เจินเมี่ยวหยูกระซิบข้างหูของเซี่ยชิงฉวน เสียงของเธอเบามาก
ดังนั้นเซี่ยฉิงกง, มู่เฉินฮ่าว, เซี่ยเจิ้งหัว และคนอื่น ๆ จึงไม่ได้ยินสิ่งที่เจินเมี่ยวหยูพูด
เซี่ยเจิ้งหัวคิดเพียงว่าทั้งสองคนต้องการกล่าวคำร่ำลากันเป็นครั้งสุดท้าย เขามองเซี่ยชิงฉวนด้วยสายตาที่ดูซับซ้อน เขามองใบหน้าของเธอที่ไม่มีส่วนละม้ายคล้ายเขาเลย เขาเลี้ยงดูลูกสาวคนนี้มาตั้งแต่เด็ก เฝ้าทะนุถนอมเธอมานานหลายปี เขาเพิ่งรู้ว่า สุดท้ายแล้วเขาก็แค่เลี้ยงลูกให้คนอื่น
เธอเป็นลูกสาวของคนอื่น
โชคดีที่เขายังมีลูกสาวที่ฉลาดเฉลียว และมีความประพฤติดีอย่างเซี่ยฉิงกง ครั้นนึกถึงเรื่องนี้ เซี่ยเจิ้งหัวก็รู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย
การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันนี้ ทำให้เซี่ยชิงฉวนไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไปดี ?
สิ่งที่เจินเมี่ยวหยูพูดกับเธอเมื่อครู่ ทำให้เซี่ยชิงฉวนเอะใจ
“หนูเข้าใจแล้ว แต่คุณแม่คิดจะทำอะไร ?”
เจินเมี่ยวหยูยกยิ้มอย่างไม่เต็มใจ
“แม่ไม่เป็นไรหรอก อย่างมากก็แค่ไปนอนในคุกสักสองสามวัน หนูรีบไปหาคน ๆ นั้นนะ แล้วเขาจะมาช่วยแม่เอง”
“ตกลง คุณแม่รอก่อนนะ หนูจะไปตามเขามาช่วยคุณแม่อย่างแน่นอน”
เซี่ยชิงฉวนร้องไห้ เธอยกมือขึ้นแตะท้องของตน พร้อมกันนั้นก็หันไปมองเซี่ยฉงกง ชั่วขณะนั้นเธอก็รู้สึกเหมือนคนสิ้นหวัง
ผู้หญิงคนนี้ใช้เวลาเพียงไม่นานก็ทำให้เธอผู้ซึ่งเป็นถึงคุณหนูรองของตระกูลเซี่ยต้องตกกระป๋องกลายมาเป็นลูกสาวของพ่อบ้าน
เซี่ยชิงฉวนเข้าใจถึงฐานะที่แตกต่างกันอย่างมากระหว่างสองสถานะนี้ และนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอก็ไม่สามารถอยู่ในบ้านสกุลเซี่ยได้อีกต่อไป
เซี่ยชิงฉวนหันกลับมามองเจินเมี่ยวหยูอย่างเศร้า ๆ เธอเริ่มร้องไห้อีกครั้ง
มู่เฉินฮ่าวพูดอย่างเฉยเมย ทว่าไม่ต่างจากคำตัดสินประหารชีวิตเช่นเคย
“ได้เวลาแล้ว ส่งตัวไปที่สำนักสันติบาลเถอะ”
“ขอรับ นายน้อย”
อาเจิ้งก้าวออกไปข้างหน้า เขาแบกเจินเมี่ยวหยูเดินออกจากประตูบ้านตระกูลเซี่ยไปอย่างง่ายดาย
ครั้นเจินเมี่ยวหยูถูกพาตัวออกไป หมอซูก็ก้าวเข้ามาพร้อมกับกล่องเครื่องมือแพทย์ขนาดใหญ่
“นายน้อย นายหญิงน้อย”
หมอซูพยักหน้าแสดงความเคารพให้แก่เซี่ยฉิงกงและมู่เฉินฮ่าว
“หมอซู ในที่สุดคุณก็มาถึงแล้ว โปรดช่วยตรวจร่างกายของคุณพ่อฉันหน่อยว่าท่านมีปัญหาอะไรหรือไม่ ? ฉันได้ยินมาว่าท่านอาหารเป็นพิษ”
“ได้สิ นายหญิงน้อยไม่ต้องกังวล ก่อนหน้านี้ที่นายน้อยโทรหาฉัน เขาก็บอกแล้วว่า อาจจะอาหารเป็นพิษ ฉันจึงได้เตรียมยารักษาโรคอาหารเป็นพิษมาด้วยหลายขนานเลย”
เซี่ยฉิงกงพยักหน้าอย่างขอบคุณ พร้อมกับกล่าวว่า
“อืม ขอบคุณ”
“นายท่านเซี่ย คุณช่วยตามฉันไปที่รถพยาบาลจะได้ไหม ? ในรถมีอุปกรณ์ตรวจเลือดชนิดพิเศษ ฉันจะตรวจให้คุณเอง”
เซี่ยเจิ้งหัวพยักหน้าตอบว่า
“งั้นก็รบกวนด้วยนะหมอซู”
เช้าวันนี้เซี่ยเจิ้งหัวรู้สึกไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว เขาอาเจียนและท้องร่วง เขาคิดว่าเป็นเพราะเขากินอาหารผิดสำแดง
เขาจึงไปโรงพยาบาลพร้อมกับเจินเมี่ยวหยู และโจวหยุนเซินเพื่อเข้ารับการตรวจด้วยกัน
ผลการตรวจก็คือเซี่ยเจิ้งหัวมีอาการอาหารเป็นพิษ ทว่าเขาไม่ได้คิดอะไรมาก เขาจึงแค่กินยาและกลับมาพักที่บ้าน
หลังจากกลับมาถึงบ้าน เจินเมี่ยวหยูก็ป้อนยาให้เขา และปล่อยให้เขาพักผ่อน หากแต่ไม่คาดคิดว่า ตอนอยู่ในห้องนอน เขากลับได้ยินอะไรบางอย่างที่เขาไม่อยากได้ยินมาทั้งชีวิต
ทุกคนมาที่รถพยาบาลพร้อมกัน เพื่อรอหมอซูตรวจร่างกายเซี่ยเจิ้งหัว
หลังจากเจาะเลือดออกไปตรวจแล้ว หมอซูก็รับรายงานผลการตรวจ และอ่านรายงานนั่นอยู่เป็นเวลานาน คิ้วเรียวสวยของเธอย่นเล็กน้อย
เซี่ยฉิงกงรีบถามว่า “เป็นอะไรไป รายงานผลการตรวจของพ่อฉันเป็นอย่างไร ? ไม่ใช่อาหารเป็นพิษหรอกหรือ ?”
หมอซูส่ายศีรษะ “ในร่างกายของนายท่านเซี่ยมีไนไตรต์เป็นจำนวนมาก ดูเหมือนว่าจะกินอะไรที่ไม่สะอาดอาหารจึงเป็นพิษ … เอ่อ เมื่อวานนี้ นายท่านเซี่ยได้กินอาหารหมดอายุ หรือได้กินอาหารค้างคืนบ้างไหม ?”
ด้วยเหตุที่ตระกูลเซี่ยเป็นคนดัง ทั้งยังเป็นชนชั้นสูงเช่นกัน แน่นอนว่าพวกเขาย่อมต้องมีพ่อครัวระดับห้าดาวที่เชี่ยวชาญในการปรุงอาหารอยู่ประจำบ้าน จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะปล่อยให้เขากินอาหารค้างคืน ?
เซี่ยเจิ้งหัวส่ายศีรษะ “ไม่น่านะ เมื่อวานนี้ผมกินอาหารกลางวันกับเซี่ยฉิงกง และนายน้อยมู่ จากนั้นก็กินอาหารเย็นกับเจินเมี่ยวหยู และเซี่ยชิงฉวน อาหารเหล่านั้นล้วนปรุงจากวัตถุดิบสดใหม่ทั้งหมด”
***จบตอน ตรวจเลือดเซี่ยเจิ้งหัว***