ไอ้แนวทางการฝึกที่ห่วยแตกหมามันยังไม่แลพรรค์นั้นใช้ได้ซะที่ไหนกัน ”

“ หา~~? ลีโอเน่จังนั่นแหละละเมออะไรเหรอ คิดว่าแนวทางที่ดูสมองกล้ามคิดแต่จะใช้แรงอัดมั่วๆเข้าว่าอย่างเดียวพรรค์นั้นมันดีแล้วจริงๆเหรอจ๊าา~? ให้ว่าแล้วน้าา ฉันเองก็ชักจะอยากสอนสกิลให้ครอสคุงแบบจริงๆจังๆบ้างแล้วเหมือนกันเนี่ยย สเตตัสเพลทของครอสคุงมีแต่สกิลที่ได้รับจากลีโอเน่จังกับลูด์มิร่าจังเต็มไปหมดเลย ช่วงนี้พอเห็นแล้วก็ชวนให้อารมณ์บูดสุดๆไปเลยน่ะน้าา~ ”

 

เปรี๊ยะเปรี๊ยะเปรี๊ยะเปรี๊ยะ!

พลังเวทอันมากล้นกับ “แรงกดดัน” ลึกลับมันกระแทกกระทั้นปะทะชนกัน ส่งผลให้ชั้นบรรยากาศเริ่มที่จะสั่นสะเทือนเลือนลั่น

 

(ทะ ทำไงดี เป็นเพราะผมถามอะไรแปลกๆออกไปงั้นเหรอเนี่ย…….!?)

 

ทว่า เป็นในจังหวะที่ผมกำลังงงงวยขั้นหนักอยู่นั่นแหละ

 

“ ฮื่ม ได้รับฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ”

 

ที่เสียงอันเยือกเย็นพลันดังก้องกังวานไปทั่วสวน โดยไม่ได้หวั่นไหวยำเกรงต่อบรรยากาศอันอึมครึมปั่นป่วนนี่เลย

คุณลูด์มิร่านั่นเอง

 

“ วิธีการรับมือกับสไลม์ปุกปุย——กล่าวคือมอนสเตอร์บินได้ที่จับตัวรวมกลุ่มกันเป็นฝูงใช่ไหม? หากเป็นเช่นนั้น ก็ต้องฝึกฝนสกิลเวทมนตร์ที่เป็นเลิศในด้านการทำลายล้างระยะกว้างไกลเพียงอย่างเดียวเท่านั้นล่ะ ”

 

ว่าแล้ว คุณลูด์มิร่าก็วางมือลงบนไหล่ของผมพลางถามมาว่า “เธอเองก็คิดเห็นตรงกันใช่ไหม?”

จริงของเค้า ถ้าดูจากการเฉิดฉายของปาร์ตี้ขุนนางนั่นแล้ว ก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้งเลยว่าเวทโจมตีซึ่งมีอานุภาพสูงมันใช้ได้ผลดีกับสไลม์ปุกปุยมากเลยทีเดียว แต่ก็มีจุดหนึ่งที่ผมกังวลอยู่เหมือนกัน

 

“ ก็น่าจะใช้ได้ผลดีจริงแหละนะครับ…….แต่คาดว่าสไลม์ปุกปุยมันจะบุกกันมาครั้งถัดไปในอีกไม่ถึงสามสัปดาห์เอง จะสามารถยกระดับอานุภาพและระยะการทำงานของเวทมนตร์ได้ในระยะเวลาสั้นๆแค่นี้จริงๆน่ะเหรอครับ? ”

 

สิ่งที่แล่นเข้ามาในหัว ก็คือเวททิ้งระเบิดอันมีอานุภาพแสนทรงพลังของคุณแคทลียา

เพราะการสั่งสอนของเหล่าอาจารย์ ผมก็เลยสามารถเติบโตได้ด้วยความเร็วระดับไม่อยากจะเชื่อเลย แต่ถ้าจะให้ไล่ตามทำได้แบบนั้นในระยะเวลาสั้นๆนี่ผมก็มีกังวลอยู่เหมือนกัน

 

“ หากมีอำนาจของซินเดอเรลล่าเกรย์กับการฝึกสอนของฉันช่วยหนุนหลังอยู่ด้วยกันก็อาจจะพอเป็นไปได้อยู่หรอกนะ แต่เอาเถอะ……. ไม่หรอก ไม่ได้จะบีบให้เธอฝึกจนใช้เวทมนตร์ที่มีอานุภาพรุนแรงระดับฆ่าล้างกำจัดพวกมันได้ทั้งบางในทีเดียวเลยแต่อย่างใด ขอแค่ได้สกิลเวทมนตร์ระดับกลางมาก็เพียงพอจะใช้เปลี่ยนสถานการณ์ได้อย่างยิ่งใหญ่แล้วล่ะนะ ”

 

คุณลูด์มิร่ากล่าวอย่างลื่นไหลราวกับเป็นการปัดเป่าความกังวลของผม

 

“ หากเป็นอานุภาพของเวทระดับกลางแล้วละก็ สามารถใช้ลดทอนจำนวนของสไลม์ที่บีบอัดเข้ามาได้พอสมควรเลยเชียวล่ะ ใช้สกิลระยะประชิดจัดการตัวที่หลุดรอดมาได้ และในระหว่างนั้นก็ทำการกล่าวคำร่ายเตรียมเวทระดับกลางนัดถัดไปร่วมไปด้วย——-เพียงเธอทำแค่นี้ซ้ำไปเรื่อยๆก็จะกำจัดได้จำนวนมากพอดูแล้ว หนำซ้ำยังจะช่วยลดหลั่นภาระของปาร์ตี้โดยรวมได้อย่างยิ่งใหญ่เลยอีกต่างหาก ลองคิดดูสิ กลุ่มปาร์ตี้ที่ใช้งานกลยุทธ์เช่นนี้ในการแข่งปราบปราม ก็สามารถสร้างผลงานได้อย่างเสถียรเลยไม่ใช่หรือ? ”

“ จะว่าไปแล้ว……. ”

 

ปาร์ตี้ของคุณแคทลียาก็ใช้งานกลยุทธ์นั้นเพื่อเก็บตัวเลขได้อย่างไร้ซึ่งบาดแผลเลยจริงๆนั่นแหละ

เพราะถูกเวททิ้งระเบิดอันรุนแรงกับเหล่าอาชีพระยะประชิดที่แข็งแกร่งดึงดูดความสนใจไปก็เลยไม่ทันสังเกต แต่ใจกลางของทีมเวิร์คนั่นคือเวทระดับกลางที่ถูกใช้ในตอนตีโต้ใส่ศัตรูนั่นต่างหาก

คุณลูด์มิร่ากล่าวต่อกับผมที่เห็นพ้องตรงกัน

 

“ ครอส เธอน่ะคือตัวตนแสนหายากที่สามารถใช้สกิลของอาชีพระยะประชิดและอาชีพเวทมนตร์ได้ทั้งสองอย่าง หากเธอเรียนเวทมนตร์ที่มีอานุภาพสูงส่งเสียละก็ สเกลของกลยุทธ์ที่เธอสามารถใช้งานได้ก็จะยิ่งกว้างไกลออกไปเฉกเช่นนี้เลยเชียว แล้วก็ใช่ว่าจะใช้ได้กับแค่มอนสเตอร์ที่อยู่รวมกันเป็นฝูงเช่นสไลม์ปุกปุยเพียงอย่างเดียว อำนาจนี้จะช่วยให้เธอรับมือกับศัตรูมากหน้าหลายตาได้อย่างแน่นอนเลย ว่ายังไงล่ะ ไม่ลองคิดจะใช้โอกาสนี้ฝึกปรือตนเองขึ้นมาเป็นนักดาบเวทมนตร์ของแท้เสียหน่อยหรือ ”

“ ……..ฮึก! นะ นักดาบเวทมนตร์ของแท้……..!? ”

 

นักดาบเวทมนตร์ที่ว่านั่นไม่ใช่ชื่อ <<คลาส>> แต่เป็นชื่อเรียกสไตล์การต่อสู้ประเภทหนึ่งน่ะ

เหล่าผู้คนอาชีพเวทมนตร์ที่ไม่ได้พึ่งพาสกิล แต่ใช้ทักษะศิลปะการต่อสู้เพียวๆจนกวัดแกว่งใช้วิชาดาบหรือคทาได้ด้วยตนเองอย่างชำนาญ เพื่อไว้ใช้รับมือในกรณีที่ถูกอาชีพระยะประชิดเข้าถึงตัวนี่จะถูกเรียกกันว่าแบบนั้น

แต่ตัวผมนั้นสามารถเรียนสกิลระยะประชิดและสกิลเวทมนตร์ได้ทั้งคู่เลย ฉะนั้นจึงสามารถเป็น <<นักดาบเวทมนตร์>> ของแท้ได้…..นั่นล่ะคือสิ่งที่คุณลูด์มิร่ากำลังบอกกับผมอยู่

ข้อเสนออันเปี่ยมล้นไปด้วยความโรแมนติกนั่น ผนวกเข้ากับคำพูดของคุณลูด์มิร่าที่ว่าจะสามารถช่วยลดหลั่นภาระของปาร์ตี้โดยรวมได้—-แค่นี้ก็เพียงพอจะทำให้ผมเกือบๆจะตกลงตัดสินใจเด็ดขาดได้แล้ว

ว่าอยากจะฝึกยกระดับสกิลเวทมนตร์น่ะ

 

“ เฮ้ย หนอยแน่นังลูด์มิร่า! โผล่เข้ามาขวางคนอื่นเค้าแล้ว ยังจะโม้เหม็นลวงโลกหลอกครอสอีกได้ไง!? ”

 

คุณลีโอเน่ที่เอาแต่จ้องเขม่นอยู่กับคุณเทโลเมียร์มาตลอดจนถึงเมื่อกี้พลันสังเกตพวกเรา ก่อนจะพุ่งดิ่งเข้ามาใส่คุณลูด์มิร่าอย่างแตกตื่นลนลาน แต่คุณลูด์มิร่าก็ตอบกลับอย่างเยือกเย็น

 

“ ลีโอเน่ ในตอนที่สอนสกิลเคาน์เตอร์ให้กับครอส แกยังพล่ามถึงความสำคัญยิ่งของอานุภาพอยู่เลยไม่ใช่หรือ? ว่าหากตีอีกฝั่งไม่เข้าก็จะไม่มีทางชนะได้เป็นอันขาด ฉะนั้นพลังโจมตีจึงเป็นสิ่งสำคัญน่ะ ”

“ อ๊าา…..? จู่ๆอะไรของหล่อนน่ะ แล้วมันทำไมเรอะ ”

“ กล่าวคือจุดที่กลัวนั่นมันกลายเป็นความจริงขึ้นมาโดยแท้เลยยังไงล่ะ ในการต่อสู้กับร็อกลิซาร์ด วอริเออร์เมื่อคราวก่อนนั่นน่ะนะ แม้จะโชคช่วยมี <<อีจิสช็อต>> อันเป็นสกิลสุดผ่าเหล่าปรากฎขึ้นมาทำให้เอาตัวรอดมาได้ แต่มันก็เป็นสกิลเสี่ยงดวงที่มีโอกาสล้มเหลวสูงมากดังที่เราได้พิสูจน์ไปในวันก่อนนั่นล่ะ ฉะนั้นหากคำนึงถึงความปลอดภัยของครอสต่อจากนี้ไปแล้ว การเร่งให้เรียนสกิลเวทมนตร์ซึ่งสามารถสำแดงอานุภาพอย่างสูงส่งได้อย่างเสถียรนั่นต่างหากไม่ใช่หรือจึงจะถือเป็นตัวเลือกที่ได้ประสิทธิภาพดียิ่งมากที่สุดแล้วน่ะ? ต่อให้ไม่คิดถึงการแข่งปราบปรามก็ตามที ”

“ ห้ะ นัง…..กรอดดด! ”

“ ดูเหมือนว่าจะไม่มีข้อโต้แย้งสินะ? ถ้าเช่นนั้นแล้ว ช่วงนี้ก็จะขอทำการฝึกโดยเน้นความสำคัญไปยังการเรียนสกิลเวทมนตร์ซักระยะก็แล้วกัน ”

“ เช้~ ตาของฉันโดนผลัดไปอีกแล้วเหรอเนี่ยย เอ้อแต่ต่อให้เป็นการฝึกแบบไหนแต่ฉันก็อยู่เคียงข้างครอสคุงได้เสมอๆเลยนี่น้าา วันนี้จะยอมอดทนให้ก็แล้วกันจ้าา ”

 

พอถูกคุณลูด์มิร่าทำการปิดประเด็นถกเถียงลงโดยฝั่งเดียวแล้ว คุณเทโลเมียร์ก็ได้แต่ยักไหล่

และแล้วคุณลูด์มิร่าที่ดูอารมณ์ดีมากยิ่งกว่าเดิมก็พลัน

 

“ ถ้าเช่นนั้นแล้วลีโอเน่ ฉันน่ะจะยุ่งอยู่กับการฝึกวิชาให้ครอส ฉะนั้นขอมอบหน้าที่เตรียมข้าวปลาอาหารและเก็บวัตถุดิบยาสูตรลับให้กับแกก็แล้วกัน ”

“ ยิ้มใหญ่เลยเชียวนะหล่อนนังผู้หญิงสารเลว……! โธ่เว้ย แต่ก็ช่วยไม่ได้ ถ้าทำแบบนั้นซะจะเป็นประโยชน์ต่อครอสในคราวนี้ที่สุดจริงๆนี่นะ…… ”

 

คุณลีโอเน่พลันเงียบกริบไปราวกับเห็นพ้องตรงกันกับคำพูดของคุณลูด์มิร่า

แต่สีหน้านั้นกลับดูเห็นได้ชัดเจนเลยว่าห่อเหี่ยวหมดกำลังใจ ทำเอาผมรู้สึกผิดขึ้นมาชอบกล ก็คุณลีโอเน่เค้าเป็นคนที่แนะนำให้คำปรึกษาคนแรกสุดเลยนี่นา

ฉะนั้นผมจึงเผลอตัวหลุดออกมาว่า

 

“ ขะ คือว่านะครับคุณลีโอเน่ ”

“ อื๋อ……….? ”

“ คือว่าผม ไม่ได้รังเกียจการฝึกวิชาของคุณลีโอเน่หรอกนะครับ ให้ว่าแล้วคือชอบมากๆเลยเชียวแหละ…….แต่ว่าตอนนี้ เอ่อ….ผมจะตั้งตารอ อาหารที่ดราโกเนียอย่างคุณลีโอเน่จะช่วยปรุงให้กินนะครับ! ”

 

ไม่รู้หรอกว่าที่พูดออกไปมันฟังได้ศัพท์รึเปล่า แต่ก็บ่งบอกความรู้สึกในตอนนี้ออกไปสุดกำลัง

 

“ ………ฮึก!? ชะ ชอบมากๆ……..? ”

 

เท่านั้นแหละคุณลีโอเน่พลันผมตั้งขึ้นมาราวกับตกตะลึง ก่อนที่จะ

 

“ โอะ โอ้ว…..งั้นก็ตั้งตารอไว้ได้เลยนะครอส ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะทำอาหารของเหล่าดราโกเนียที่มีแต่เนื้อเต็มพูนจานไปหมดให้แกได้ลิ้มรสทุกวันเลย! ”

“ แกอย่าได้คิดเชียว ฉันผู้นี้เป็นไฮเอลฟ์นะ ทำเนื้อน้อยๆก็พอแล้ว ”

 

ถึงคุณลูด์มิร่าจะเอ่ยเสียงต่ำทุ้มออกมาว่าอย่างนั้น แต่ก็เหมือนว่าคุณลีโอเน่เค้าจะไม่ได้ฟังเลยนะนั่น

 

“ อ๊าาามันอะไรกันเนี่ย……ถ้าโดนพูดใส่ด้วยสีหน้าท่าทางกับคำพูดที่ดูเป็นห่วงเป็นใยสุดขีดแบบนั้น ก็มามัวหงอยอยู่ไม่ได้กันพอดีเซ่……..! ”

 

ว่าแล้วคุณลีโอเน่ที่แก้มแดงแจ๋ (ต้องเป็นเพราะเค้ากระฉับกระเฉงมีไฟสุดๆแน่เลย) ไปหมด ก็พลันพุ่งทะยานออกไปจากคฤหาสน์ด้วยพลังกายอันสูงสุดกู่

ถึงจะรู้สึกเหมือนท่าทีเค้าดูแปลกๆไปนิดนึงก็เถอะนะ…….แต่เห็นว่าคุณลีโอเน่กลับมาร่าเริงได้ดังเดิมแล้วแบบนี้ ผมก็ค่อยโล่งอกไปที

เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย

เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย

เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย
Status: Ongoing
อ่านนิยายเหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ยกาลครั้งนึงแต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าเมื่อไหร่ ได้มีวีรสตรี 3 คนที่ถูกกล่าวขานล่ำลือกันว่าเป็นตัวตนผู้แข็งแกร่งทรงพลังมากที่สุดในโลกอยู่ครับ ความแข็งแกร่งของพวกเธอนั้นเรียกได้ว่าเป็นระดับเหนือมนุษย์เลยเชียว คนนึงสามารถต่อยขุนเขาให้แหลกกระจุยได้ด้วยหมัดเปล่า คนนึงสามารถเป่าร่างของพลทหารนับหมื่นนายให้ลอยปลิวหายไปได้ด้วยการโจมตีจากเวทมนตร์เพียงครั้งเดียว ส่วนอีกคนก็เป็นหญิงพิลึกพิลั่นที่เอาเวทฟื้นฟูกับเวทสนับสนุนมาใช้ฆ่าคนได้ เลยกลายเป็นตัวตนที่ถูกหวาดกลัวไปตามระเบียบ แค่เพียงคนเดียวก็โหดพอจะทำให้ประเทศหนึ่งถึงการล่มสลายได้อย่างง่ายดายแล้ว ยิ่งถ้าเหล่าวีรสตรี 3 คนนั้นมาสุมหัวรวมตัวไปไหนมาไหนด้วยกันแล้วนี่คงอาจต้องเรียกว่าเป็นภัยพิบัติเดินได้ การหวนคืนชีพของเทพมาร หรือในบางพื้นที่ก็อาจจะระบุตัวตนของพวกเธอเป็นเทพผู้ชั่วร้ายกันเลยก็เป็นได้…..หากอาศัยใช้งานความแข็งแกร่งนั่นซะอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอะไรต่อมิอะไรก็คงบันดาลให้เป็นดั่งที่ใจพวกเธอต้องการได้เกือบทั้งหมดเลยกระมัง แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีสิ่งที่แม้แต่สามคนนั้นเอง ก็ยังไม่อาจได้มาครอบครองอยู่ครับ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset