แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 155 แต๊ะอั้งกันกลางวันแสก ๆ

แต่งก่อน…ค่อยอ้อนรัก ตอนที่ 155 แต๊ะอั้งกันกลางวันแสก ๆ

 

หมั่นโถวพยายามที่จะสายหน้า เพื่อสะบัดทิ้งความคิดในหัวของตนเอง ขณะเดียวกันเธอก็พยายามจับพวงมาลัยแน่น ๆ

 

ตลอดทาง เธอมุ่งมั่นขับรถเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้านอย่างจริงจัง เธอต้องการให้สมองของเธอจดจ่ออยู่กับการขับรถ เพราะนั่นจะทําให้เธอไม่คิดถึงเรื่องต่าง ๆ ที่สับสนในสมอง

 

หลังจากกลับมาถึงคฤหาสน์สกุล

 

หมั่นโถวก็เปิดประตูท้ายรถ เธอช่วยเซี่ยฉิงกงยกหนังสือกล่องใหญ่เข้าไปในบ้าน

 

มู่เฉินฮ่าวและอาเจิ้งก็ดูเหมือนจะกลับมาถึงบ้านแล้วเช่นกัน ทันทีที่เห็นหมั่นโถวกําลังจะยกกล่องหนังสือ อาเจ๋งก็รีบกระวีกระวาดเข้ามาช่วยยก

 

หมั่นโถวหน้าแดง เธอกล่าวคําขอบคุณอย่างอ่อนหวาน

 

“ขอบคุณ พี่เจิ้ง”

 

“เกรงอกเกรงใจทําไมกัน ?” อาเจิ้งยกมือขึ้นโบก

 

เชี่ยฉิงกงอดไม่ได้ที่จะแซวออกมา

 

“อาเจิ้ง นายนี่ตาไวจริง ๆ เลยขนาดหมั่นโถวกับฉันเพิ่งมาถึงประตูแท้ ๆ นายกลับมารออยู่แล้ว”

 

“นายหญิงน้อย อย่ามัวล้อเล่นอีกเลย นายน้อยกําลังรอคุณอยู่ข้างในแน่ะ !”

 

ใบหน้าที่จริงจังของอาเจิ้งอดไม่ได้ที่จะเปื้อนยิ้ม

 

มู่เฉินฮ่าวกําลังรอเธออยู่งั้นหรือ ?

 

เซียฉิงกงรีบวิ่งกลับไปที่ห้อง

 

มู่เฉินฮาวกําลังนั่งดูโน้ตบุ๊กบนโซฟาภายในห้อง สายตาของเขาจดจ่อราวกับว่าเขากําลังจัดการกับกิจการสําคัญของบริษัท

 

“คุณกลับมาแล้ว !”

 

ม่เฉินฮาวเงยหน้าขึ้นมองเซียฉิงกง แววตาที่จริงจังและเย็นชาของเขาพลันอ่อนลงในทันที

 

“ ค่ะ ฉันกลับมาแล้ว”

 

มู่เฉินฮาวกวักมือเรียกให้เซี่ยฉิงกงเดินมาหา

 

ทันทีที่เซี่ยฉิงกงเดินมาถึงตัวเขา เธอก็ถูกเขารั้งเข้าไปไว้ในอ้อมแขน พร้อมกับจูบที่แก้มเบา ๆ จากนั้นเขาก็วางเธอไว้บนต้นขา พร้อมกับกอดเอวคอดของเธอไว้

 

เขากดศีรษะของเธอเข้าไปซบในอกของเขา กระทั่งเธอรู้สึกถึงความอ่อนนุ่ม

 

“โอ้ ! นี่จะทําไร จะแต๊ะอึ้งกันตั้งแต่กลางวันแสก ๆ เลยงั้นรี 2 เชื่อมั้ยว่า ฉันจะตีคุณให้ตายได้เลยทีเดียว”

 

ลมหายใจแผ่ว ๆ ปะทะหน้าอกของมู่เฉินฮ่าวจนเขารู้สึกจกจี้ ขณะที่เซี่ยฉิงกงเองก็รู้สึกอึดอัดนิด ๆ

 

ชายหนุ่มยืดอกขึ้น เอ่ยกล่าวพร้อมรอยยิ้ม

 

“ผมอยากนอนกับคุณ …”

 

เซียฉิงกง: = =

 

ครั้นเห็นเซียฉิงกงไม่ว่าอะไร มู่เฉินฮ่าวก็รีบจูบแก้มของเธออีกครั้ง

 

“ที่รัก คุณดึงดูดใจมากจริง ๆ ยกโทษให้ผมด้วยนะ”

 

“หึ ในเมื่อคุณรู้ตัวว่าผิด เช่นนั้นคืนนี้ก็นอนที่โซฟาแล้วกัน …”

 

“เอาล่ะ ผมไม่ล้อคุณเล่นแล้ว ผมมีบางอย่างอยากจะบอกคุณ วันนี้ผมพยายามตามหาที่อยู่ของเซี่ยชิงฉวน”

 

“ลืมมันเถอะ ฉันไม่ต้องการตามหาเซียชิงฉวนอีกต่อไปแล้ว ปล่อยเธอไปเถอะ อย่างไรเสีย เงินเมียวหยูก็ถูกจับได้แล้ว ฉันไม่อยากทําให้เซี่ยชิงฉวนต้องมีปัญหา”

 

“ผมรู้ว่า คณไม่ต้องการสร้างปัญหาให้เซี่ยชิงฉวน แต่ผมต้องหาที่อยู่ของเธอให้พบให้ได้ ถึงกระนั้น แม้ว่าเครือข่ายข่าวกรองของเราจะได้ทําการตรวจสอบข้อมูลดูแล้ว หากกลับไม่พบเบาะแสของเซี่ยชิงฉวนเลย วันนี้เราได้ตรวจสอบถนนทั้งหมดที่นําไปสู่เมืองอื่น ๆ ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ทั้งรถไฟความเร็วสูง และเครื่องบินต่างก็ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเชี่ยซิงฉวนเลย”

 

ดูเหมือนเธอจะมลายหายไปจากเมืองนี้อย่างฉับพลัน

 

เครือข่ายข่าวกรองของสกุลมู่นั้นมีขนาดใหญ่มาก เซียฉิงกงรู้ดีว่าหากพวกเขาไม่สามารถตามหาคนพบ นั่นแสดงว่าต้องมีบางอย่างที่ผิดปกติ

 

“แล้วการเฝ้าระวังในตัวเมืองล่ะ”

 

” หลังจากตรวจสอบแล้วเราพบจุดบอดที่ทางแยกด้านตะวันออกของเมืองเก่าซึ่งเป็นจุดบอดสําหรับการเฝ้าระวัง เธออยู่ในสถานที่นั้นครู่หนึ่งก่อนจะหายตัวไป”

 

” แปลกจริง…”

 

ใช่ เรื่องนี้แปลกจริง ๆ

 

ในขณะที่พูด มู่เฉินฮ่าวก็บีบมือที่อ่อนนุ่มราวไร้กระดูกของเซียฉิงกงไปด้วย

 

” คําตัดสินของเงินเมียวหยูก็ออกมาแล้วนะ ทุกอย่างเป็นไปตามหลักฐานที่มี”

 

“แล้วคุณพ่อรับทราบรึยัง ?”

 

เธอเป็นห่วงเรื่องอารมณ์ของเซี่ยเจิ้งหัวเป็นสําคัญ อย่างไรเสียเงินเมี่ยวหยูกับเขาก็อยู่กินกันมานานหลายสิบปีแล้ว เป็นสามี-ภรรยากันหนึ่งวันก็เหมือนผูกพันกันร้อยวัน เธอเชื่อว่าเซี่ยเจิ้งหัวจะต้องเจ็บปวดมาก

 

“คุณพ่อเข้าใจดีว่า การกระทําของเงินเมี่ยวหยูนั้นมีความผิดฐานฆาตกรรมโดยเจตนา เดิมทีเธอต้องรับโทษประหารชีวิต หรือไม่ก็จําคุกตลอดชีวิต หรืออย่างน้อยก็จําคุกมากกว่า 10 ปี แต่เพราะคุณพ่อของคุณบอกว่าเขาเข้าใจเธอดี เขาจึงได้ให้การที่เป็นประโยชน์กับเธอ และด้วยดุลยพินิจของศาล วันนี้คําตัดสินดังกล่าวจึงออกมาว่าเธอถูกตัดสินจําคุก 7 ปี และถูกลิดรอนสิทธิ์ทางการเมือง 2 ปี”

 

นี่คือจุดจบที่ดีที่สุด

 

***จบตอน แต๊ะอั้งกันกลางวันแสก ๆ ***

 

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset