อาเจิ้งรออยู่ที่หน้าประตูสำนักสันติบาล
เขาเห็นเจ้าบ้านเสิ่นรีบวิ่งเข้าไปในสำนักงาน จากนั้นก็เห็นเจ้าบ้านเสิ่นออกมาส่งหมั่นโถวขึ้นรถอย่างสุภาพ
เห็นเช่นนั้นอาเจิ้งก็วางใจ เขาปิดหน้าต่างรถ จากนั้นก็ขับรถกลับบ้านอย่างรวดเร็ว เพื่อไปรายงานมู่เฉินฮ่าว
เจ้าบ้านเสิ่นให้คนส่งหมั่นโถวกลับบ้าน หลังจากหมั่นโถวกลับถึงบ้าน เธอก็พบว่าเซี่ยฉิงกง มู่เฉินฮ่าว และอาเจิ้ง กำลังรอเธออยู่ในห้องนั่งเล่น
เซี่ยฉิงกงยังคงเป็นห่วงหมั่นโถวอยู่บ้าง เพราะในเวลานั้นเสิ่นหรงเจียโมโหหมั่นโถวมาก ไม่มีใครรับประกันได้ว่า เสิ่นหรงเจียจะไม่รีบกระโจนเข้าทำร้ายหมั่นโถวเพื่อความสะใจ
ทันทีที่หมั่นโถวกลับถึงบ้าน เซี่ยฉิงกงก็เอ่ยทักทายเธอ
“หมั่นโถวเป็นไงบ้าง ? เสิ่นหรงเจียทำอะไรเธอรึเปล่า ?”
หมั่นโถวยิ้ม พร้อมกับส่ายศีรษะ ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ค่ะ นายหญิงน้อย”
สายตาของเซี่ยฉิงกงแหลมคมมาก เธอมองหมั่นโถวอย่างพินิจพิจารณา จึงพบว่าใบหน้าด้านซ้ายของหมั่นโถวบวมแดงเล็กน้อย
“หมั่นโถว เสิ่นหรงเจียตบเธองั้นหรือ ?”
สีหน้าของเซี่ยฉิงกงเย็นชาขึ้นเรื่อย ๆ
“ไม่ค่ะ นายหญิงน้อยไม่ต้องเป็นห่วง”
หมั่นโถวหลุบตาลงเล็กน้อย เธอไม่ต้องการบอกเซี่ยฉิงกงว่าเธอถูกเสิ่นหรงเจียตบ นี่เป็นเพียงเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ เธอไม่อยากทำให้เซี่ยฉิงกงเป็นกังวล”
อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้แม้เสิ่นหรงเจียจะไม่ถึงตาย ทว่าเธอก็คงจะถูกเจ้าบ้านเสิ่นถลกหนังจนไม่กล้าหยิ่งผยองอีกต่อไป
เซี่ยฉิงกงไม่ถามอะไรมากไปกว่านี้ เธอเพียงมองและจดจำสิ่งเหล่านี้ไว้ในใจ เธอรู้ดีว่าที่หมั่นโถวไม่ต้องการพูด เป็นเพราะห่วงว่าเธอจะเป็นกังวล
เซี่ยฉิงกงส่งถุงทั้งหมดบนโต๊ะให้กับหมั่นโถว พวกนี้เป็นเสื้อผ้าที่เธอซื้อให้หมั่นโถว
“นี่คือเสื้อผ้าที่ฉันซื้อให้เธอ ตอนที่เราออกไปซื้อของกันวันนี้ ต่อไปก็อย่าลืมหยิบขึ้นมาใส่บ่อย ๆ ล่ะ”
นัยน์ตาของหมั่นโถวเป็นประกาย เธอรับถุงเหล่านั้นมาอย่างมีความสุข พร้อมกับกล่าวยิ้ม ๆ ว่า
“ขอบคุณค่ะ นายหญิงน้อย”
วันนี้ผ่านไปรวดเร็วมาก ดวงจันทร์ขึ้นเตะขอบฟ้า ท้องฟ้ามืดไม่ทันรู้ตัว
เดิมทีหลังจากการประชุมสิ้นสุดลงในตอนบ่าย มู่เฉินฮ่าวก็ต้องไปที่ตระกูลเซี่ยในตอนเย็น เพื่อพูดคุยกับมู่จื่อหมิงเกี่ยวกับการหมั้นหมายของเขากับเซี่ยฉิงกง ทว่าเนื่องจากต้องมาล่าช้ากับเรื่องตลก ๆ ในวันนี้ เขาจึงต้องเลื่อนไปวันอื่นแทน
หลังจากรับประทานอาหารเย็น เซี่ยฉิงกงก็ขึ้นมาอาบน้ำอุ่น เธอเช็ดเรือนผมที่เปียก และกำลังจะเป่าผม ทว่ากลับรู้สึกถูกคนโอบกอดจากข้างหลัง อ้อมกอดนั้นเต็มไปด้วยความอบอุ่น
“ผมของฉันเปียกอยู่นะ คุณช่วยถอยออกไปหน่อย”
ฉิงกงพูดอย่างโกรธ ๆ
มู่เฉินฮ่าวใช้มือรวบบิดเรือนผมดำขลับจนเป็นเกลียว จากนั้นก็กระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น น้ำเสียงนุ่ม ๆ ของเขาช่างน่าหลงใหล
“ผมช่วยคุณเป่าผมเอง”
“ไม่..ฉันทำเองได้”
มู่เฉินฮ่าวหมุนตัวเซี่ยฉิงกงหันมาเผชิญหน้า เขาก้มศีรษะลงจูบริมฝีปากของเธอเบา ๆ เอ่ยถามอีกครั้งว่า
“ให้ผมช่วยคุณเป่าผม ตกลงไหม ?”
ผู้ชายคนนี้ลวนลามเธออีกแล้ว
“ไม่ ไอ้ … ”
ก่อนที่เธอจะทันกล่าวจบ มือใหญ่ของมู่เฉินฮ่าวก็เชยคางเล็ก ๆ ของเธอขึ้น แล้วก้มลงจูบอย่างดูดดื่ม
ความรู้สึกนี้ทำให้เธอหายใจไม่ออก
หลังจากนั้นไม่นานมู่เฉินฮ่าวก็ปล่อยริมฝีปากของเธอเป็นอิสระ เขาย่อตัวลงอุ้มเธอขึ้นมาวางบนโต๊ะเครื่องแป้ง เขาอยู่ใกล้เธอมาก ระยะห่างระหว่างกันไม่เกิน 1 ซม.
“งั้น คุณช่วยฉันเป่าผมก็ได้ ตกลงมั้ย ?”
มู่เฉินฮ่าวคุกคาม กระทั่งเซี่ยฉิงกงต้องยกธงยอมแพ้ เอาเถอะมีคนช่วยเธอเป่าผมก็ไม่เห็นเป็นไร
“ได้สิ ผมช่วยคุณเอง !”
***จบตอน เล่นบทอันธพาลตลอดเวลา***