แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 105 ศาลเตี้ย

กลางห้องกั้นด้วยรั้วเหล็ก

 

ฉีเหยียนเอ๋อ และเสิ่นหรงเจียกำลังนั่งอยู่บนโต๊ะสอบสวนหลังรั้วเหล็ก มีรีโมทคอนโทรลวางอยู่บนโต๊ะ ทั้งสองมองหมั่นโถวด้วยสายตาดูถูก นัยน์ตาของพวกเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกเหยียดหยามคนที่ต่ำต้อยกว่า

 

เดิมทีรั้วเหล็กนี้ออกแบบมา เพื่อป้องกันนักโทษ หากหลุดจากกุญแจมือ จะได้ไม่สามารถทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้

 

หมั่นโถวเอียงคอมองเสิ่นหรงเจีย พลางกล่าวว่า

 

“คุณนี่รนหาที่ตายจริง ๆ”

 

ครั้นเห็นว่า ขนาดถูกจับมัดไว้กับเก้าอี้ช็อตไฟฟ้า หมั่นโถวก็ยังไม่หวาดหวั่น เสิ่นหรงเจียก็รู้สึกโกรธมาก

 

“เธอคิดว่าการที่เธอปากแข็งจะมีประโยชน์งั้นหรือ ? ฉันจะให้เธอได้ลิ้มรสความรู้สึกที่ว่าตายเสียดีกว่าอยู่สักหน่อย”

 

รอยยิ้มปรากฏที่มุมปากของหมั่นโถว เธอเอียงศีรษะมองคนทั้งสองที่อยู่เบื้องหน้า

 

“ดูเหมือนว่ารองผู้กำกับเสิ่นคิดจะใช้ศาลเตี้ยกับฉันใช่มั้ย ?”

 

“อย่ามาเสแสร้งหน่อยเลย คิดว่าเซี่ยฉิงกงจะสามารถช่วยเธอได้งั้นรึ ? ฉันบอกเธอตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้วว่า เธอทำร้ายรองผู้กำกับสำนักสันติบาล ทั้งยังมาสร้างปัญหาที่นี่ ขัดคำสั่ง และเจตนาทำร้ายผู้อื่น ลองคิดดูสิ เธอจะต้องติดคุกนานแค่ไหน ?”

 

ฉีเหยียนเอ๋อยังไม่เข้าใจท่าทีที่หมั่นโถวแสดงออก เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้เป็นแค่คนรับใช้ ทำไมเธอถึง…?

 

“รองผู้กำกับ คุณหนูฉี อย่าทำเรื่องผิด ๆ อีกต่อไปเลย”

 

หมั่นโถวกล่าวต่อ

 

“นอกจากนี้รองผู้กำกับเสิ่น ดูเหมือนคุณจะลืมไปแล้วว่า เมื่อวานนี้คุณต่างหากที่เป็นคนเริ่ม คุณเป็นฝ่ายที่จะตบฉันก่อน”

 

“ฮึ ฮึ ฉันบอกว่าเธอลงมือก่อน เธอก็ต้องเป็นคนลงมือก่อนสิ ไม่เข้าใจหรือไง ?”

 

“ไม่เป็นไร หากคุณจำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพียงจำให้ได้ว่าเมื่อวานนี้เป็นใครกันที่คุกเข่าร้องครวญครางอยู่กับพื้น และเสียงร้องนั่นก็โหยหวนมาก ๆ เลย… “

 

รอยยิ้มเย้ยหยันพลันปรากฏขึ้นที่มุมปากของหมั่นโถว เธอเหลือบมองเสิ่นหรงเจีย ราวกับกำลังดูเรื่องตลก

 

“นังสารเลว ! ฉันอยู่ในฐานะอะไร ? แล้วแกอยู่ในฐานะอะไร ต่อให้ฉันตบแก แกก็ไม่มีสิทธิ์ตอบโต้ใช่หรือไม่ ?”

 

ครั้นเสิ่นหรงเจียพูดออกไป เธอก็รู้สึกโมโหมาก เธอหยิบกุญแจรั้วเหล็กขึ้นมาจากโต๊ะ เดินไปเปิดประตู ก้าวเข้าไปยืนข้างกายหมั่นโถว จากนั้นก็เงื้อมือขึ้นตบหน้าหมั่นโถวทันที

 

ลูกตบของเสิ่นหรงเจียครั้งนี้ใช้พละกำลังอย่างมาก หมั่นโถวเองก็ไม่ได้หลบ ใบหน้าที่บอบบาง และนุ่มนวลของหมั่นโถวพลันบวมแดงขึ้นทันที เสิ่นหรงเจียบีบคางของหมั่นโถว

 

นิ้วของเสิ่นหรงเจียเริ่มจิกลงบนใบหน้าของหมั่นโถว เล็บของเธอแทงลึกลงไปในเนื้อแก้มของหมั่นโถว

 

“ทำไมเธอไม่หลบล่ะ ? ปากเก่งนักไม่ใช่เหรอ ? ทำไมนายของเธอไม่มาช่วยเธอล่ะ ?”

 

ใบหน้าของเสิ่นหรงเจียบิดเบี้ยว ขณะที่ตะโกนใส่หน้าหมั่นโถว

 

หมั่นโถวหลับตา เธอนึกอย่างเงียบ ๆ ว่าฉันจะทนไม่ไหวแล้วนะ พูดเฉย ๆ ก็ได้ ทำไมถึงต้องพ่นน้ำลายใส่หน้าฉันด้วยเนี่ย ?

 

ครั้นเห็นหมั่นโถวหลับตาลง เสิ่นหรงเจียก็คิดไปว่าหมั่นโถวกลัว เธอเลยจิกแรงขึ้น แน่นขึ้น เล็บของเธอฝังลึกลงในเนื้อแก้มของหมั่นโถว

 

“ทำไม เริ่มรู้สึกกลัวแล้วเหรอ ?”

 

หมั่นโถวพูดอย่างโกรธ ๆ ว่า

 

“พอทีเถอะ อยากพูดอะไรก็พูด แต่เลิกหยุดพ่นน้ำลายใส่หน้าของฉันทีได้มั้ย ? มันน่าขยะแขยง”

 

ใบหน้าของเสิ่นหรงเจียเปลี่ยนไป เธอเงื้อมือขึ้นหมายจะตบหน้าหมั่นโถวอีกครั้ง

 

น่าเสียดายที่ไม่ได้ยินเสียง ‘เพี้ยะ’ แต่กลับกลายเป็นเสียงคนกรีดร้องแทน

 

“โอ๊ย … นี่แกกล้ากัดฉันเหรอ”

 

เสิ่นหรงเจียกำมือซ้ายของตนเองแน่น ความเจ็บปวดบริเวณนิ้วทำให้เธอหน้าซีด เธอขมวดคิ้วแน่น

 

เมื่อครู่นี้เธออยากจะตบหน้าหมั่นโถวอีกครั้ง หากแต่เธอไม่คิดว่า หมั่นโถวจะอ้าปากกัดตรงตำแหน่งระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ ซึ่งตำแหน่งนี้เชื่อมต่อกับหัวใจ ความเจ็บปวดนั้นเกินที่จะบรรยายจริง ๆ

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset