แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 10 แรงมาก็แรงกลับ !

เซี่ยเจิ้งหัวมองเซี่ยชิงฉวนที่กำลังใจลอยอย่างไม่พอใจ ก่อนจะหันกลับไปบอกเซี่ยฉิงกง

 

เซี่ยฉิงกงเงยหน้าขึ้น เธอกำลังตั้งใจรับฟัง ชั่วขณะนั้นเธอพลันรู้สึกได้ว่าชายกระโปรงของเธอถูกเหยียบ จากนั้นผ้าคาดเอวของเธอก็คลายออก และแล้วกระโปรงท่อนล่างทั้งหมดก็หลุดร่วงลงมา

 

ท่อนขาของเธอเย็นเฉียบ สมองของเซี่ยฉิงกงก็พลันว่างเปล่า

 

“เพี้ยะ !”

 

ชั่วขณะนั้นเสียงตบก็ดังขึ้นฉาดใหญ่ เซี่ยชิงฉวนปิดปากตนเองเพื่อกลั้นเสียงอุทาน ส่วนเซี่ยเจิ้งหัวเองก็ตกใจเช่นกัน

 

เซี่ยฉิงกงคว้ากระโปรงที่ร่วงลงบนพื้นกลับขึ้นมา จากนั้นก็รีบผูกไว้รอบเอว เธอจับกระโปรงแน่นด้วยมือทั้งสองข้าง พลางจ้องมองมู่เฉินฮ่าวอย่างดุร้าย

 

ปรากฏรอยนิ้วแดง ๆ บนใบหน้าของมู่เฉินฮ่าว ทว่าใบหน้าที่บอบบางของเขากลับไม่ได้ลดความสง่างาม และสูงส่งลงเลย เพียงแต่ใบหน้านั้นเจือความรู้สึกอับอายอยู่ด้วย

 

ไม่คิดเลยว่า แม่สาวน้อยจะใจกล้าถึงเพียงนี้ !

 

“หน้าด้าน !”

 

ครั้นหวนคิดถึงทุกสิ่งที่เขาทำกับเธอเมื่อคืนนี้ เซี่ยฉิงกงก็ยิ่งโกรธมากขึ้นจนแทบควบคุมตนเองไม่อยู่

 

ไม่คิดเลยว่า วันนี้เขายังกล้ามาทำตัวอันธพาลที่นี่อีก ทุเรศสิ้นดี !

 

“พาคุณหนูใหญ่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า”

 

ทันทีที่เซี่ยเจิ้งหัวรู้สึกตัว เขาก็รีบแก้ไขสถานการณ์โดยด่วน ส่วนเซี่ยชิงฉวน ก็แสร้งทำเป็นตกใจ เธอรีบเดินไปกอดแขนเซี่ยฉิงกง

 

เซี่ยฉิงกงผลักเซี่ยชิงฉวนออก เธอจ้องมองเซี่ยชิงฉวนด้วยสีหน้าบึ้งตึงแววตาของเธอที่คมกริบ

 

“น้องชิงฉวน ที่เธอมาช่วยพี่แต่งตัวก็เพื่อสิ่งนี้ใช่มั้ย ?”

 

เซี่ยชิงฉวนถูกผลัก เธอเซไปชนกับเสาหิน แขนของเธอกระแทกเสาจนเป็นแผล

 

“ชิงฉวน … ฉิงกง … ”

 

เซี่ยเจิ้งหัว ไม่รู้จะตวาดใครดี

 

“คุณพ่อ !”

 

เซี่ยชิงฉวนกรีดร้อง พลางกุมแขนที่มีเลือดออก เพื่อแสดงให้เซี่ยเจิ้งหัวดู  เธอหันไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยดวงตาแดงก่ำราวกับกำลังเสียใจ

 

“ที่หนูไปช่วยพี่สาวแต่งตัวก็เพราะเจตนาดีนะคะ”

 

“แม่คนจิตใจดี.. !”

 

ครั้นเห็นความทุกข์ในแววตาของเซี่ยเจิ้งหัวที่กำลังโทษตนเองอยู่นั้น เซี่ยฉิงกงก็ยิ่งแน่ใจถึงสถานะของเธอในตระกูลเซี่ย

 

เซี่ยเจิ้งหัวอาจจะปรานีเธอมาก นั่นก็เพียงเพราะเขารู้สึกผิดต่อแม่ของเธอ ทว่าตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา เซี่ยชิงฉวนต่างหากที่อยู่เคียงข้างเขา นั่นทำให้ในใจของเขา เซี่ยชิงฉวนสำคัญกว่าเธอมาก !

 

“ฉิงกง..น้องไปช่วยลูกด้วยเจตนาดี จะทำสิ่งนี้ได้อย่างไร !”

 

เซี่ยเจิ้งหัวกล่าวด้วยท่าทางจริงจัง

 

“ใช่ ใจดี ใจดีจนช่วยตัดผ้าคาดเอวของหนูด้วยใช่ไหม ?”

 

เซี่ยฉิงกงเลิกกระโปรงของเธอขึ้น เพื่อให้เซี่ยเจิ้งหัวได้เห็นเชือกที่ด้านหลังของกระโปรงที่ขาดจากกันอย่างประณีต มีเพียงขอบด้านบนเท่านั้นที่ยังขรุขระอยู่

 

เห็นได้ชัดว่ามีคนจงใจตัดผ้าคาดเอวของเธอ กระทั่งเหลือเพียงเส้นเล็ก ๆ ดังนั้น หากมีคนเหยียบชายกระโปรง หรือใช้แรงดึงเพียงเล็กน้อย ผ้าคาดเอวนี้ก็จะขาดจากกันทันที

 

มู่เฉินฮ่าวขยับสายตาออกจากผ้าคาดเอว พลางมองเรียวขาขาวภายใต้กระโปรง ขาของเธอช่างกลมกลึงและเรียวงาม กระทั่งเขาไม่สามารถละสายตาได้

 

เซี่ยเจิ้งหัวไม่ได้โง่ พลันสายตาที่มองเซี่ยชิงฉวนก็เปลี่ยนไป

 

“ไม่ใช่หนูนะ !”

 

ใบหน้าของเซี่ยชิงฉวนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เธอยกมือขึ้นโบกปฏิเสธเร่า ๆ ด้วยอาการตื่นตระหนก

 

“ไม่ใช่เธอแล้วจะเป็นใคร เมื่อเช้าฉันใส่เสื้อผ้าอยู่ในห้อง แล้วเธอก็เป็นคนมัดผ้าคาดเอวนี่ให้ฉัน”

 

“ฉันแค่อยากช่วยพี่ แต่ … “

 

“ชิงฉวน !”

 

เซี่ยเจิ้งหัวเองก็โกรธแล้วเช่นกัน แต่เนื่องจากเห็นแก่หน้าแขก เขาจึงต้องลดเสียงลง

 

“แกกล้าทำแบบนี้ได้ไง !”

 

“ช่างเถอะ”

 

น้ำเสียงของเซี่ยฉิงกงแผ่วเบา เธอหันไปมองสาวใช้ที่กำลังเดินมาหา และพาเธอกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เธอยังคงเดินลากกระโปรงของเธอไปอย่างนั้น

 

“ฉันไม่ถือสาอะไรแล้ว !”

 

“ชิงฉวน พี่สาวไม่ถือสาแล้ว ยังไม่ขอโทษพี่สาวอีกเหรอ ?”

 

“หนูไม่ได้ทำ ทำไมต้องขอโทษ ?”

 

“ฉันไม่ถือโทษเธอ”

 

เซี่ยฉิงกงกล่าวเหมือนคนใจกว้าง แต่หลังจากก้าวไปได้ไม่กี่ก้าว เธอก็พูดต่อว่า

 

“ฉันรู้ว่าน้องสาวไม่ชอบฉัน แต่ก็ไม่ควรทำให้ตระกูลเซี่ยของเราต้องเสียหน้าต่อหน้าแขก เมื่อครู่ฉันเองก็ทำเรื่องโง่ ๆ ลงไปเช่นกัน… ”

 

ครั้นเซี่ยเจิ้งหัวได้ยินเช่นนั้น เขาก็เข้าใจความหมายที่เซี่ยชิงฉวนพูดออกมา เขาเริ่มหดหู่อีกครั้ง

 

ใช่แล้ว สมาชิกตระกูลเซี่ยจะมาเสียหน้าต่อหน้าแขกได้อย่างไร ?

 

***จบตอน แรงมาก็แรงกลับ !***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset