แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 149 ฝันอยากเป็นครูสอนเคมี

แต่งก่อน…ค่อยอ้อนรัก ตอนที่ 149 ฝันอยากเป็นครูสอนเคมี

 

ก่อนที่หมั่นโถวจะพูดจบ เซี่ยฉิงกงก็ลุกขึ้นยืน เธอพยายามที่จะตีหมั่นโถว

 

หมั่นโถวยิ้ม ก่อนจะวิ่งหนีไป

 

“นายหญิงน้อยไม่ต้องอาย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันเจอเรื่องแบบนี้ ตอนนี้ฉันสงบใจได้มากแล้ว”

 

“ยัยหมั่นโถวเน่ามาที่นี่เดี๋ยวนี้นะ ฉันสัญญาว่าจะไม่ฆ่าเธอ”

 

ยิ่งเชี่ยฉิงกงโกรธ เธอก็ยิ่งทําตัวตลกมากขึ้น ใบหน้าสวย ๆ ของเธอแดงระเรื่อ เธอวิ่งกวดหมั่นโถวพร้อมด้วยตะเกียบสองอัน

 

อย่างไรก็ตาม หมั่นโถวเป็นคนในกองทัพ อีกทั้งทักษะของเธอก็เรียกได้ว่าแข็งแกร่ง เซี่ยฉิงกงจะตามเธอทันได้อย่างไร ?

 

ไล่จากในบ้านไปถึงนอกบ้าน แล้วก็วิ่งวนในสวนอีกหนึ่งรอบ เซี่ยฉิงกงก็หมดแรง และยืนหอบ ทว่าหมั่นโถวกลับไม่แม้แต่จะหน้าแดง หรือใจเต้นแรงเลย เธอวิ่งไปคุยกับเซี่ยฉิงกงได้อย่างสบาย ๆ

 

“นายหญิงน้อยตามฉันให้ทันสิ ถ้าตามฉันทัน ฉันจะให้นายหญิงน้อยที่ล่ะ”

 

เซี่ยฉิงกงหมดเรี่ยวแรงแล้วจริง ๆ ด้วยเหตุนี้เธอจึงยกมือขึ้นเท้าสะเอว พลางกล่าวอย่างยอมจํานน

 

“ลืมมันเถอะ ฉันไม่สนใจเธอแล้ว ฉันกลับไปกินต่อดีกว่า”

 

เธอร้องครวญด้วยความหิว

 

หลังจากพูดจบ เซี่ยฉิงกงก็หันหลังเดินกลับไปยังห้องนั่งเล่นไม่แม้แต่จะหันกลับมามองอีกเลย

 

ครั้นเห็นว่าเซียฉิงกงไม่ได้ไล่ตีเธออีก หมั่นโถวก็หยุดหนีและหันกลับมาเดินตามเซียฉิงกงเข้าไปในห้องนั่งเล่น

 

เมื่อเห็นว่าหมั่นโถวเดินตามเธอมา เชี่ยฉิงกงก็ยิ้ม รอยยิ้มแห่งชัยชนะปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ

 

“โอ๊ย ! เอวฉัน”

 

เดินไปได้เพียงครึ่งทาง เซี่ยฉิงกงก็กุมเอวตนเองพลางครางออกมาเบา ๆ

 

หมั่นโถวตกใจ นายหญิงน้อยของเธอเป็นอะไรไป

 

ทันทีที่หมั่นโถวเข้ามาใกล้ เซี่ยฉิงกงก็หันกลับมาตบก้นของหมั่นโถว จากนั้นก็ขยุ้มอีกสองครั้งด้วยท่าทางซุกซน

 

” หนีเรอะ ใครบอกให้หนีฉัน ! มาให้แม่ตีกันซะดี ๆ ฮ่า ๆ! ก้นเล็ก ๆ เห็นแล้วหมั่นไส้”

 

ครั้นเห็นว่าเธอทําสําเร็จแล้ว เซี่ยฉิงกงก็รู้สึกภาคภูมิใจหมั่นโถวยังอ่อนต่อโลกเกินไปที่จะเล่นกับเธอ !

 

“อุ้ย ! นายหญิงน้อย…น่าเกลียดจังเลย…”

 

หมั่นโถวนึกขํา นายหญิงน้อยของเธอคนนี้ บางทีก็ชอบทําตัวเหมือนกับเด็กที่ยังไม่โต …

 

เชี่ยฉิงกงกลับไปกินอาหารที่โต๊ะอาหารต่อพลางฮัมเพลงเบา ๆ และการแทะขาไก่ในคราวนี้ก็ดูจะหอมหวานเป็นพิเศษ~

 

หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ เซียฉิงกงก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก อาหารทําให้ เซี่ยฉิงกงรู้สึกว่าโลกนี้สวยงามน่าอยู่ขึ้นเยอะ

 

ตอนนี้เซี่ยฉิงกงอยากเป็นครูสอนเคมี เธอจึงสั่งให้หมั่นโถวกลับไปที่มหาวิทยาลัยของเธอในวันพรุ่งนี้ และนําหนังสือที่เธอฝากไว้กับลุงยามกลับมาให้เธอ

 

ครั้งที่เซียฉิงกงอยู่ในมหาวิทยาลัย เธออาศัยอยู่ในหอพักนักศึกษา หลังจากเรียนจบเธอก็ไม่มีที่ให้ไป ดังนั้นเธอจึงฝากหนังสือเรียนไว้กับลุงยามที่เฝ้าประตูที่มีความสนิทสนมกับเธอพอสมควร

 

เธอต้องทบทวนความรู้ในอดีต และเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ เธอรู้สึกว่าช่วงเวลาแค่เพียงไม่กี่เดือน เธอเกือบจะลืมเรื่องที่เล่าเรียนในมหาวิทยาลัยไปจนหมด ตอนนี้ถึงเวลาที่จะต้องทบทวน และเรียนรู้ใหม่อีกครั้งแล้ว

 

หลังจากที่เธอ และมู่เฉินฮาวหมั้นกันอย่างเป็นทางการ เซี่ยฉิงกงก็วางแผนที่จะเข้ารับการสัมภาษณ์ที่โรงเรียนใกล้ ๆ แถวนี้

 

ผลการเรียนในมหาวิทยาลัยของเธออยู่ในเกรด A มาโดยตลอด และชั้นเรียนเคมีของเธอก็ได้คะแนนมากกว่า 90 คะแนนตลอดทั้งปี ดังนั้นเธอจึงมีความมั่นใจว่าจะเป็นครูสอนเคมีในโรงเรียนมัธยมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ในระหว่างเรียนมหาวิทยาลัย เชี่ยฉิงกงยังไปสอนพิเศษให้กับนักเรียนมัธยมปลายหลายต่อหลายคน ซึ่งนั่นทําให้เธอมีประสบการณ์ในการสอนค่อนข้างสูง

 

เซียฉิงกงรอมู่เฉินฮ่าวกระทั่งถึงตีหนึ่ง กว่ามู่เฉินฮ่าวจะกลับมาพร้อมกับอาเจิ้ง ท่าทางของเขาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า

 

เซียฉิงกงนอนหลับไปหลายชั่วโมงในช่วงบ่าย เธอจึงไม่ได้เข้านอนก่อน เธอนั่งรอให้มู่เฉินฮาวกลับมา

 

***จบตอน ฝันอยากเป็นครูสอนเคมี***

 

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset