ครั้นได้พบเจ้าบ้านเสิ่นกับเสิ่นหรงเจีย เซี่ยฉิงกงจึงพบว่าเสิ่นหรงเจียรู้สึกไม่มั่นใจเฉกเช่นเคย เธอติดตามคุณปู่ของเธอมาขอโทษหมั่นโถวและเซี่ยฉิงกง
ครั้นเห็นท่าทีที่จริงใจของเจ้าบ้านเสิ่น หมั่นโถวก็ไม่ใส่ใจเรื่องเก่า ๆ อีกต่อไป อย่างน้อยท้ายที่สุดเจ้าบ้านตระกูลเสิ่นก็รู้อะไรดีอะไรชั่ว
เจ้าบ้านเสิ่นรู้สึกโล่งใจ เขาให้สัญญาว่าจะกวดขันให้เสิ่นหรงเจียอยู่ในระเบียบวินัยอย่างเข้มงวด ทั้งจะให้เสิ่นหรงเจียกลับไปฝึกหนักที่โรงเรียนตำรวจอีก 1 ปี
ด้วยเหตุนี้รองผู้กำกับสำนักสันติบาล เสิ่นหรงเจีย จึงเหมือนจะถูกปู่ของเธอไล่ออกจากตำแหน่งโดยตรง ทั้งยังต้องกลับไปเรียนที่โรงเรียนตำรวจใหม่อีกครั้ง !
อย่างไรก็ตาม เซี่ยฉิงกงไม่มีวันลืมว่า ก่อนที่เสิ่นหรงเจียจะออกจากคฤหาสน์มู่ เสิ่นหรงเจียยังหันกลับมาจ้องตาเธอ
และแววตาของเสิ่นหรงเจียนั้นดุร้าย ไม่พอใจ เต็มไปด้วยความเคียดแค้น
ด้วยเหตุนี้ เซี่ยฉิงกงจึงรู้ว่าข้อพิพาทระหว่างคุณหนูเสิ่นกับเธอนั้นยังคงอยู่เฉกเช่นเดิม เพียงแต่เสิ่นหรงเจียจะไม่กล้ากระทำซึ่ง ๆ หน้า ทว่าอาจจะลอบกัด …
ทางที่ดีนับจากนี้ไปเธอจะต้องระมัดระวังตัวให้มากขึ้น หาไม่เธอก็อาจเจอแผนร้ายได้
หลังจากคนตระกูลเสิ่นทั้งสองผละจากไปแล้ว เซี่ยฉิงกงก็กินอาหารกลางวัน หลังมื้อกลางวันเธอก็รู้สึกง่วงงุนอีกครั้ง เธออดไม่ได้ที่จะผล็อยหลับไป
ครั้นเธอตื่นขึ้นมาอีกครั้งมู่เฉินฮ่าวก็กลับถึงบ้านแล้ว
เขานั่งอยู่บนโซฟาโดยมีโน้ตบุ๊กวางอยู่บนตัก เขากำลังเฝ้าดูแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของหุ้นในเครือบริษัทสกุลมู่
“ตื่นแล้วหรือ ?”
ครั้นมู่เฉินฮ่าวรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวที่บริเวณอีกด้านหนึ่งของเตียง เขาก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกับเอ่ยถาม
“อืม” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า
เซี่ยฉิงกงเหยียดแขนขาวที่เรียวงามราวดอกบัว พลางยืดเอวบิดขี้เกียจ เธอรู้สึกว่าร่างกายของเธอฟื้นตัวขึ้นมาก
“เมื่อคืนนี้ คงหนักมากสำหรับคุณสินะ”
มู่เฉินฮ่าวหรี่ตามอง แม้ว่าจะแลดูหล่อเหลา ทว่าก็เป็นกิริยาที่น่าเกลียดมาก
“นี่กำลังกวนประสาทฉันใช่มั้ย ?”
เซี่ยฉิงกงสบถเบา ๆ เธอลุกขึ้นจากเตียง จากนั้นก็หยิบน้ำบนโต๊ะขึ้นมาดื่ม เธอตื่นนอนพร้อมความหิวโหย…
เซี่ยฉิงกงรู้สึกว่าวันนี้เธอเจริญอาหารมาก เธอเริ่มหิวอีกแล้ว หลังจากผ่านมื้อกลางวันไปได้เพียงสองสามชั่วโมง หรือเป็นเพราะเมื่อคืนฉันเหนื่อยล้าเกินไป ร่างกายจึงพยายามที่จะเติมเต็มด้วยอาหารที่กินไปในวันนี้ใช่หรือไม่นะ ?
“คืนนี้ ให้ผมพาคุณออกไปกินอาหารมื้อค่ำข้างนอกดีมั้ย ?”
มู่เฉินฮ่าวปิดโน้ตบุ๊คแล้วเดินไปหาเซี่ยฉิงกง เขาอุ้มเซี่ยฉิงกงมาที่โซฟา จากนั้นก็จับเธอนั่งบนตักของเขา
เซี่ยฉิงกงร้องออกมาเบา ๆ ทว่าก็ไม่ได้ดิ้นรนแต่อย่างใด เธอนั่งบนตักมู่เฉินฮ่าว อย่างเชื่อฟังไม่กล้าแม้จะขยับตัว
เธอกลัวว่า หากไม่ระวัง เธออาจจะไปยั่วอารมณ์มู่เฉินฮ่าวขึ้นมาอีก …
ร่างบอบบางของเธอคงไม่สามารถรับมือไหวเป็นแน่
“อาหารค่ำ ?”
เซี่ยฉิงกงเหลือบมองนาฬิกายุโรปเรือนใหญ่ที่แขวนอยู่บนผนัง ยังไม่ถึงสี่ทุ่ม พลันภาพแม่บุญธรรมก็ปรากฏขึ้นในความคิดของเธอ
นับแต่กลับมาบ้านสกุลเซี่ย และตกลงทำสัญญาแต่งงานกับมู่เฉินฮ่าว แม่บุญธรรมก็ถูกเซี่ยเจิ้งหัวย้ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลที่ดีที่สุด
หากแต่เซี่ยฉิงกงก็ยังไม่มีเวลาไปเยี่ยมท่านเลย
เซี่ยหว่านอิง น้องสาวของเธอก็ไม่ได้อยู่ในประเทศ ดังนั้นแม่บุญธรรมของเธอคงต้องเหงามากเป็นแน่
“งั้น..ก่อนไปกินข้าว ช่วยพาฉันไปเยี่ยมคุณแม่ของฉันหน่อยได้มั้ย ? ฉันไม่ได้พบท่านนานมากแล้ว ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้อาการของท่านเป็นอย่างไรบ้าง ?”
มู่เฉินฮ่าวย่อมรู้ดีว่า แม่..ที่เธอกำลังพูดถึงก็คือแม่บุญธรรมของเธอนั่นเอง
มู่เฉินฮ่าวขยี้ศีรษะเล็ก ๆ ของเธอ เขาพยักหน้าพร้อมกับพูดว่า
“คุณไปไหนผมก็จะไปกับคุณ แต่ครั้งแรกที่ผมจะไปพบแม่ยาย ผมก็ควรมีดอกไม้ ผลไม้ หรือของเยี่ยมอะไรสักอย่างติดไม้ติดมือไปด้วย”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่ต้องลำบากขนาดนั้นก็ได้ … แค่อั่งเปาสักซองก็พอ … “
มู่เฉินฮ่าว “…”
หลังจากจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้ว เซี่ยฉิงกง และมู่เฉินฮ่าว ก็ไปยังโรงพยาบาลที่ซึ่งเซี่ยเจิ้งหัวกล่าวว่าเป็นโรงพยาบาลที่ดีที่สุด ยิ่งก้าวลึกเข้าไปในโรงพยาบาล หัวใจของเซี่ยฉิงกงก็ยิ่งเย็นเยียบลง …
นี่หรือที่เรียกว่า ? โรงพยาบาลที่ดีที่สุด ?
เซี่ยฉิงกงพยายามอดกลั้นอย่างเต็มที่ เพื่อหาห้องพักของแม่บุญธรรมของเธอ
ก่อนที่จะเปิดประตูห้องพักของแม่บุญธรรม เซี่ยฉิงกงก็ได้ยินเสียงที่เธอไม่อยากได้ยินเลย
“พี่สาว พี่ไม่น่าทำแบบนี้ อย่างไรเสียฉันก็เป็นน้องชายของพี่ พี่ให้ฉันยืมสัก 300,000 หยวนไม่ได้หรือ ? หรือพี่คิดว่าฉันจะไม่จ่ายคืนพี่ พี่ก็เห็นนี่ว่าตอนนี้ฉิงกงอยู่ดีมีสุขแล้ว กะเงินแค่ 300,000 หยวน พี่จะขอมาให้ฉันไม่ได้เลยงั้นหรือ ?”
***จบตอน แค่ 300,000 เอามาไม่ได้หรือ ?***