แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 24 มีดเปื้อนเลือด

เซี่ยฉิงกงรอให้มู่เฉินฮ่าวมาปลดเชือกให้เธอ แต่ก็พบว่ามู่เฉินฮ่าวไม่ได้เคลื่อนไหวใด ๆ

 

แล้วเธอก็อดไม่ไหว ผู้ชายคนนี้มาที่นี่เพื่อดูการแสดงแค่นั้นใช่ไหม ?

 

“ทำไมไม่รีบแก้เชือกให้ฉันสักทีล่ะ ?”

 

“จุ๊ จุ๊ ทำไมดุนักล่ะ ?”

 

“นี่คุณกำลังกวนฉันใช่ไหม หา..!”

 

เธอไม่รู้ว่าทำไมเวลาที่เธอกับมู่เฉินฮ่าวคุยกันทีไร เธอเป็นต้องรู้สึกโกรธเขาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุกที

 

ครั้นเห็นเซี่ยฉิงกงหงุดหงิดถึงขีดสุด มู่เฉินฮ่าวก็อารมณ์ดีขึ้น มุมปากของเขาอดไม่ได้ที่จะยกโค้งขึ้นเล็กน้อย

 

แล้วเขาก็อ้อมมาด้านหลังเซี่ยฉิงกง ช่วยปลดเชือกที่ผูกไว้ด้านหลังเก้าอี้ไม้ให้เธอ

 

เมื่อครู่เธอไม่อาจระบายอารมณ์โกรธออกมาได้ ! ดังนั้นทันทีที่เชือกถูกปลดออก เซี่ยฉิงกงก็หมุนตัวหมายจะก้าวไปเหยียบรองเท้าของมู่เฉินฮ่าว เพื่อให้เขาได้ลิ้มรสรองเท้าส้นสูงของเธอ

 

ทว่าทันทีที่เธอหันกลับมา แสงสีขาวก็สว่างวาบขึ้นที่ปลายหางตาของเซี่ยฉิงกง

 

มีด !..

 

เฉินเหวินกังที่นอนอยู่บนพื้นจ้องแผ่นหลังของมู่เฉินฮ่าวด้วยสายตาเย็นชาไม่ต่างจากงูพิษ ไม่รู้ว่าเขาหยิบมีดผลไม้ที่เพิ่งหล่นได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาพุ่งตัวมาพร้อมกับมีดหวังแทงเข้าที่แผ่นหลังของมู่เฉินฮ่าว

 

ไม่นะ ถ้าเฉินเหวินกังแทงมีดเข้ามาลักษณะนี้ ชีวิตของคุณชายตระกูลมู่จะต้องหลุดลอยอย่างแน่นอน

 

ไม่รู้ว่าเซี่ยฉิงกงไปเอาความกล้ามาจากไหน เธอกระโจนออกไปบังมู่เฉินฮ่าวไว้ทันที

 

มู่เฉินฮ่าวผงะ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเซี่ยฉิงกงถึงได้ผลุนผลันทำเช่นนั้น เขาเกือบจะหัวเราะออกมา หากไม่บังเอิญว่าสังเกตเห็นเฉินเหวินกังที่อยู่ข้าง ๆ เธอเสียก่อน

 

เฉินเหวินกังผู้ซึ่งกำลังนอนอยู่บนพื้นเมื่อครู่ มาบัดนี้ได้กุมมีดพุ่งเข้าแทงเซี่ยฉิงกงด้วยแรงเฮือกสุดท้าย

 

มู่เฉินฮ่าวสังเกตเห็นความผิดปกติของเฉินเหวินกัง เขาตกใจ รีบกอดเซี่ยฉิงกงเบี่ยงตัวหลบมีด

 

หากแต่สายเกินไปเสียแล้ว มีดของเฉินเหวินกังยังคงกรีดลงบนแขนของเซี่ยฉิงกงกระทั่งเกิดรอยแผล

 

เลือดค่อย ๆ ไหลซึมออกมา … จนน่าตกใจ …

 

เจ็บ..เซี่ยฉิงกงรู้สึกอย่างเดียว คือ..เจ็บ …

 

“เซี่ยฉิงกง”

 

มู่เฉินฮ่าวเรียกชื่อของเซี่ยฉิงกง เขารีบใช้มือของเขากดบาดแผลของเซี่ยฉิงกงไว้อย่างรวดเร็ว

 

“บ้าเอ๊ย ! ฉันเจ็บจะตายแล้ว…”

 

หยาดน้ำตาไหลคลอนัยน์ตาของเซี่ยฉิงกงเพราะความเจ็บปวด

 

ครั้นเห็นใบหน้าเล็ก ๆ ของเซี่ยฉิงกงซีดไร้สีเลือด เม็ดเหงื่อซึมบนหน้าผาก การแสดงออกที่เจ็บปวดแบบนั้นของเธอ ทำให้แววตาของเขาแสดงชัดถึงความตื่นตระหนกที่มีอยู่ในใจ

 

แล้วประตูโกดังใต้ดินก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง

 

อาเจิ้งเดินเข้ามาพร้อมด้วยกลุ่มคนในชุดสูทสีดำ ชายสองคนในกลุ่มนั้นหิ้วตัวชายอ้วน และผอมด้วยมือข้างเดียวมานั่งคุกเข่าอยู่บนพื้น

 

เมื่อครู่นี้ จิ๊กโก๋สองคนนี่เห็นว่าสถานการณ์เลวร้ายก็ต้องการที่จะหลบหนี ทว่าคนของอาเจิ้งก็จับพวกเขากลับมาได้

 

“นายน้อย นายหญิงน้อย พวกคุณเป็นอย่างไรบ้าง !”

 

อาเจิ้งก้าวเข้ามาในโกดัง เขาเห็นเซี่ยฉิงกงและมู่เฉินฮ่าวนั่งอยู่บนพื้น ทั้งเนื้อทั้งตัวของมู่เฉินฮ่าวเต็มไปด้วยเลือด เขาก็ตกใจกลัว

 

มู่เฉินฮ่าวส่ายหน้า ใบหน้าที่เย็นชาของเขาเปลี่ยนเป็นขุ่นมัว เขาเหลือบไปมองเฉินเหวินกังที่กำลังคลานอยู่บนพื้น จากนั้นเขาก็อุ้มเซี่ยฉิงกงขึ้น

 

“ฉันไม่เป็นไร พวกนายจัดการที่นี่ให้เรียบร้อย ฉันจะพาเธอไปโรงพยาบาลก่อน”

 

“ขอรับ !”

 

จากนั้นมู่เฉินฮ่าวก็อุ้มเซี่ยฉิงกงที่ได้รับบาดเจ็บเดินออกจากโกดัง เขาก้าวเข้าไปในรถเมอร์ซิเดสเบนซ์ เอส 600 ของเขา

 

เอส 600 เดินเครื่อง ก่อนจะพุ่งทะยานออกไปท่ามกลางเสียงเครื่องยนต์ที่คำรามกระหึ่ม

 

มู่เฉินฮ่าวขับรถด้วยมือข้างเดียว เขาให้เซี่ยฉิงกงนอนซบบนตักของเขา พลางโอบเธอไว้ด้วยมืออีกข้างหนึ่ง เพื่อให้เซี่ยฉิงกงรู้สึกสบายใจขึ้น

 

เซี่ยฉิงกงรู้สึกว่าความเจ็บปวดค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนแทบทนไม่ไหว

 

ทุกคนที่ได้รับบาดเจ็บต่างรู้ดีว่า ตอนที่เจ็บปวดที่สุดไม่ใช่ตอนที่ถูกกรีด  ทว่าเป็นช่วงเวลาหลังจากนั้นต่างหาก นั่นแหละคือความเจ็บปวดที่แท้จริง

 

“นี่..เธอยังไม่ตายใช่มั้ย ?”

 

มู่เฉินฮ่าวผู้ซึ่งกำลังขับรถมองเซี่ยฉิงกงพร้อมกับเอ่ยถาม

 

***จบตอน มีดเปื้อนเลือด***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset