แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 153 รุ่นพี่หยุนเฉิน

แต่งก่อน…ค่อยอ้อนรัก ตอนที่ 153 รุ่นพี่หยุนเฉิน

 

“รุ่นพี่หยุนเฉิน ?”

 

หลังจากที่เซี่ยฉิงกงเงยหน้าขึ้นก็เห็นคนที่เข้ามาช่วยเธอ พลันเธอก็รู้สึกประหลาดใจเล็ก ๆ

 

แม้ว่าใบหน้าของชายคนนี้จะแลดูซีดเซียว ทว่าก็ยังคงมีรอยยิ้มจาง ๆ ราวกับแสงแดดในฤดูหนาว ซึ่งทําให้ผู้คนรู้สึกอบอุ่นใจ

 

เฮ่าหยุนเฉิน..เป็นรุ่นพี่ของเซี่ยฉิงกงสองปี

 

ปีแรกในมหาวิทยาลัยของเชียฉิงกง เธอมักจะชอบไปที่ห้องสมุด ทุกครั้งเธอจะเลือกตําแหน่งเดิม ๆ เพื่อนั่งอ่านหนังสือ

 

และก็ให้บังเอิญเสียทุกครั้งที่เฮ่าหยุนเฉินจะต้องนั่งตรงข้ามเธอ และอ่านหนังสือในเวลาเดียวกัน

 

หลังจากนั้น ทั้งสองก็สนิทสนมคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี

 

ทั้งคู่พูดคุยและอ่านหนังสือด้วยกันเป็นประจํา

 

แต่ทว่า หลังจากขึ้นปีสี่ซึ่งเป็นปีสุดท้าย เฮ่าหยุนเฉินกลับเดินทางไปต่างประเทศ และไม่เคยติดต่อเธออีกเลย

 

“ใช่แล้ว”

 

เฮ่าหยุนเฉินยิ้มพลางพยักหน้า เขาวางหนังสือที่เขาหยิบขึ้นมาจากพื้นกลับคืนลงในกล่อง

 

“ฉันจะช่วยเธอยกมันไปเอง !”

 

“ไม่เป็นไร พี่หยุนเฉิน ฉันยกไปเองได้ ”

 

เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใส่ใจคําพูดของเซี่ยฉิงกง เฮ่าหยุนเฉินยกกล่องขึ้นมาจากพื้นโดยไม่สนใจอะไร

 

“ไปเถอะ แม่สาวน้อย อย่าดื้อนักเลย ?”

 

เซี่ยฉิงกงเดินคู่ไปกับเฮ่าหยุนเฉิน ทั้งคู่เดินไปตามทางเดินภายในมหาวิทยาลัย การได้พบกับเพื่อนเก่าอีกครั้งทําให้เธออารมณ์ดีขึ้นมาก

 

ความประทับใจที่เธอมีต่อเฮ่าหยุนเฉินไม่ใช่ความประทับใจแบบความสัมพันธ์ชายหญิง หากแต่เป็นเพราะเธอได้พบกับเพื่อนเก่าที่ไม่ได้ติดต่อกันเป็นเวลานานมากกว่า

 

“สองปีที่ผ่านมานี้ เป็นยังไงบ้าง ?”

 

เฮ่าหยุนเฉินหันหน้ามามองเซี่ยฉิงกงด้วยดวงตาสดใส

 

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น และหลาย ๆ อย่างก็เกินความคาดหมายของเซี่ยฉิงกง

 

เซี่ยฉิงกงอ้าปากราวกับว่าเธอมีเรื่องที่ต้องการจะพูดมากมาย แต่ท้ายสุดเธอก็เลือกที่จะระงับคําพูดต่าง ๆ ไว้ และตอบไปเพียงว่า

 

“ก็ดี”

 

กว่าที่พวกเขาจะทันรู้ตัว ทั้งสองก็เดินมาถึงประตูมหาวิทยาลัย แล้วส่วนหมั่นโถวก็เข้าห้องน้ําเสร็จแล้ว และกําลังยืนรอเซี่ยฉิงกงอยู่ข้างรถ

 

ทันทีที่เห็นเซี่ยฉิงกง หมั่นโถวก็รีบวิ่งเข้าไปหา เธอเหลือบมองชายหนุ่มที่เดินมาพร้อมเซี่ยฉิงกงด้วยความรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ชายคนนี้โผล่มาจากไหนกันนะ ?

 

” หมั่นโถว นี่คือเฮ่าหยุนเฉิน รุ่นพี่ในมหาวิทยาลัยของฉัน”

 

ครั้นเห็นสายตาที่หมั่นโถวจ้องมองมา เซี่ยฉิงกงก็รีบอธิบายอย่างรวดเร็ว

 

หมั่นโถวทักทายอย่างสุภาพมาก พร้อมรอยยิ้ม

 

“สวัสดีค่ะ คุณเฮ่า”

 

รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าที่บอบบางและสง่างามของเฮ่าหยุนเฉิน เขาพยักหน้าพลางกล่าวว่า

 

“สวัสดีครับ”

 

หลังจากนั้นหมั่นโถวก็รับกล่องมาจากมือของเฮ่าหยุนเฉิน

 

“นายหญิงน้อย รีบกลับบ้านกันเถอะ ดูเหมือนฝนใกล้จะตกแล้ว”

 

เซี่ยฉิงกงเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า บนท้องฟ้าปรากฏเมฆดําประปรายดูคล้ายว่าพายุฝนกําลังจะตั้งเค้า

 

ทว่าสีหน้าของชายหนุ่มกลับเปลี่ยนแปลงไป

 

นายหญิงน้อย ? เฮ่าหยุนเฉินตกใจและสับสน

 

ครั้งนี้ที่เขากลับมาจากต่างประเทศ เป็นเพราะครอบครัวของเขากดดันเรื่องการแต่งงาน

 

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สมาชิกในครอบครัวเขาพยายามแนะนําผู้หญิงหลายคนให้เขา หากแต่เฮ่าหยุนเฉินยังคงรู้สึกว่าพวกเธอไม่ใช่คนที่เหมาะสมสําหรับเขา

 

ชั่วขณะนั้น เขาพลันนึกถึงหญิงสาวที่เขาเคยพบในมหาวิทยาลัย นั่นก็คือเซี่ยฉิงกง เธอมักจะไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดทุกวัน

 

พร้อมกันนั้น เขาก็เกิดความคิดบางอย่างขึ้นในใจ แทนที่จะแต่งงานกับผู้หญิงที่เขาไม่เคยพบเห็นหน้ามาก่อน สู้แต่งงานกับเธอซึ่งเขาคุ้นเคยจะไม่ดีกว่าหรือ ?

 

อืม … แม้ว่าฐานะของเธออาจไม่คู่ควร อีกทั้งครอบครัวของเขาก็อาจจะไม่เห็นด้วยกับเขา …

 

หากแต่ก็ไม่ใช่เรื่องสําคัญ

 

และด้วยความคิดนี้ เฮ่าหยุนเฉินจึงเดินทางกลับมาประเทศจีน

 

หลังจากกลับมาถึงบ้าน เฮ่าหยุนเฉินก็รู้สึกประหลาดใจที่พบว่า เขาไม่มีข้อมูลที่จะติดต่อเซี่ยฉิงกงได้เลย

 

เมื่อก่อนทั้งคู่พบกันในห้องสมุดราวกับนัดหมาย จึงไม่จําเป็นต้องใช้โทรศัพท์มือถือ

 

ด้วยเหตุนี้ เฮ่าหยุนเฉินจึงรู้สึกอับจนหนทาง เขาต้องการมาที่มหาวิทยาลัยเพื่อลองเสี่ยงโชคดู เขาไปหาอาจารย์ที่ปรึกษาของเซียงกง เพื่อสอบถามข้อมูลที่จะใช้ติดต่อเซี่ยฉิงกง

 

ไม่คาดคิดเลยว่าการมาถึงมหาวิทยาลัยครั้งแรกของเขาหลังจากกลับเข้าประเทศ เพียงเดินเข้ามาได้ครึ่งทาง เขาก็ได้พบกับเด็กสาวคนหนึ่งที่มีหนังสือหล่นอยู่เต็มพื้น

 

***จบตอน รุ่นพี่หยุนเฉิน***

 

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset