แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 112 แค่ 300,000 เอามาไม่ได้หรือ ?

ครั้นได้พบเจ้าบ้านเสิ่นกับเสิ่นหรงเจีย เซี่ยฉิงกงจึงพบว่าเสิ่นหรงเจียรู้สึกไม่มั่นใจเฉกเช่นเคย เธอติดตามคุณปู่ของเธอมาขอโทษหมั่นโถวและเซี่ยฉิงกง

 

ครั้นเห็นท่าทีที่จริงใจของเจ้าบ้านเสิ่น หมั่นโถวก็ไม่ใส่ใจเรื่องเก่า ๆ อีกต่อไป อย่างน้อยท้ายที่สุดเจ้าบ้านตระกูลเสิ่นก็รู้อะไรดีอะไรชั่ว

 

เจ้าบ้านเสิ่นรู้สึกโล่งใจ เขาให้สัญญาว่าจะกวดขันให้เสิ่นหรงเจียอยู่ในระเบียบวินัยอย่างเข้มงวด ทั้งจะให้เสิ่นหรงเจียกลับไปฝึกหนักที่โรงเรียนตำรวจอีก 1 ปี

 

ด้วยเหตุนี้รองผู้กำกับสำนักสันติบาล เสิ่นหรงเจีย จึงเหมือนจะถูกปู่ของเธอไล่ออกจากตำแหน่งโดยตรง ทั้งยังต้องกลับไปเรียนที่โรงเรียนตำรวจใหม่อีกครั้ง !

 

อย่างไรก็ตาม เซี่ยฉิงกงไม่มีวันลืมว่า ก่อนที่เสิ่นหรงเจียจะออกจากคฤหาสน์มู่ เสิ่นหรงเจียยังหันกลับมาจ้องตาเธอ

 

และแววตาของเสิ่นหรงเจียนั้นดุร้าย ไม่พอใจ เต็มไปด้วยความเคียดแค้น

 

ด้วยเหตุนี้ เซี่ยฉิงกงจึงรู้ว่าข้อพิพาทระหว่างคุณหนูเสิ่นกับเธอนั้นยังคงอยู่เฉกเช่นเดิม เพียงแต่เสิ่นหรงเจียจะไม่กล้ากระทำซึ่ง ๆ หน้า  ทว่าอาจจะลอบกัด …

 

ทางที่ดีนับจากนี้ไปเธอจะต้องระมัดระวังตัวให้มากขึ้น หาไม่เธอก็อาจเจอแผนร้ายได้

 

หลังจากคนตระกูลเสิ่นทั้งสองผละจากไปแล้ว เซี่ยฉิงกงก็กินอาหารกลางวัน หลังมื้อกลางวันเธอก็รู้สึกง่วงงุนอีกครั้ง เธออดไม่ได้ที่จะผล็อยหลับไป

 

ครั้นเธอตื่นขึ้นมาอีกครั้งมู่เฉินฮ่าวก็กลับถึงบ้านแล้ว

 

เขานั่งอยู่บนโซฟาโดยมีโน้ตบุ๊กวางอยู่บนตัก เขากำลังเฝ้าดูแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของหุ้นในเครือบริษัทสกุลมู่

“ตื่นแล้วหรือ ?”

 

ครั้นมู่เฉินฮ่าวรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวที่บริเวณอีกด้านหนึ่งของเตียง เขาก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกับเอ่ยถาม

 

“อืม” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า

 

เซี่ยฉิงกงเหยียดแขนขาวที่เรียวงามราวดอกบัว พลางยืดเอวบิดขี้เกียจ เธอรู้สึกว่าร่างกายของเธอฟื้นตัวขึ้นมาก

 

“เมื่อคืนนี้ คงหนักมากสำหรับคุณสินะ”

 

มู่เฉินฮ่าวหรี่ตามอง แม้ว่าจะแลดูหล่อเหลา ทว่าก็เป็นกิริยาที่น่าเกลียดมาก

 

“นี่กำลังกวนประสาทฉันใช่มั้ย ?”

 

เซี่ยฉิงกงสบถเบา ๆ เธอลุกขึ้นจากเตียง จากนั้นก็หยิบน้ำบนโต๊ะขึ้นมาดื่ม เธอตื่นนอนพร้อมความหิวโหย…

 

เซี่ยฉิงกงรู้สึกว่าวันนี้เธอเจริญอาหารมาก เธอเริ่มหิวอีกแล้ว หลังจากผ่านมื้อกลางวันไปได้เพียงสองสามชั่วโมง หรือเป็นเพราะเมื่อคืนฉันเหนื่อยล้าเกินไป ร่างกายจึงพยายามที่จะเติมเต็มด้วยอาหารที่กินไปในวันนี้ใช่หรือไม่นะ ?

 

“คืนนี้ ให้ผมพาคุณออกไปกินอาหารมื้อค่ำข้างนอกดีมั้ย ?”

 

มู่เฉินฮ่าวปิดโน้ตบุ๊คแล้วเดินไปหาเซี่ยฉิงกง เขาอุ้มเซี่ยฉิงกงมาที่โซฟา จากนั้นก็จับเธอนั่งบนตักของเขา

 

เซี่ยฉิงกงร้องออกมาเบา ๆ ทว่าก็ไม่ได้ดิ้นรนแต่อย่างใด เธอนั่งบนตักมู่เฉินฮ่าว อย่างเชื่อฟังไม่กล้าแม้จะขยับตัว

 

เธอกลัวว่า หากไม่ระวัง เธออาจจะไปยั่วอารมณ์มู่เฉินฮ่าวขึ้นมาอีก …

 

ร่างบอบบางของเธอคงไม่สามารถรับมือไหวเป็นแน่

 

“อาหารค่ำ ?”

 

เซี่ยฉิงกงเหลือบมองนาฬิกายุโรปเรือนใหญ่ที่แขวนอยู่บนผนัง ยังไม่ถึงสี่ทุ่ม พลันภาพแม่บุญธรรมก็ปรากฏขึ้นในความคิดของเธอ

 

นับแต่กลับมาบ้านสกุลเซี่ย และตกลงทำสัญญาแต่งงานกับมู่เฉินฮ่าว แม่บุญธรรมก็ถูกเซี่ยเจิ้งหัวย้ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลที่ดีที่สุด

หากแต่เซี่ยฉิงกงก็ยังไม่มีเวลาไปเยี่ยมท่านเลย

 

เซี่ยหว่านอิง น้องสาวของเธอก็ไม่ได้อยู่ในประเทศ ดังนั้นแม่บุญธรรมของเธอคงต้องเหงามากเป็นแน่

 

“งั้น..ก่อนไปกินข้าว ช่วยพาฉันไปเยี่ยมคุณแม่ของฉันหน่อยได้มั้ย ? ฉันไม่ได้พบท่านนานมากแล้ว ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้อาการของท่านเป็นอย่างไรบ้าง ?”

 

มู่เฉินฮ่าวย่อมรู้ดีว่า แม่..ที่เธอกำลังพูดถึงก็คือแม่บุญธรรมของเธอนั่นเอง

 

มู่เฉินฮ่าวขยี้ศีรษะเล็ก ๆ ของเธอ เขาพยักหน้าพร้อมกับพูดว่า

 

“คุณไปไหนผมก็จะไปกับคุณ แต่ครั้งแรกที่ผมจะไปพบแม่ยาย ผมก็ควรมีดอกไม้ ผลไม้ หรือของเยี่ยมอะไรสักอย่างติดไม้ติดมือไปด้วย”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่ต้องลำบากขนาดนั้นก็ได้ … แค่อั่งเปาสักซองก็พอ … “

 

มู่เฉินฮ่าว “…”

 

หลังจากจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้ว เซี่ยฉิงกง และมู่เฉินฮ่าว ก็ไปยังโรงพยาบาลที่ซึ่งเซี่ยเจิ้งหัวกล่าวว่าเป็นโรงพยาบาลที่ดีที่สุด ยิ่งก้าวลึกเข้าไปในโรงพยาบาล หัวใจของเซี่ยฉิงกงก็ยิ่งเย็นเยียบลง …

 

นี่หรือที่เรียกว่า ? โรงพยาบาลที่ดีที่สุด ?

 

เซี่ยฉิงกงพยายามอดกลั้นอย่างเต็มที่ เพื่อหาห้องพักของแม่บุญธรรมของเธอ

 

ก่อนที่จะเปิดประตูห้องพักของแม่บุญธรรม เซี่ยฉิงกงก็ได้ยินเสียงที่เธอไม่อยากได้ยินเลย

 

“พี่สาว พี่ไม่น่าทำแบบนี้ อย่างไรเสียฉันก็เป็นน้องชายของพี่ พี่ให้ฉันยืมสัก 300,000 หยวนไม่ได้หรือ ? หรือพี่คิดว่าฉันจะไม่จ่ายคืนพี่ พี่ก็เห็นนี่ว่าตอนนี้ฉิงกงอยู่ดีมีสุขแล้ว กะเงินแค่ 300,000 หยวน พี่จะขอมาให้ฉันไม่ได้เลยงั้นหรือ ?”

 

***จบตอน แค่ 300,000 เอามาไม่ได้หรือ ?***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset