ตอนที่ 141 โดนวางยามานานกว่าหนึ่งเดือน
“ตกลง ฉันจะไปหาคุณตอนนี้เลย”
เซี่ยชิงฉวนพยักหน้าหล็ก ๆ น้ำเสียงของเธอสั่นเทา เธอคิดว่าคนที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์จะสามารถช่วยเธอให้พ้นจากสภาพในยามนี้ได้
เซี่ยชิงฉวนได้ยินเสียงของชายคนนั้น เธอรู้สึกว่าน้ำเสียงของเขาอ่อนโยนและฟังไพเราะรื่นหู ดังนั้นก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องแย่เกินไปนักสําหรับเธอ …
เซี่ยชิงฉวนแอบกลับเข้าไปในห้องของตนเองอีกครั้ง เพื่อเก็บเสื้อผ้า หยิบเงินสด บัตรเครดิต และบัตรประชาชนของเธอติดตัวไปด้วย เธอลอบออกมาทางหน้าต่างอย่างระมัดระวัง กระทั่งที่สุดก็ย่องไปถึงประตูหลังซึ่งไม่มีใครอยู่ที่นั่น
อย่างไรเสีย เซี่ยชิงฉวนก็อาศัยอยู่ที่นี่มานานหลายสิบปี ดังนั้นเธอจึงคุ้นเคยกับทุกตารางนิ้วของบ้านสกุลเซี่ยเป็นอย่างดี เธอรู้ว่ามีทางเล็ก ๆ ตรงไหนบ้างที่จะนําเธอไปยังประตูด้านหลัง เพื่อที่จะได้ออกจากบ้านหลังนี้
ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีใครเห็นว่าเธอลอบออกจากบ้านตระกูลเซี่ยไปได้อย่างไร
อีกด้านหนึ่ง หลังจากรอมาครึ่งชั่วโมง ก็ได้รับรายงานผลการทดสอบชามน้ำเกลือ
ชามน้ำเกลือนี้มีๆนไตรท์ 0.1 กรัม
เกลือธรรมดา ๆ กับไนไตรท์นั้นแตกต่างกัน เพราะๆนไตรท์เป็นอันตรายถึงชีวิต
หลังจากที่เซี่ยเจิ้งหัวรู้ผลการทดสอบ เขาก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าพร้อมกับถอนหายใจ เขาอดไม่ได้ที่จะโกรธเจินเมี่ยวหยู หากแต่เขาเองก็ยังรู้สึกผิดอยู่
ไม่คาดคิดว่า คนที่นอนคู่เคียงเรียงหมอนกันมากว่าสิบปีจะคิดฆ่าเขาได้ลงคอจริง ๆ เขารู้สึกขมขื่นใจจุกจนพูดไม่ออก
“หมอซู โดยปกติแล้วจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าไนไตรท์จะแผลงฤทธิ์ร้าย ?” เซี่ยฉิงกงเอ่ยถามหลังจากครุ่นคิดถึงเรื่องนี้
เป็นเพราะเจินเมี่ยวหยู และเซี่ยเจิ้งหัว แต่งงานกันมาเกือบ 15 ปีแล้ว เธอเริ่มวางยาพิษนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ? นี่คงจะไม่ได้ลงมือมาตั้งแต่เมื่อสิบห้าปีก่อนหรอกใช่มั้ย ?
” หากคุณกินไนไตรท์เหล่านี้ติดต่อกันประมาณสองสัปดาห์ถึงหนึ่งเดือนก็อาจถึงแก่ชีวิตได้ แต่แพทย์ทั่วไปอาจเข้าใจผิด และวินิจฉัยว่าคุณเป็นโรคอาหารเป็นพิษ จึงสั่งจ่ายยาฆ่าเชื้อทางเดินอาหารแบบง่าย ๆ ซึ่งนั่นก็อาจทําให้ตายได้อย่างง่าย ๆ เช่นกัน” ซูเฟยครุ่นคิดก่อนจะตอบกลับ
ภายในเดือน ? หนึ่งเดือนคือเวลาที่เซี่ยฉิงกงกลับมาถึงบ้านสกุลเซี่ย และจากนั้นก็ไปที่บ้านสกุลมู่ไม่ใช่หรือ ?
เริ่มตั้งแต่ตอนนั้นเลย
เจินเมี่ยวหยูไม่ได้เป็นเพียงฆาตกรที่ส่งมือสังหารไปก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์บนสะพาน เพื่อหวังฆ่าลูกเลี้ยงเท่านั้น กลับกลายเป็นว่าแม้แต่สามีของเธอ เธอก็ยังอยากฆ่าเขาด้วย
“แล้วคุณพ่อจะเป็นอะไรไหม ?”
“ไม่เป็นไร โชคดีที่ฉันพบแต่เนิ่น ๆ หากเนิ่นช้าไปอีกไม่กี่วัน คาดว่าชีวิตของท่านอาจตกอยู่ในอันตราย ไม่ต้องกังวลนายหญิงน้อย ไว้ใจฉัน ฉันจะดูแลท่านเจ้าบ้านเซี่ยเอง แท้จริงแล้ว ตอนนี้เท่าที่ฉันตรวจดูร่างกายของท่าน…เอ่อ…พบว่าร่างกายของท่านอ่อนแอมาก จําเป็นที่จะต้องได้รับการฟื้นฟูและคงต้องฟื้นฟูอย่างเร่งด่วนด้วย…”
ซูเฟยเลือกที่จะไม่พูดออกมาให้ชัดเจน เพราะเธอเองก็ยังเป็นสาวโสดที่ยังไม่ได้แต่งงาน
พ่อของนายหญิงน้อยคนนี้ดูเหมือนจะมีอายุแค่เพียงห้าสิบกว่า… แต่ทว่าทําไมเขาถึงตายด้าน
แม้ว่า ซูเฟยจะพูดจาคลุมเครือ ทว่าเซี่ยเจิ้งหัวก็ยังหน้าแดงขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
ด้วยอายุของเจินเมี่ยวหยูในตอนนี้ เรียกได้ว่ายังคงอยู่ในวัยสาวใหญ่ไฟแรงสูง หากแต่เขากลับมีอายุมากกว่า 50 ปีแล้ว ย่างเข้าสู่ช่วงวัยชราแล้ว เขาไม่สามารถรองรับเพลิงตัณหาของเจินเมี่ยวหยูได้ ดังนั้นทุกครั้งที่เจินเมี่ยวหยูเกิดความต้องการ ร่างกายของเขากลับไม่อาจตอบสนอง น้องชายของเขาไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป
กลางดึกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เจินเมี่ยวหยูสะกิดเขาทุกคืน คืนละหนึ่งครั้ง สองครั้ง จนถึงสามครั้ง ไม่รู้ว่ากี่ครั้งเธอถึงจะพอใจเขารับไม่ไหวจริงๆ ..
เขาเหนื่อยเกินไป จึงแกล้งทําเป็นหลับไม่รู้เรื่องรู้ราว
เมื่อเป็นเช่นนั้น เจินเสี่ยวหยูก็ลุกขึ้นนั่ง เธอช่วยตัวเองอย่างไม่เต็มใจ จนทําให้ทั้งเตียงดังเอี๊ยดอ๊าด …
ใช่ นี่คือเรื่องจริง… เธอช่วยตัวเอง …
เรื่องตลกทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ทําให้ทุกคนรู้สึกอ่อนเพลียมาก โดยเฉพาะเซี่ยฉิงกงที่ทั้งเหนื่อยกายทั้งเพลียใจ
สุดท้ายความจริงมากมายก็ถูกเปิดเผยออกมา ทว่าก็ต้องมีการสูญเสียบางอย่าง
การแก้แค้นที่เธอโหยหามาโดยตลอด ดูเหมือนจะได้รับการชําระแล้ว
เจินเมี่ยวหยู ถูกนําตัวไปยังสํานักสันติบาลพร้อมด้วยหลักฐานในมือของมู่เฉินฮ่าว เฉินเสี่ยวหยูจะถูกดําเนินคดีในข้อหาฆาตกรรมและฉ้อโกงธุรกิจ นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะทําให้เจินเมี่ยวหยูติดคุกเป็นเวลาเจ็ดหรือแปดปี