แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 107 ยากที่จะยอมรับ

สิ่งที่เขียนอยู่ในรายงานเหล่านั้นทำให้เสิ่นหรงเจียรู้สึกตกใจ ทั้งไม่อยากจะยอมรับ

 

จะเป็นไปได้อย่างไร ? ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่คนรับใช้ของตระกูลมู่ หรือเป็นเพียงสุนัขรับใช้ข้างกายเซี่ยฉิงกงหรอกหรือ ?

 

คนรับใช้จะมียศพันเอกได้อย่างไร ?

 

ทว่าเธอก็เห็นข้อความที่เด่นชัดบนหัวกระดาษ

 

ลู่หมั่น ยศพันเอก ตำแหน่งรองหัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษของหน่วยรบพิเศษแห่งกองทัพประจำเมืองเซี่ยงไฮ้ และรองหัวหน้าแผนกฝึกอบรมของโรงเรียนทหาร

 

ลู่หมั่นได้รับเหรียญประกาศเกียรติคุณ ชั้นหนึ่ง 1 ครั้ง ชั้นที่สอง 1 ครั้ง และชั้นที่สาม 2 ครั้งในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ทั้งยังเคยปฏิบัติภารกิจสำคัญ ๆ มากกว่า 13 ครั้งในเมืองเซี่ยงไฮ้

 

“คุณปู่ แต่เธอเป็นเพียงคนรับใช้ของตระกูลมู่ไม่ใช่หรือ ?”

 

เสิ่นหรงเจียยังไม่อยากจะเชื่อ

 

“ใช่ เป็นความจริงที่เธอเป็นคนรับใช้ของตระกูลมู่ หากแต่เป็นเพราะมู่จื่อหมิงเคยช่วยชีวิตเธอไว้ และนั่นทำให้เธอเต็มใจที่จะอยู่รับใช้ตระกูลมู่”

 

เจ้าบ้านเสิ่นกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก

 

เสิ่นหรงเจียทรุดฮวบลงกับพื้น ครั้งนี้.. เธอพบปัญหาใหญ่แล้วจริง ๆ

 

โชคดีที่คุณปู่ของเธอมาทันเวลา หากเมื่อครู่นี้เสิ่นหรงเจียทำร้ายหมั่นโถวรุนแรง เรื่องนี้คงจะไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยคำขอโทษเพียงอย่างเดียว

 

“พรุ่งนี้แกตามฉันไปที่บ้านสกุลมู่เพื่อขอโทษคุณลู่ ตอนนี้กลับบ้านพร้อมฉัน และแกไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปไหนอีก ดูสิแกเป็นถึงรองผู้กำกับสำนักสันติบาล ทว่ายังสวมกระโปรงสั้น ใส่รองเท้าส้นสูงในที่ทำงาน แกคิดว่าเหมาะสมแล้วงั้นหรือ ? ที่ฉันให้แกได้นั่งในตำแหน่งนี้ ไม่ใช่เพื่อให้แกมาทำให้ตระกูลของฉันต้องอับอายขายหน้านะ”

 

ครั้นเจ้าบ้านเสิ่นเห็นการแต่งกายของหลานสาวที่รักของเขา เขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก

 

เสิ่นหรงเจียคร่ำครวญ เธอเริ่มร้องไห้เสียงดังขึ้น ไม่เหลือภาพลักษณ์ใด ๆ อีกแล้ว การแต่งหน้าที่ต้องใช้เวลานานกับแป้งที่หนาเตอะ ยามนี้มลายหายไปสิ้น

 

ตั้งแต่เธอจำความได้ ปู่ของเธอไม่เคยดุขนาดนี้มาก่อนเลย

 

เจ้าบ้านเสิ่นพูดจบก็ถอนหายใจ เมื่อครู่เขาเป็นกังวลอย่างมาก ปกติแล้วเขาจะรักหลานสาวตัวน้อยของเขามาก เมื่อเห็นหลานสาวตัวน้อยร้องห่มร้องไห้เสียใจถึงเพียงนี้ เขาก็รู้สึกใจอ่อนยวบลงทันที

 

“เอาล่ะ เอาล่ะ ไม่ต้องร้องไห้แล้ว ครั้งหน้าหนูต้องเชื่อฟังปู่นะ หนูรู้ไหม ? หนูอยู่ในตำแหน่งรองผู้กำกับ หนูต้องรู้ว่าใครที่เราไม่ควรทำให้ขุ่นเคือง อย่าเอาทุกเรื่องมาปะปนกัน เรื่องของใครก็เป็นเรื่องของเขา ปู่รู้ว่าหนูมีความสัมพันธ์ที่ดีกับฉีเหยียนเอ๋อ แต่อย่าให้เขาหลอกใช้เราไปทำร้ายคนอื่น”

 

เสิ่นหรงเจียไม่สามารถกลั้นน้ำตาของเธอไว้ได้เลย หากแต่เธอก็ไม่ลืมที่จะพยักหน้าให้สัญญาว่า

 

“หนูเข้าใจแล้วค่ะคุณปู่”

 

ตระกูลฉีต้องการแต่งงานกับตระกูลมู่มาโดยตลอด ทำไมเจ้าบ้านเสิ่นจะไม่รู้เรื่องนี้ ? เขารู้ดีว่าหลานสาวที่รักของเขารู้จักกับตระกูลมู่เพียงผิวเผินเท่านั้น ย่อมจะไม่มีข้อพิพาทใด ๆ อย่างแน่นอน ความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวก็คือฉีเหยียนเอ๋อหลอกใช้หลานสาวของเขา

 

แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างฉีเหยียนเอ๋อกับเสิ่นหรงเจียจะดีมากมาโดยตลอด ทั้งคู่เป็นเพื่อนรักกัน ทว่าสำหรับเจ้าบ้านเสิ่นแล้ว เขาไม่ประทับใจในตัวฉีเหยียนเอ๋อเลยนับแต่เล็กจนโต เขารู้สึกว่าฉีเหยียนเอ๋อฉลาดมากเกินไป ทั้งจะไม่ปล่อยให้ตนเองต้องเจอเรื่องร้ายใด ๆ นอกจากนี้เขามักรู้สึกเสมอว่า ฉีเหยียนเอ๋อจะนำพาเรื่องไม่ดีมาสู่หลานสาวของเขา

 

อย่างไรก็ตาม ชายชราเป็นคนเปิดใจกว้าง เขาจึงไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากเกิดเหตุการณ์ในวันนี้ ความประทับใจของเจ้าบ้านเสิ่นที่มีต่อฉีเหยียนเอ๋อก็ยิ่งย่ำแย่ลงไปอีก เขาเชื่อว่าหลานสาวของเขาถูกฉีเหยียนเอ๋อหลอกใช้เป็นเครื่องมือ

 

ทำไมฉีเหยียนเอ๋อไม่จัดการลู่หมั่นด้วยตนเอง ? หากแต่ให้หลานสาวของเขาออกหน้าแทน ? นั่นเป็นเพราะเธอไม่อยากเกี่ยวข้องด้วยใช่หรือไม่ ?

 

***จบตอน ยากที่จะยอมรับ***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset