อีกด้านหนึ่ง
อาเจิ้งยื่นถุงในมือให้หมั่นโถวผู้ซึ่งยืนอยู่ตรงประตู พร้อมกับเกาหัวอย่างเก้อ ๆ
“หมั่นโถว เธอก็ควรรีบผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปียกออกนะ จะได้ไม่ป่วย”
“ขอบคุณพี่เจิ้ง”
หมั่นโถวยิ้มหวาน ไม่รู้ว่าเซี่ยฉิงกง และมู่เฉินฮ่าวจะเห็นภาพนี้ไหม หมั่นโถวหน้าแดงขณะรับถุงเสื้อผ้ามาจากมือของอาเจิ้ง ก่อนจะรีบวิ่งหนีไป
มีเพียงอาเจิ้งเท่านั้นที่ยังคงยืนยิ้มอยู่ที่เดิม
ที่นี่คือโรงพยาบาลส่วนตัวของสกุลมู่ ชั้นบนสุดมีห้องส่วนตัวของมู่เฉินฮ่าวหลังจากเซี่ยฉิงกงอาบน้ำร้อนเรียบร้อยแล้ว เธอก็เตรียมตัวใส่เสื้อผ้าสะอาดที่มู่เฉินฮ่าวนำมาให้
ครั้นเปิดถุงออก ใบหน้าของเซี่ยฉิงกงก็แดงก่ำ
ก้นถุงเป็นเสื้อชั้นใน และกางเกงในของเซี่ยฉิงกง ซึ่งเป็นของส่วนตัวมาก ไม่คาดคิดว่ามู่เฉินฮ่าวจะรู้ใจและนำติดมาด้วย
หลังจากที่เธอผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เซี่ยฉิงกงก็ก้าวออกมาจากห้องน้ำ
มู่เฉินฮ่าวรอเธออยู่ในห้องแล้ว
ครั้นเห็นเธอก้าวออกมา เขาก็หยิบไดร์เป่าผมออกมาจากลิ้นชักข้างประตูพลางกวักมือเรียกเธอ
“มานี่สิ”
เซี่ยฉิงกงพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปหาเขา ความรู้สึกที่ทั้งคู่มีให้กันช่างเป็นธรรมชาติไม่ต่างจากคู่รักทั่วไป
มู่เฉินฮ่าวรั้งเซี่ยฉิงกงลงมานั่งบนตักของเขา จากนั้นก็เริ่มเป่าผม
“คุณป้าเป็นยังไงบ้าง ?”
“เสี่ยวเฟยตรวจร่างกายแม่แล้ว พบว่าหัวใจมีปัญหา นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องเนื้องอก แต่ก็ไม่ได้ร้ายแรง ถึงกับคุกคามชีวิต”
“ครับ”
มู่เฉินฮ่าวไม่ได้ซักถามอะไรอีก เขาสอดมือเข้าไประหว่างผมของเซี่ยฉิงกงเบา ๆ ตั้งอกตั้งใจไดร์ผมของเซี่ยฉิงกงให้แห้งอย่างเอาจริงเอาจัง
“แต่ว่า ดูจากการแสดงออกของเจินเมี่ยวหยูในวันนี้ ฮุ่ยถังเน็ตเวิร์คน่าที่จะมีปัญหามากพอควรเลย”
จู่ ๆ เซี่ยฉิงกงก็นึกถึงเหตุการณ์ในวันนี้ขึ้นมาได้ ตอนที่มู่เฉินฮ่าวไปเยือนบ้านสกุลเซี่ยครั้งแรกนั้น เขาก็เสนอว่าจะรับซื้อบริษัทฮุ่ยถังเน็ตเวิร์คซึ่งเป็นบริษัทด้านอินเตอร์เน็ตของกลุ่มธุรกิจสกุลเซี่ยไว้เอง ขอเพียงเธอยอมกลับไปบ้านพร้อมเขา
ดังนั้นในวันรุ่งขึ้น ภายหลังจากที่เซี่ยฉิงกงกลับถึงคฤหาสน์มู่พร้อมมู่เฉินฮ่าว เงินจำนวนมหาศาลของสกุลมู่ก็ถูกอัดฉีดเข้าไปในกลุ่มธุรกิจตระกูลเซี่ย ช่วยต่อลมหายใจให้กลุ่มธุรกิจตระกูลเซี่ยไปได้อีกพักใหญ่
อย่างไรก็ตาม ในเวลาเพียงครึ่งเดือน ปัญหาก็หวนกลับมาอีกครั้ง ธุรกิจในเครือที่เชื่อมโยงกันหลายบริษัทต่างพากันหยุดชะงัก
จากประสบการณ์ของมู่เฉินฮ่าว เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้เลย ด้วยการระดมทุนจากกลุ่มธุรกิจสกุลมู่ หุ้นของกลุ่มธุรกิจสกุลเซี่ยจึงปรับตัวเพิ่มขึ้นหลายจุดในเวลานั้น
นอกเหนือจากเงินทุนจำนวนมากจากกลุ่มบริษัทสกุลมู่ ร่วมกับการระดมทุนจากหุ้นพวกนี้ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีปัญหาเรื่องเงินทุนหมุนเวียนที่จำเป็นเร่งด่วน กระทั่งทำให้ธุรกิจถึงกับหยุดชะงักลง
ต้องมีใครอยู่เบื้องหลังกลอุบายนี้
หลังจากตรวจสอบแล้ว มู่เฉินฮ่าวปักใจเชื่อว่าปัญหาหลัก ๆ ที่เกิดขึ้นน่าที่จะมาจากบริษัทในเครือ ที่มีชื่อว่า ฮุ่ยถังเน็ตเวิร์ค ซึ่งดำเนินงานด้านการให้บริการอินเตอร์เน็ต
“อืม เดี๋ยวคงต้องตรวจสอบบัญชีดู ผมว่าบริษัทนี้ต้องมีปัญหาแน่ ๆ ” มู่เฉินฮ่าวกล่าวเบา ๆ
หลังจากเป่าผมเซี่ยฉิงกงจนแห้งแล้ว ทั้งสี่คนก็ออกจากโรงพยาบาล
ข้างนอกฝนยังตกอยู่ มู่เฉินฮ่าวโอบไหล่เซี่ยฉิงกง ขณะเดียวกันเซี่ยฉิงกงก็โอบเอวของเขา พร้อมกับอิงกายเข้าแนบเขา
ชายหนุ่มเดินกางร่มพร้อมกับโอบประคองหญิงสาวก้าวขึ้นรถไปด้วยกัน จากระยะไกลภาพที่เห็นแลดูสวยงามราวจิตรกรรม
ณ ตระกูลเซี่ย
เจินเมี่ยวหยูรู้สึกกังวลเล็กน้อย เธอไม่อยากให้บริษัทฮุ่ยถังเน็ตเวิร์คตกเป็นของเซี่ยฉิงกง หลังจากคิดถึงเรื่องนี้ เธอก็พยายามคิดหาวิธีที่ดีที่สุดที่จะเกลี้ยกล่อมเซี่ยเจิ้งหัว แม้ว่าเขาจะกล่าวมอบบริษัทฮุ่ยถังเน็ตเวิร์คให้เซี่ยฉิงกงไปแล้วก็ตามที
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เจินเมี่ยวหยูก็รีบคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมา พร้อมกับรีบผละออกจากห้องหลบไปยังสถานที่เงียบ ๆ แห่งหนึ่งในสวนหลังบ้านที่ซึ่งไม่ค่อยมีผู้คนผ่านไปมา
“จะทำยังไงดี ? เซี่ยฉิงกงขอบริษัทฮุ่ยถังจากไอ้แก่นั่นแล้ว”
“ทำไมคุณต้องตกใจด้วยล่ะ ? ในเมื่อเด็กนั่นอยากได้นักก็ยกให้ไปสิ คืนนี้เรามาแก้หนาวกันดีกว่า …”
***จบตอน ในเมื่ออยากได้นักก็ยกให้ไปสิ***