แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 17 เสพติดในการกลั่นแกล้งเธอ

“ผมมาดูคู่หมั้นกิน มีปัญหาอะไรรึ ?”

 

มู่เฉินฮ่าวถามกลับ

 

“ใครเป็นคู่หมั้นของคุณ ? ใครจะแต่งงานกับคุณ ?”

 

“จุ๊ ๆ คุณหนูเซี่ย คุณนี่มืออาชีพด้านการล่อลวงผู้ชายมาติดกับจริง ๆ  คุณจงใจทำเสียงดังล่อผมมาที่นี่ เพื่อโชว์ทักษะการทำอาหารตามแบบฉบับภรรยา และแม่ที่ดีมิใช่หรือ ?”

 

มู่เฉินฮ่าวแตะคาง รอยยิ้มเย้ยหยันพลันปรากฏที่มุมปาก นัยน์ตาที่เฉียบคม และแจ่มชัดของเขาเผยให้เห็นถึงร่องรอยของความรังเกียจ

 

เขาไม่สามารถเดาได้เลยว่าผู้หญิงคนนี้จะเล่นกลอุบายแบบใดกับเขา ?

 

ล่อลวงผู้ชายมาติดกับ ? จงใจทำเสียงดัง ? หมายถึงกระถางต้นไม้ที่เธอเผลอเตะไปนั่นน่ะหรือ ?

 

ในเวลานี้ มีคำเพียงไม่กี่คำที่ผุดขึ้นในความคิดของฉิงกง

 

นี่..คุณบ้าหรือเปล่า ?

 

ฉิงกงเริ่มฉุน เธออดไม่ได้ที่จะใช้มือข้างหนึ่งคว้าคอเสื้อของมู่เฉินฮ่าว

 

“มู่เฉินฮ่าว คุณอย่าได้หยิ่งยโสนัก ฉันหิว ฉันก็แค่มาที่ห้องครัวเพื่อหาอะไรกินก็เท่านั้น”

 

มู่เฉินฮ่าวจับมือของเซี่ยฉิงกง จากนั้นก็ตวัดร่างของเซี่ยฉิงกงมาไว้ในอ้อมแขนของตน

 

ลมหายใจอุ่น ๆ ของมู่เฉินฮ่าวกระทบใบหูของเซี่ยฉิงกง

 

เธออยากดิ้นให้หลุดพ้นจากพันธนาการ ทว่าความแข็งแรงของเด็กสาวตัวเล็ก ๆ อย่างเธอ มีหรือจะหลุดพ้นออกมาได้ ?

 

เธอรู้สึกว่ามู่เฉินฮ่าวชอบรังแกเธอ ไม่สิเรียกว่าเสพติดในการกลั่นแกล้งเธอมากกว่า

 

“คุณปล่อยฉันนะ ! คิดจะทำอะไร ! ฉวยโอกาส ! ลวนลามสุภาพสตรี !”

 

ฉิงกงตะโกนลั่น ๆ ขณะเดียวกันก็พยายามอย่างหนักที่จะดิ้นให้หลุดพ้นจากอ้อมกอดของมู่เฉินฮ่าว

 

“ฉวยโอกาส ? ลวนลามสุภาพสตรี ? คุณกล้าปรากฏตัวในสถานที่แบบผับคราวน์นั่น คุณยังกล้าบอกว่า ตัวเองเป็นสุภาพสตรีอีกงั้นหรือ ?…สาวน้อย..ผมไม่อยากเชื่อเลยจริง ๆ … “

 

เซี่ยฉิงกงรู้สึกกังวลมาก เธอสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่อันตราย หรือเป็นได้ว่ามู่เฉินฮ่าวคิดจะทำมิดีมิร้ายเธอในห้องครัว ?

 

ไม่รู้ว่าเซี่ยฉิงกงไปเอาความแข็งแรงมาจากไหน เธอกระแทกมู่เฉินฮ่าวจนผงะ จากนั้นก็ฉวยโอกาสที่เขายังไม่ทันตั้งตัวรีบวิ่งกลับไปที่ห้องของตนโดยไม่หันกลับมามองอีก

 

ด้วยกลัวว่ามู่เฉินฮ่าวจะตามมา เธอจึงล็อคประตูห้องอย่างแน่นหนา

 

ครั้นคิดว่าตัวเธอต้องหมั้นกับคนที่น่าขยะแขยงเช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็รู้สึกปวดหัวอย่างแรง

 

หากแต่วันนี้เธอเหนื่อยมาก เธอจึงรีบอาบน้ำ และขึ้นนอนบนเตียงเจ้าหญิงอันแสนสบาย เพียงไม่นานเซี่ยฉิงกงก็หลับฝันหวาน

 

เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เซี่ยฉิงกงยังคงนอนฝันดี จู่ ๆ เธอก็ถูกสาวใช้ปลุกให้ลุกขึ้น เธอตกใจเมื่อเห็นใบหน้าที่ขยายขนาดใหญ่ขึ้นของสาวใช้คนหนึ่งปรากฏขึ้นต่อหน้า

 

ฉัน … เมื่อคืนฉันไม่ได้ล็อคประตูงั้นเหรอ ? นี่พวกเธอเข้ามาได้ยังไง ? …

 

“คุณหนู ได้เวลาตื่นนอนแล้วค่ะ พวกเราเข้ามาช่วยคุณหนูแต่งตัว จะได้ลงไปรับประทานอาหารเช้า จากนั้นคุณชายมู่ก็จะพาคุณหนูกลับบ้าน”

 

สาวใช้ยิ้ม ขณะพูดกับเซี่ยฉิงกง

 

เซี่ยฉิงกงขยี้หัวตนเองที่รู้สึกปวดขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อการล้างแค้นแล้ว เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหมั้นกับมู่เฉินฮ่าว ทว่าเธอจะไม่ยอมแต่งงานจริง ๆ ในเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว รอให้ตระกูลเซี่ยฟื้นตัว และเธอสามารถไขปริศนาการตายของแม่บังเกิดเกล้าได้ก่อนเถอะ …

 

วันใดที่ตระกูลเซี่ยรุ่งเรืองขึ้นมาอีกครั้ง เธอก็จะขอถอนหมั้นอย่างไม่ต้องกังวลใด ๆ !

 

สาวใช้เตรียมชุดให้เซี่ยฉิงกง หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว เธอก็เดินลงมาชั้นล่าง

 

ภายในห้องอาหารชั้นล่าง เซี่ยเจิ้งหัว, เจินเมี่ยวหยู และเซี่ยชิงฉวน นั่งประจำตำแหน่งแล้ว

 

แม้แต่มู่เฉินฮ่าวเองก็มานั่งรออยู่ประจำที่ของเขาแล้ว อาหารเช้าก็วางอยู่บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว เว้นแต่มู่เฉินฮ่าวยังไม่มีใครเริ่มรับประทาน

 

ทันทีที่เห็นเซี่ยฉิงกงเดินลงมาชั้นล่าง เซี่ยเจิ้งหัวก็ยิ้มออก

 

“ฉิงกง ลูกมาทานอาหารเช้าเร็วเข้า หลังอาหารเช้าแล้ว เราจะไปบ้านสกุลมู่พร้อมกับคุณชายมู่”

 

ฉิงกงอยากจะกลอกตามองบนอย่างเอือม ๆ ให้พ่อของเธอจริง ๆ พ่อจำเป็นต้องเตือนเธอเรื่องนี้ตลอดเวลาไหม ?

 

***จบตอน เสพติดในการกลั่นแกล้งเธอ***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset