แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 100 ชะตากรรมของคนทำร้ายผู้พัน

“โฮะ ! นี่มันสุนัขรับใช้ของเซี่ยฉิงกงไม่ใช่หรือ ? มาลองเสื้อผ้าที่นี่ได้ไงเนี่ย ? มีปัญญาจ่ายเหรอ ? นี่คงแค่มาลองเล่น ๆ ใช่มั้ย ? ว่าแต่เพื่อนรัก เธออยากได้ชุดนี้ไหมล่ะ ฉันจะซื้อให้เอง ?”

 

“ฉันต้องการชุดที่แม่นี่สวม บอกให้เธอถอดมันเลย”

 

เสิ่นหรงเจียยกนิ้วขึ้นชี้ พลางพูดแกมบังคับ

 

หมั่นโถวมองหน้าเสิ่นหรงเจีย เธอไม่รู้จริง ๆ ว่าผู้หญิงคนนี้กำลังพยายามทำอะไร

 

หมั่นโถวหันไปถามพนักงานแนะนำสินค้าสาวว่า

 

“คนที่มากับฉันตอนนี้อยู่ที่ไหน ?”

 

พนักงานแนะนำสินค้าสาวทำเหมือนไม่อยากจะตอบ หากแต่เมื่อเห็นสายตาดุ ๆ ของหมั่นโถว เธอก็จำต้องตอบเสียงสั่น ๆ

 

“เธอบอกว่าจะไปห้องน้ำ”

 

มาด้วยกันงั้นรึ ?

 

ฉีเหยียนเอ๋อ และเสิ่นหรงเจียหันมองหน้ากัน ทั้งคู่ต่างก็รู้สึกหวาดหวั่น

 

ตอนที่เห็นหมั่นโถวก้าวออกมาจากห้องลองเสื้อ ทั้งคู่โกรธมากกระทั่งลืมคิดไปว่า หมั่นโถวจะโผล่มาที่นี่คนเดียวได้ไง ?

 

ก่อนที่พวกเธอจะทันได้พูดอะไรออกมา ก็มีเสียงเยาะเย้ยดังขึ้นจากข้างหลัง

 

“คุณหนูเสิ่น ดูเหมือนว่าพวกเราจะเห็นเดรสชุดนี้ก่อนนะ ใช่มั้ย ?”

 

เซี่ยฉิงกงเพิ่งเสร็จจากการเข้าห้องน้ำ เธอกำลังจะกลับเข้ามา ก็บังเอิญได้เห็นกระโปรงสีชมพูวับ ๆ แวม ๆ ของฉีเหยียนเอ๋อจากระยะไกล ทั้งผู้หญิงที่อยู่ข้างกายฉีเหยียนเอ๋อก็ดูเหมือนจะเป็นเสิ่นหรงเจีย หากแต่เธอก็ไม่คาดคิดว่าจะเป็นเช่นนั้นจริง

 

ทันทีที่เธอก้าวเข้ามาในร้าน เธอก็ได้ยินเสียงเสิ่นหรงเจียตวาดแว้ดราวกับไก่งวงช่วงติดสัด

 

“แล้วไง ? เสื้อชุดนี้ฉันจองไว้แล้ว แต่เพิ่งตัดสินใจมารับวันนี้ !”

 

เสิ่นหรงเจียเป็นลูกค้าประจำของร้าน Zzalet ทั้งยังเป็นลูกค้าวีไอพีระดับเพชรด้วย แล้วเซี่ยฉิงกงคนนี้คือใคร ?

 

ก็แค่หนูตกถังข้าวสาร

 

ได้ยินมาว่าตระกูลเซี่ยเพิ่งหาตัวเธอพบ และตามกลับมาได้เรื่องนี้เพิ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาไม่ถึงครึ่งเดือน ยังไม่มีใครรู้จักเธอ แม้ว่าตอนนี้เธอจะมีเงินติดตัวมากมาย กระทั่งสามารถซื้อเสื้อผ้าที่นี่ได้ ก็แล้วยังไงล่ะ ?

 

ไม่ว่าเซี่ยฉิงกงจะชอบชุดไหน ? เสิ่นหรงเจียก็จะกวาดซื้อให้เกลี้ยง !

 

และนี่คือห้างสรรพสินค้า เสิ่นหรงเจียไม่เชื่อว่าเซี่ยฉิงกงจะกล้าให้หมั่นโถวตบเธออีก ?

 

เซี่ยฉิงกงหันไปมองหมั่นโถว หมั่นโถวสวมใส่เดรสสั้นสีขาวชุดนี้ได้อย่างพอดี เดรสชุดนี้เข้ากับหมั่นโถวจริง ๆ มันดูดีมากเมื่ออยู่บนร่างของหมั่นโถว เซี่ยฉิงกงจึงยกมือขึ้นโบก

 

“เอาชุดนี้ไปใส่ถุงสิ”

 

“นี่ … คุณลูกค้า โปรดถอดชุดนี้เถอะ คุณหนูเสิ่นต้องการเดรสชุดนี้”

 

พนักงานแนะนำสินค้าไม่คาดคิดว่าเซี่ยฉิงกงจะตัดสินใจซื้อเดรสชุดนี้อย่างรวดเร็ว หากแต่เป็นเพราะเสิ่นหรงเจียเธอจึงไม่ลังเลที่จะพูดเช่นนั้นออกไป

 

เซี่ยฉิงกงรู้สึกสนุก ร้านนี้น่าสนใจดี ร้านก็ออกใหญ่โตแต่กลับดูถูกลูกค้างั้นรึ ?

 

“เซี่ยฉิงกงไม่ได้ยินรึไง ? เธอคิดว่าเธอเป็นใครถึงได้เที่ยวพาคนใช้ออกมาซื้อเสื้อผ้า ?”

 

ฉีเหยียนเอ๋อยิ้มเยาะ นัยน์ตาของเธอจับจ้องมองเซี่ยฉิงกงด้วยความเกลียดชัง

 

เซี่ยฉิงกงขมวดคิ้วเล็กน้อย พร้อมกับพูดเบา ๆ ว่า

 

“ฉันจะพูดอีกครั้ง ห่อชุดนี้ให้ฉัน”

 

พนักงานแนะนำสินค้ายังคงยืนนิ่งด้วยท่าทางงุ่มง่ามไม่รู้ควรทำตัวอย่างไร

 

“ห่อชุดนี้ให้ฉัน แล้วฉันจะจ่ายให้ในราคาสองเท่า”

 

เซี่ยฉิงกงหงุดหงิดเล็ก ๆ ผู้หญิงคนนี้ป่วยทางจิตรึไงนะ ? แม้แต่หมั่นโถวเองก็เข้าใจเช่นนั้น หลังจากที่เมื่อคืนนี้หมั่นโถวตบเธออย่างหนัก ส่งผลให้ใบหน้าของเธอยังคงบวมเป่ง และแดงช้ำ

 

คาดว่าในตอนนี้แม้แต่จะหายใจก็ยังลำบาก ! ทว่าเธอกลับไม่เข็ดสิน่า !

 

“คุณหนูเสิ่น ดูเหมือนว่าคุณจะลืมรสชาติการถูกตบเมื่อวานนี้ไปแล้ว หรือคุณต้องการลิ้มรสอีกครั้ง ?”

 

คำพูดของเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยการคุกคาม

 

เสิ่นหรงเจียตื่นตระหนก เธอคว้ามือฉีเหยียนเอ๋อโดยไม่รู้ตัว

 

“เซี่ยฉิงกง เธอรู้หรือไม่ว่า ผลลัพท์ของการทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นเช่นไร ?”

 

ฉีเหยียนเอ๋อตวาด พลางกุมมือเสิ่นหรงเจียเป็นการปลอบไม่ให้เสิ่นหรงเจียหวาดกลัว

 

ก่อนที่เซี่ยฉิงกงจะพูดอะไร หมั่นโถวก็เหลือบมองเสิ่นหรงเจีย และฉีเหยียนเอ๋ออย่างเย็นชา พลางกล่าวว่า

 

“แล้วคุณหนูเสิ่นรู้หรือไม่ว่า คนที่มียศแค่พันตรีแล้วพูดจาไม่ดีกับนายทหารยศพันเอก ทั้งพยายามทำร้ายทุบตีผู้พันอีกควรมีชะตากรรมเช่นไร ?”

 

***จบตอน ชะตากรรมของคนทำร้ายผู้พัน***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset