แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 137 ในที่สุดก็รู้ว่าถูกสวมเขา

ครั้นเซี่ยฉิงกงเห็นท่าทางที่เซี่ยเจิ้งหัวแสดงออก เธอก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี ?

 

บางคนเมื่อถูกทุบตีอย่างรุนแรง ก็อาจร้องไห้ บางคนก็อาจหัวเราะ ส่วนบางคนก็อาจบ้าคลั่งไปเลย แต่ที่น่ากลัวที่สุดก็คือคนที่ไม่พูดไม่จาอะไรออกมาสักคำ

 

ในตอนนี้ การแสดงออกของเซี่ยเจิ้งหัวนั้นดูเหมือนจะเป็นเพียงความโดดเดี่ยวเล็ก ๆ ทว่าไม่ได้โกรธเหมือนเมื่อครู่ ยามนี้หัวใจของเขาคงจะสับสนว้าวุ่นไม่จบไม่สิ้น

 

ใช่..หัวใจของเซี่ยเจิ้งหัวทั้งเศร้าทั้งรันทด

 

เซี่ยฉิงกงบีบมือของมู่เฉินฮ่าวโดยไม่รู้ตัว ราวกับว่าเธอต้องการได้รับความแข็งแกร่งจากชายคนนี้ เพราะเธอไม่รู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้จะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเซี่ยเจิ้งหัว พ่อของเธอหรือไม่ ?

 

หากเธอสามารถเลือกได้ เธอขอเลือกให้เซี่ยเจิ้งหัวไม่ต้องมารับรู้เรื่องที่น่ารังเกียจเหล่านี้จะดีกว่า

 

“ฮึ ฮึ กลายเป็นว่าฉันเลี้ยงลูกสาวให้คนอื่นมาหลายสิบปีแล้วสินะ”

 

หลังจากเงียบไปเป็นเวลานาน เซี่ยเจิ้งหัวก็ถอนหายใจ ก่อนจะเอ่ยประโยคนี้ออกมา

 

ในที่สุด เซี่ยเจิ้งหัวก็เข้าใจแล้วว่า ทำไมหลังจากน่าหลานเซวี่ยตาย จู่ ๆ  เจินเมี่ยวหยูก็ปรากฏตัวในห้องของเขาพร้อมกับเซี่ยชิงฉวน

 

เธอร้องไห้ พร้อมกับบอกว่าเซี่ยชิงฉวนเป็นลูกสาวของเขา

 

และเขาก็เชื่อเธอ นับแต่นั้นเป็นต้นมา เขาก็ดูแลและรักเด็กน้อยคนนั้นโดยไร้ซึ่งข้อกังขาใด ๆ

 

“ปรากฎว่าในช่วงห้าปีนั้น เธอกับพ่อบ้านโจวฉีชวนก็อยู่กินกันมานานแล้ว”

 

แม้แต่โจวหยุนเซิน ลูกชายของพ่อบ้านโจวก็เป็นลูกชายแท้ ๆ ของเจินเมี่ยวหยู

 

เขาควายที่ถูกสวมให้ช่างใหญ่โตมากจริง ๆ

 

“ใช่.. เซี่ยชิงฉวนไม่ใช่ลูกสาวของคุณ ฮ่าฮ่า เซี่ยเจิ้งหัว คุณรู้สึกเสียใจและต้องการฆ่าฉันแล้วใช่มั้ยล่ะ ?”

 

เจินเมี่ยวหยูผู้ซึ่งคุกเข่าอยู่บนพื้นดูเหมือนจะคลั่งขึ้นมาแล้ว

 

ในปีแรกที่อยู่กับโจวฉีชวน เธอก็ให้กำเนิดโจวหยุนเซิน และเมื่อเข้าปีที่ห้าที่อยู่กินกับเขา เธอก็ให้กำเนิดเซี่ยชิงฉวน

 

เพียงแค่ว่า เธอไม่ยินดีที่คอยแอบมองเซี่ยเจิ้งหัวอยู่แต่ในมุมมืด เธอต้องการกลับบ้านสกุลเซี่ยอย่างสง่าผ่าเผย ! และทำให้เซี่ยเจิ้งหัวต้องเสียใจไปตลอดชีวิต !

 

โจวฉีชวนเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อหลายปีก่อน ตระกูลเซี่ยเห็นว่าเขาเป็นพ่อบ้านที่ขยันขันแข็ง อีกทั้งจงรักภักดีมานานหลายสิบปีดังนั้นหลังจากที่เขาลาจากโลก เซี่ยเจิ้งหัวก็ได้ส่งมอบตำแหน่งนี้ให้กับลูกชายของเขาโจวหยุนเซิน ทำให้โจวหยุนเซินเข้ารับตำแหน่งพ่อบ้านตั้งแต่อายุยังน้อย

 

หากแต่เขาไม่คาดคิดเลยว่า …

 

“งั้นเรื่องนี้ก็ไม่ควรโยนความผิดทั้งหมดมาที่คุณพ่อ ในเมื่อคุณเองก็อยู่กินกับพ่อบ้านโจวแล้วแท้ ๆ ทำไมคุณถึงยังอยากกลับมาหาคุณพ่ออีกล่ะ ?”

 

ครั้นเซี่ยฉิงกงได้ยินเรื่องราวที่เกิดขึ้น เธอก็พอวิเคราะห์เหตุการณ์ทั้งหมดได้ เรื่องราวไม่มีอะไรซับซ้อน พ่อของเธอต้องแต่งงานกับน่าหลานเซวี่ย แม่ผู้ให้กำเนิดเธอเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ เขาจำเป็นต้องเลิกรากับเจินเมี่ยวหยู ซึ่งเป็นคนรักในวัยเด็กของเขาก็เท่านั้น

 

ทุกคนต่างมีทางเลือกของตนเอง แม้จะเคยคบหากัน ทว่าเมื่อเลิกราก็ไม่เห็นต้องสร้างปัญหาให้วุ่นวายขนาดนี้ ?

 

“งั้นรึ ? แล้วทำไมฉันต้องปล่อยให้คนไร้หัวใจได้อยู่อย่างสบายด้วย เซี่ยฉิงกงแกมีคุณสมบัติอะไรที่จะพูด แกมันก็แค่คนที่ถูกทิ้งเหมือนฉัน เซี่ยเจิ้งหัวเขารู้ว่าแกอยู่ที่ไหนตั้งแต่แกอายุ 15 ปี แต่เขาไม่เคยพาแกกลับมาที่ตระกูลเซี่ย เขาปล่อยให้แกเร่ร่อนอยู่ข้างนอกนั่น แล้วแกยังอยากจะช่วยเขาอีกรึ ? ถ้าไม่ใช่เพราะตระกูลมู่ต้องการลูกสาวคนโตของตระกูลเซี่ย แกคิดว่า แกจะได้กลับมาบ้านสกุลเซี่ยมั้ย ?”

 

“แล้วไง ?”

 

“ถ้าไม่มีแก ลูกสาวของฉันก็จะได้เป็นลูกสาวคนโตของตระกูลเซี่ย !”

 

เจินเมี่ยวหยูจะไม่เห็นได้อย่างไรว่า ลูกสาวของเธอตกหลุมรักมู่เฉินฮ่าว ตั้งแต่ได้พบมู่เฉินฮ่าวครั้งแรก ลูกสาวของเธอก็ต้องการแต่งงานกับเขา ดังนั้นเมื่อตระกูลมู่เสนอที่จะใช้การแต่งงาน บรรเทาวิกฤตทางธุรกิจของตระกูลเซี่ย เจินเมี่ยวหยูก็รู้สึกมีความสุขมาก

 

น่าเสียดาย … การปรากฏตัวของเซี่ยฉิงกง ทำให้เซี่ยชิงฉวนกลายเป็นตัวตลก

 

เจินเมี่ยวหยูรู้ว่า นับจากนี้เธอไม่สามารถวางเฉยได้อีกต่อไป เธอจึงตัดสินใจทำเรื่องเลวร้ายหลายสิ่งหลายอย่าง เพื่อทำให้เซี่ยเจิ้งหัวเสียใจ เธอแอบโอนทรัพย์สินส่วนใหญ่ของกลุ่มบริษัทเซี่ย รวมถึงทรัพย์สินส่วนตัวแม้แต่บ้านพักของเซี่ยเจิ้งหัวในปัจจุบันก็ไม่มีชื่อของเซี่ยเจิ้งหัวแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่สนใจอะไรอีก

 

แม้ว่าความจะแตกในภายหลัง เธอก็สามารถหย่ากับเซี่ยเจิ้งหัวได้อย่างเปิดเผย ทั้งยังได้รับทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของเซี่ยเจิ้งหัวผู้ซึ่งต้องกลายเป็นตัวตลกของแวดวงคนดังของเมืองเซี่ยงไฮ้ !

 

***จบตอน ในที่สุดก็รู้ว่าถูกสวมเขา***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset