แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 130 ลงไม้ลงมือจริง ๆ คือยังไง ?

เซี่ยฉิงกงหันหน้าไปถาม ทว่ากลับพบสายตาที่ติดตลกของมู่เฉินฮ่าว

 

ชายหนุ่มมองปฏิกิริยาของหญิงสาวตรงหน้าอย่างขบขัน

 

ไฟล์ที่ถูกบันทึกควรเริ่มเปิดจากไฟล์แรก ๆ ก่อนไม่ใช่หรือ ?

 

นี่เธอดันเริ่มเปิดจากไฟล์สุดท้ายตามใจตัวเองเองนี่นะ

 

“ไอ้คนบ้ามู่เฉินฮ่าว เอาอะไรมาให้ฉันฟังฮะ ? หรือคุณหยิบแฟลชไดร์ทมาผิดอัน ?”

 

เซี่ยฉิงกงถามด้วยความโกรธ

 

“นี่คุณทำไมไม่ฟังให้ดี ๆ ก่อนล่ะว่า เสียงของผู้หญิงในคลิปเสียงนั่นเป็นเสียงของใคร ?”

 

เมื่อครู่เซี่ยฉิงกงไม่ได้ตั้งใจฟังจริง ๆ

 

“หมั่นโถว อาเจิ้ง พวกนายออกไปก่อน”

 

มู่เฉินฮ่าวกล่าวอย่างเฉยเมย

 

“ขอรับ นายน้อย”

 

ทั้งสองกล่าวตอบ จากนั้นก็เดินออกจากห้องโดยไม่หันกลับมามองอีกเลย

 

ชั่วขณะนั้น เซี่ยฉิงกงพลันรู้สึกว่าบรรยากาศภายในห้องแลดูแปลก ๆ พิกล คลิปเสียงที่บันทึกมานั่นฟังดูคุ้นหูอยู่เล็กน้อย ทว่าเนื้อหาที่พูดกันนั้นโจ่งแจ้งเกินไป และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงไม่ได้ตั้งใจฟังให้ดี

 

มู่เฉินฮ่าวเดินไปหยุดข้างกายเซี่ยฉิงกง หลังจากนั้นก็หย่อนกายลงนั่งข้าง ๆ เธอ เขารั้งเธอเข้ามาไว้ในวงแขนพลางเอ่ยว่า

 

“เอาล่ะ ลองฟังใหม่อีกครั้งสิ”

 

ใบหน้าของเซี่ยฉิงกงเปลี่ยนเป็นสีแดง เธอกัดฟันขณะพูดว่า

 

“คนบ้า ถ้าฉันรู้ว่าคุณหลอกแกล้งฉันเล่นล่ะก็ ฉันเอาคุณตายแน่”

 

เธอคิดว่ามู่เฉินฮ่าวจงใจหาคลิปเสียงลามกมาแกล้งเธอ

 

“ผมหรือจะกล้าแกล้งคุณน่ะ เมียจ๋า ?”

 

มู่เฉินฮ่าวยิ้มน้อย ๆ เขาส่งสายตาราวกับคนที่ไม่ว่าทำอะไรก็มีแต่ผิด ทว่าก็ไม่วายติดตลก

 

ครั้นเซี่ยฉิงกงได้ยินคำว่า ‘เมียจ๋า’ ในใจของเธอก็บังเกิดความรู้สึกแปลก ๆ ความรู้สึกหวานล้ำแทรกเข้าสู่หัวใจของเธอ หากแต่เธอก็ยังคงทำเสียงขู่ฟ่อเบา ๆ ยังคงแสร้งทำเป็นโกรธใส่

 

เธอเปิดคลิปเสียงนั่นอีกครั้ง

 

“จุ๊ จุ๊ ดูแลรักษาผิวพรรณได้ดีมากเลย เซี่ยเจิ้งหัวคงดีกับคุณมากสินะ เขาคงเต็มใจที่จะจ่ายเงินก้อนโตให้กับคุณเลยทีเดียว”

 

ครั้นตั้งใจฟังบทสนทนาที่แทบจะทนฟังไม่ได้เหล่านี้อย่างระมัดระวัง เซี่ยฉิงกง ก็จดจำได้ว่าเสียงที่เธอได้ยินเมื่อครู่นี้ก็คือเสียงของเจินเมี่ยวหยูไม่ใช่หรือ ?

 

“นี่มันอะไรกัน ? คุณได้มันมาจากที่ไหน ? ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร ?” เซี่ยฉิงกงสับสน

 

“ตอนนี้ผมยังไม่รู้ว่าชายในคลิปเสียงคือใคร แต่คลิปเสียงนี้ถูกบันทึกส่งมาจากกล้องจิ๋วในโทรศัพท์ของเจินเมี่ยวหยู ดังนั้นก็น่าจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเจินเมี่ยวหยูเมื่อคืนนี้”

 

“ไม่คาดคิดเลยว่า แม่เลี้ยงของฉันที่มักจะวางตัวดูดี สง่างาม สูงส่ง เปี่ยมด้วยคุณธรรม ลับหลังจะชอบทำเรื่องคาว ๆ หลบ ๆ ซ่อน ๆ แบบนี้ น่าสนใจมากจริง ๆ”

 

เจินเมี่ยวหยูอายุกว่าสี่สิบปีแล้ว ยังทำเรื่องแบบนี้ได้ …

 

คาดไม่ถึงจริง ๆ…

 

เซี่ยฉิงกงตะลึงงัน

 

เมื่อครู่เซี่ยฉิงกงได้ยินว่า หมั่นโถวเป็นคนแอบติดตั้งอุปกรณ์ระบุตำแหน่ง GPRS บนโทรศัพท์มือถือของเจินเมี่ยวหยู เธอจึงถามว่า

 

“แล้วคุณรู้มั้ย ว่าเมื่อคืนเจินเมี่ยวหยูไปที่ไหน ?”

 

มู่เฉินฮ่าวส่ายหน้าเอ่ยตอบว่า

 

“ยังไม่พบเลย เมื่อคืนเจินเมี่ยวหยูน่าที่จะออกจากบ้านเวลาประมาณ 8 นาฬิกา สัญญาณ GPS จับได้จนถึงสี่แยกถนนเจี้ยนกั๋ว จากนั้นก็หายไป สถานที่ที่เธอเข้าไปต้องมีการปิดกั้นสัญญาณมือถือ”

 

“สัญญาณถูกบล็อก ถ้าอย่างนั้นคุณได้คลิปเสียงพวกนี้มาได้อย่างไร ?”

 

มู่เฉินฮ่าวดีดหน้าผากเซี่ยฉิงกงเบา

 

“โง่จริง ๆ แม้ว่าสัญญาณจะถูกบล็อก ไม่สามารถส่งคลิปเสียงเหล่านี้กลับมาได้ในเวลานั้น หากแต่คลิปเสียงจะยังคงถูกเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือของเจินเมี่ยวหยู เมื่อเจินเมี่ยวหยูออกจากสถานที่นั้น และเข้าถึงสัญญาณมือถือได้ ข้อมูลก็จะถูกส่งกลับมาโดยอัตโนมัติ”

 

“นี่ แค่พูดก็ได้ ทำไมต้องลงไม้ลงมือด้วยล่ะ ?”

 

ครั้นเซี่ยฉิงกงโดนมู่เฉินฮ่าวดีดหน้าผากเข้าให้ เธอก็เกิดความรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย

 

ไม่คาดคิดว่าชายหนุ่มจะกลั่นแกล้งรังแกเธอซ้ำอีก เขากระซิบข้างหูเธอว่า

 

“แค่นี้เรียกว่าลงไม้ลงมือได้ที่ไหนกัน เดี๋ยวผมจะแสดงการลงไม้ลงมือจริง ๆ ให้คุณดูดีมั้ย ?”

 

***จบตอน ลงไม้ลงมือจริง ๆ คือยังไง ?***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset