แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 147 นังหมาน้อย !

แต่งก่อน…ค่อยอ้อนรัก ตอนที่ 147 นังหมาน้อย !

 

นอกจากนี้ยังมีเสียงกระเส่าในภวังค์ของความใคร่ออกมาจากริมฝีปากแดงกํา

 

ใบหน้าของเซี่ยชิงฉวนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ..

 

ผู้หญิงที่อยู่ในสายตาเธอคือคุณแม่ที่แสนสง่างามและฉลาดเฉลียวของเธอจริง ๆ งั้นหรือ ?

 

เสียงของเฮ่าหยุนหมิงที่ปรากฏในวิดีโอ

 

“ฉันเป็นอะไรกับเธอ ?”

 

เจ้านาย คุณเป็นเจ้านายของฉัน เฉินเสี่ยวหยูพร่ำเพ้อด้วยแววตาสั่นไหวและเคลิบเคลิ้ม

 

“เรียกแบบนั้นอีกสองครั้งสิ”

 

“เจ้านาย เจ้านาย…”

 

เฮ่าหยุนหมิงยกมือขึ้นโบก

 

พลันวิดีโอก็ถูกกดปิด ชายสองคนในชุดดําก็ออกไปจากห้องอย่างรู้สถานการณ์

 

ประตูบานใหญ่ปิดลงอย่างแรง และไฟที่เปิดอยู่ในห้องก็ดับลงเช่นกัน

 

เขาไม่ชอบแสงสว่าง มีเพียงการอยู่ในความมืดเท่านั้นที่ทําให้เขารู้สึกปลอดภัย

 

“ทีนี้ เธอรู้รึยังว่าควรเรียกฉันว่าอะไร ?”

 

ในขณะนี้เซี่ยชิงฉวนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เธอทั้งดิ้นรน ทั้งกรีดร้องเธอตะโกนว่า

 

“แกเป็นใครกันแน่ ? ปล่อยฉันไปนะ แกมันชั่วช้า ความสัมพันธ์ระหว่างแกกับแม่ของฉันเป็นอย่างไรกันแน่ !! แกต้องวางยาคุณแม่ !!! แกบังคับท่าน !!! ”

 

“บังคับ ?”

 

ดวงตาของเฮ่าหยุนหมิงหรี่ลงเพราะกําลังยิ้ม เขามองหญิงสาวร่างเปลือยเปล่าที่ถูกพันธนาการไว้กับพื้น

 

แม้ว่าเธอจะตั้งครรภ์ ทว่าหน้าท้องส่วนล่างของเธอก็ยังคงแบนราบอยู่ เพราะสาวไฮโซระดับเธอ ย่อมให้ความสําคัญกับการดูแลร่างกายและผิวพรรณของตนเองเป็นอย่างดี ดังนั้นเพียงมองแวบแรก เฮ่าหยุนหมิงก็ค่อนข้างพอใจพอสมควร

 

“ฉันขอบอกไว้เลยว่า ! ถ้าแกยังพอจะฉลาดอยู่บ้าง ก็รีบปล่อยฉันไปเร็ว ๆ ไม่งั้น ไม่งั้นฉันจะโทรแจ้งตํารวจ !”

 

ชายคนนั้นลุกขึ้นจากโซฟาหนังสีดําตัวใหญ่ เขาหยิบโซลามสุนัขบนโต๊ะติดมือมาด้วย เขาก้าวช้า ๆ ไปหาเซี่ยชิงฉวน ดวงตาที่หรี่แคบของเขาเป็นสีแดงและเย็นยะเยือก

 

ทันใดนั้นมือขาวซีดราวกับคนปวยก็รั้งคางของเซี่ยชิงฉวนขึ้น

 

เซี่ยชิงฉวนถูกเขาบีบคางด้วยความเจ็บปวด

 

“สัตว์เลี้ยงที่ไม่เชื่อฟัง เริ่มแรกเจ้าของจะฝึกมันก่อน แต่หากมันยังไม่เชื่อฟังอีก ก็ไม่จําเป็นที่จะต้องเก็บสัตว์เลี้ยงตัวนี้ไว้อีก เธอชื่อเซี่ยชิงฉวนใช่ไหม ? เธอจะไม่ถูกเรียกด้วยชื่อนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะชื่อของเธอติดอยู่บนป้ายประตู เมื่อครู่ที่เธอเข้ามา เธอเห็นคําว่าอะไรบ้างล่ะ ?”

 

เสียงของเฮ่าหยุนหมิงนุ่มนวลเบาสบายเฉกเช่นเคย… น้ำเสียงยังคงไพเราะ…

 

เซี่ยชิงฉวนตัวสั่นไปชั่วขณะ เมื่อครู่นี้เฮ่าหยุนหมิงได้บอกกับเธอทางโทรศัพท์ว่า ป้ายที่หน้าประตูห้องมีชื่อของเธอติดอยู่ ตอนนั้นเธอเห็นคําว่า “เสี่ยวมู่เก๊า” สามคําที่เขียนอยู่บนป้ายซึ่งเซี่ยชิงฉวนก็รู้สึกแปลก ๆ กับสิ่งนี้ว่ามันเกี่ยวข้องกับชื่อของเธออย่างไร ? เขาเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า? ( = นังหมาน้อย)

 

เขาพูดต่อว่า…

 

“เอาล่ะ ! ฉันจะให้เธอเลือกสองทาง ฉันจะส่งเธอไปหามู่เฉินฮ่าว ตอนงานเลี้ยงวันเกิดของพ่อเธอ เรื่องยาในแก้วของพี่สาวเธอ เธอเป็นคนจัดการเองทุกอย่าง เธอคิดว่าหากมู่เฉินฮ่าวรู้เรื่องนี้ จะเกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้าง ?

 

เฮ่าหยุนหมิงพลิกดูภาพถ่ายที่อยู่ข้าง ๆ เซี่ยชิงฉวนที่ละภาพ ๆ ภาพถ่ายเหล่านั้นบันทึกกระบวนการในการวางยาทั้งหมดที่เซี่ยชิงฉวนลงมือจัดการด้วยตนเอง

 

ไม่…เธอกลับไปไม่ได้ ! หากตกอยู่ในมือของเซี่ยฉิงกง เธอจะช่วยแม่ได้อย่างไร ?

 

“แล้ว…ทางเลือกที่สองคืออะไร ?”

 

เซี่ยชิงฉวนเอ่ยถามน้ำเสียงสั่น ๆ พร้อมกับกลั้นความกลัวไว้ในใจ

 

อย่างที่สองก็คือ..อยู่ที่นี่ เป็นสัตว์เลี้ยงของฉัน ฉันสามารถล้างแค้นให้เธอได้ เธอต้องการฆ่าเซี่ยเซี่ยฉิงกงไม่ใช่หรือ?”

 

แสงเย็นยะเยือกวาบผ่านดวงตาของเซี่ยชิงฉวน เมื่อนึกถึงมู่เฉินฮ่าว นัยน์ตาของเธอก็เต็มไปด้วยความเกลียดชัง

 

“สัตว์เลี้ยง …”

 

เซี่ยชิงฉวนพึมพํา พลางขมวดคิ้วยังเล็กน้อย เธอไม่ต้องการถูกส่งตัวกลับ ทั้งเธอก็ไม่ต้องการเป็นสัตว์เลี้ยงของใครที่นี่ด้วย เธอเคยเป็นคุณหนูรองของตระกูลเซี่ยนะ !!

 

ครั้นเห็นเสี่ยชิงฉวนไม่พูดอะไร เฮ่าหยุนหมิงก็ยิ้มเยาะ เขาเปิดกล่องที่อยู่ข้างกายหยิบหลอดฉีดยา และเข็มกับของเหลวขวดหนึ่งออกมา

 

“นี่มันอะไรกัน อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ …”

 

” นี่คือสิ่งที่จะทําให้เธอรู้สึกสบายขึ้น มั่นใจได้เลยว่านี้ไม่ใช่ยาปลุกอารมณ์ … เธอก็คงเคยรู้จักมันมาบ้างแหละ”

 

***จบตอน นังหมาน้อย !****

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset