มู่เฉินฮ่าวต้องเข้าบริษัทแต่เช้า เพื่อจัดการงานทั้งเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ ดังนั้นแม้เขาจะมีเซี่ยฉงกงเขาก็ไม่สามารถใช้เวลากับเธอจนดึกดื่นได้
มู่เฉินฮ่าวทำได้เพียงแตะศีรษะของเซี่ยฉิงกง จากนั้นก็บรรจงจูบหน้าผากขาวผ่องของเธอ
ครั้นเห็นเซี่ยฉิงกงนอนขดอยู่ในผืนผ้าห่ม ไม่ต่างจากหนอนไหม ความร้อนเร่าก็ค่อย ๆ แผ่กระจายไปทั่วช่องท้องของมู่เฉินฮ่าว ยามนี้เขารู้สึกร้อนวูบวาบ ไฟอารมณ์ของเขาลุกโชนขึ้นอีกครั้ง แทบอดใจไม่ได้ที่จะขัดจังหวะการนอนหลับของหญิงสาวผู้ซึ่งยามนี้กำลังหลับใหลอย่างเป็นสุข
อดกลั้นไว้ ค่อยเป็นค่อยไป นี่ก็ยังไม่ได้แต่งงานเลย มู่เฉินฮ่าวท่องอยู่ในใจ
ลำคอและหน้าอกของหญิงสาวเต็มไปด้วยร่องรอยที่มู่เฉินฮ่าวทิ้งไว้ เห็นได้ชัดว่าเป็นรอยแดงจ้ำใหญ่ ๆ เหมือนผลสตรอเบอรี่ !
นอกจากนั้นยังมีรอยเปื้อนสีแดงราวลูกเชอรี่บนผ้าปูที่นอน ซึ่งนั่นทำให้มูเฉินฮ่าวรู้สึกเสียใจขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อคืนเขาเพียรถามเธอหลายต่อหลายครั้ง ด้วยเกรงว่าวันนี้เธอจะลุกจากเตียงไม่ขึ้น
ตอนเช้า มู่เฉินฮ่าวสั่งหมั่นโถวให้ตระเตรียมอาหารกลางวันแสนอร่อยไว้ให้เซี่ยฉิงกง จากนั้นเขาก็ออกจากคฤหาสน์มู่ไปพร้อมกับอาเจิ้ง
เมื่อคืนนี้ที่ต่างคนต่างปล่อยอารมณ์ไปตามใจปรารถนา มู่เฉินฮ่าวอ่อนโยนกับเธอมาก ดังนั้นยกเว้นความเจ็บปวดในตอนแรกแล้ว ช่วงเวลาต่อมาเรียกได้ว่าเธอกับเขาต่างก็โบยบินขึ้นสู่สวรรค์ด้วยกันทั้งคู่ …
ดังนั้นกว่าเซี่ยฉิงกงจะตื่นก็เป็นเวลา 11 นาฬิกาแล้ว
เซี่ยฉิงกงยืดตัว ก่อนจะพยายามลุกขึ้นจากเตียง พลันเธอก็รับรู้ถึงความเจ็บปวดที่แจ่มชัด และนั่นส่งผลให้เธอตัวสั่นเล็กน้อย
ครั้นหวนนึกถึงเรื่องเมื่อคืนนี้ เธอก็อดไม่ได้ที่จะเคอะเขิน โชคดีที่เมื่อเธอตื่นขึ้นมา มู่เฉินฮ่าวก็ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว
หาไม่เซี่ยฉิงกงก็ไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับมู่เฉินฮ่าวอย่างไร ?
เซี่ยฉิงกงไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เนื่องจากเมื่อคืนนี้เธอถูกมู่เฉินฮ่าวรุกรานอย่างหนัก
เขาบอกว่าจะไม่ปล่อยให้เธอหลับง่าย ๆ และเขาก็ไม่ปล่อยเธอดังปากว่าจริง ๆ เขาโยกโย้โล้เธอจนกระทั่งตีสามตีสี่ ทั้งที่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของเธอ..
มู่เฉินฮ่าวไม่ยอมปล่อยตัวเธอตลอดทั้งคืน
นั่นทำให้เธอแอบบริภาษมู่เฉินฮ่าวอีกครั้งในใจ
“คนอะไรป่าเถื่อนชะมัด”
ครั้นพยายามที่จะลุกขึ้นจากเตียง เธอก็รู้สึกว่าแข้งขาของเธอสั่นเล็กน้อย เธออดไม่ได้ที่จะด่าเขาในใจอีกครั้ง ยามนี้เซี่ยฉิงกงก็ไม่รู้จะทำเช่นไร เธอตัดสินใจตะโกนไปที่ประตู
“หมั่นโถวเข้ามาช่วยฉันหน่อย ฉันลุกไม่ขึ้น”
สามวินาทีถัดมาประตูห้องก็เปิดออก ปรากฏศีรษะเล็ก ๆ โผล่เข้ามาในห้อง นั่นก็คือหมั่นโถว
หมั่นโถวยิ้มกว้าง ขณะก้าวเข้าไปหาเซี่ยฉิงกง เธอช่วยดึงตัวเซี่ยฉิงกงขึ้นมาจากเตียง หากแต่สายตาของเธอเอาแต่จับจ้องที่ลำคอของเซี่ยฉิงกง
เซี่ยฉิงกงรู้สึกแปลก ๆ จึงเอ่ยถามว่า
“มองอะไรหรือหมั่นโถว มีดอกไม้ขึ้นที่คอของฉันรึไง ?”
หมั่นโถวหัวเราะเบา ๆ พร้อมกับชี้สุ่ม ๆ ก่อนจะตอบว่า
“ใช่..มีดอกไม้จริง ๆ นั่นแหละค่ะ”
ชั่วขณะนั้น เซี่ยฉิงกงก็เกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีอย่างแรง เธอพยายามลุกขึ้นจากเตียง โดยไม่สนใจแข้งขาที่อ่อนปวกเปียกของตน เธอรีบวิ่งเข้าไปส่องกระจกในห้องน้ำ
แล้วก็เป็นดังคาด ภาพสะท้อนในกระจกทำให้เซี่ยฉิงกงตกใจ ปรากฏร่องรอยมากมายบริเวณลำคอของเธอ นี่มู่เฉินฮ่าวเบื่อที่จะมีชีวิตแล้วใช่ไหมฮะ ?
แล้วสารรูปอย่างนี้จะให้เธอออกไปพบเจอใครได้ไง …
“นายหญิงน้อย ไหนนายน้อยบอกว่าจะไม่ละเมิดสัญญาไงล่ะ ? ทำไมนายหญิงน้อยถึงเป็นแบบนี้ได้ล่ะ ?”
“ยัยบ้า ไม่ต้องมัวพูดมากเลย รีบไปหาชุดคอตั้ง ๆ สูง ๆ มาให้ฉันเลย ทำแบบนี้ฉันจะออกไปพบเจอผู้คนได้อย่างไร …? ”
เซี่ยฉิงกงจ้องมองหมั่นโถว เธอบ่น ๆ ๆ ก่อนจะทิ้งกายลงบนเตียง
ตอนนี้เธอไม่อยากแม้แต่จะขยับนิ้วด้วยซ้ำ ทว่าท้องของเธอกลับร้องครวญครางด้วยความหิวโหย เธออยากจะให้หมั่นโถวเอาอาหารมาให้เธอเร็ว ๆ
“แต่ว่า นายหญิงน้อย ผู้อาวุโสตระกูลเสิ่นพาเสิ่นหรงเจียมาที่นี่ตั้งแต่เช้าแล้ว และตอนนี้พวกเขาก็กำลังรออยู่ที่ห้องนั่งเล่น คุณต้องการพบพวกเขาไหม ?”
หมั่นโถวพูด ขณะช่วยเซี่ยฉิงกงหาเสื้อคอตั้ง
“พวกเขามาที่นี่งั้นหรือ ?”
ดูเหมือนว่าเจ้าบ้านเสิ่นจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก
เซี่ยฉิงกงลองสวมเสื้อคอตั้ง ทว่าภายหลังจากลองไปหลายตัวแล้ว เซี่ยฉิงกงก็คิดว่าไม่มีตัวไหนเหมาะกับเธอเลย เธอรู้สึกว่าการใส่เสื้อคอตั้งวันนี้แลดูแปลก ๆ
เมื่อไม่รู้จะทำอย่างไรดี เธอก็เลยให้หมั่นโถวไปหยิบผ้าพันคอไหมมา เธอใช้ผ้าพันคอไหมพันรอบคอตนเอง ซึ่งนั่นแลดูดีกว่าการใส่เสื้อคอตั้งมากมาย
หากแต่ครั้นได้เห็นร่องรอยมากมายบนแขน เซี่ยฉิงกงก็รู้สึกว่านี่ก็อาจจะดูไม่ค่อยดีนัก
แต่หากได้ใส่เสื้อแขนยาวปิดบังไว้ก็คงไม่เป็นไร
***จบตอน ร่องรอยฝากรัก***