แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 25 นายหญิงน้อย

เซี่ยฉิงกงแทบจะอาเจียนเป็นเลือดเมื่อได้ยิน เธอกลอกตาขึ้นมองมู่เฉินฮ่าว จากนั้นก็ขยับตัวเล็กน้อย และเลือกตำแหน่งที่สบายบนต้นขาเรียวของมู่เฉินฮ่าว

 

“พูดจาดี ๆ แล้วจะตายรึไง ? ปากสุนัขย่อมไม่คายงาช้างออกมา** ถ้าไม่ใช่เพื่อช่วยคุณฉันจะโดนแทงไหม ?” (**อุปมาว่าคนเลวย่อมไม่ดูสิ่งที่ดี)

 

การเคลื่อนไหวครั้งนี้ทำให้มู่เฉินฮ่าวหายใจติดขัด เขารู้สึกร้อนวาบในท้องน้อย ผู้หญิงคนนี้กำลังทำอะไร … เจ็บขนาดนี้ยังต้องการยั่วยวนเขาอีกรึไง ?

 

“ผมขอให้คุณช่วยรึไง ?”

 

ครั้นได้ยินคำพูดกวนโทสะของมู่เฉินฮ่าว เซี่ยฉิงกงก็หมั่นเขี้ยว แต่เธอก็ไม่มีทางเลือก นอกจากหลับตาลงด้วยความโกรธและหยุดพูด

 

“เซี่ยฉิงกง ทำไมไม่พูด ? ทำไมไม่เถียงต่อล่ะ ? ปกติคุณปากเก่งมากไม่ใช่เหรอ ?”

 

มู่เฉินฮ่าวยังคงขับรถ หากแต่ก็ลอบก้มลงมองเซี่ยฉิงกง

 

เธอยังคงนอนอยู่บนต้นขาของมู่เฉินฮ่าว และจากมุมมองของมู่เฉินฮ่าว เขาก็สามารถมองลอดผ่านช่องว่างลึก กระทั่งเห็นความเรียบลื่นขาวเนียนที่น่าลุ่มหลง …

 

มู่เฉินฮ่าวสะบัดศีรษะอย่างแรง นัยน์ตาของเขาพร่าเลือนจากอารมณ์ปรารถนา ปกติกับผู้หญิงแล้วเขามีความสามารถในการควบคุมตนเองอย่างยอดเยี่ยม แต่เขาไม่รู้ว่าทำไมหลังจากได้เผชิญหน้ากับเซี่ยฉิงกง เขามักเป็นต้องหวั่นไหวได้ทุกที

 

มู่เฉินฮ่าวขับรถเร็วมาก เขาใช้เวลาเพียงไม่ถึง 20 นาทีก็ถึงโรงพยาบาล

 

โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งภายใต้การบริหารงานของตระกูลมู่ เพื่อคนของตระกูลมู่

 

โดยทั่วไปจะรับเฉพาะสมาชิกของตระกูลมู่ ญาติและมิตรสหายของคนตระกูลมู่เท่านั้น

 

หลังจากมาถึง มู่เฉินฮ่าวก็ช่วยพยุงเซี่ยฉิงกงลงจากรถ ทำให้เซี่ยฉิงกงรู้สึกเจ็บแปลบที่แขนเพิ่มขึ้น สีหน้าของเธอจึงดูไม่ค่อยดีนัก

 

มู่เฉินฮ่าวกะพริบตา เขาอุ้มเซี่ยฉิงกงทันที

 

เซี่ยฉิงกงสะดุ้ง

 

“คุณปล่อยฉันลง ฉันเดินเองได้”

 

“อย่าขยับ”

 

คำง่าย ๆ สองคำนี้ ทำให้เซี่ยฉิงกงหุบปาก ไม่ปฏิเสธอะไรอีก

 

สีหน้าของชายหนุ่มแลดูจริงจัง ทั้งแสดงอำนาจเหนือกว่า ซึ่งส่งผลให้เธอไม่อาจโต้แย้งใด ๆ ได้

 

ครั้นเห็นเซี่ยฉิงกงไม่ต่อต้านอีกต่อไป มู่เฉินฮ่าวจึงอุ้มเซี่ยฉิงกงก้าวเข้าไปในโรงพยาบาล

 

“สวัสดี คุณชายมู่ คุณหมอซูรออยู่ในห้องแล้วค่ะ”

 

หลังจากก้าวเข้าประตู พยาบาลก็รีบก้าวออกมาต้อนรับ พร้อมกับสอบถามอาการของเซี่ยฉิงกง

 

อาเจิ้งได้โทรมาที่โรงพยาบาลก่อนหน้านี้แล้ว เขาแจ้งว่ามู่เฉินฮ่าวกำลังจะมา เมื่อได้รับคำสั่งนั้น โรงพยาบาลก็เตรียมการทุกอย่างไว้ล่วงหน้าแล้ว

 

หมอที่ชื่อซูเฟย อายุประมาณ 30 ปี เธอทั้งสวย ทั้งใจดี เธอเป็นหมอที่ดีที่สุดในโรงพยาบาลเอกชนแห่งนี้ เธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแพทย์ชั้นนำของโลก มหาวิทยาลัยแพทย์โลมาลินดา  เมื่อเธอยังเด็ก พ่อและแม่ของเธอได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ตระกูลมู่จึงมอบทุนการศึกษาให้เธอไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยแพทย์ในแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากเรียนจบ เธอก็กลับมาประเทศจีน และเพื่อตอบแทนตระกูลมู่ เธอจึงมาทำงานอยู่ในโรงพยาบาลเอกชนของตระกูลมู่แห่งนี้

 

หลังจากซูเฟยได้รับสายของอาเจิ้ง เธอก็ตระเตรียมความพร้อมทุกอย่าง นอกจากนี้เธอยังต้องการเห็นด้วยว่าใครกันนะ เป็นคนที่จะแต่งงานกับมู่เฉินฮ่าวในตำนาน ?

 

ครั้นเห็นมู่เฉินฮ่าวอุ้มเซี่ยฉิงกงเข้ามา ซูเฟยก็กะพริบตาด้วยความประหลาดใจ ทว่าก็กลับมาสงบได้ในทันที

 

เธอไม่เคยเห็นมู่เฉินฮ่าวอุ้มผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลย

 

“นายน้อย คุณนาย เอ่อ.. นายหญิงน้อย เกิดอะไรขึ้นกับนายหญิงน้อยคะ ?”

 

“เสี่ยวเฟย เธอโดนแทงที่แขน คุณช่วยดูเธอหน่อย”

 

หลังจากที่มู่เฉินฮ่าวก้าวเข้ามา เขาก็วางเซี่ยฉิงกงลงบนเก้าอี้

 

เซี่ยฉิงกงยังไม่ค่อยชินกับคำว่า ‘นายหญิงน้อย’ เลยรู้สึกแปลก ๆ ? หลังจากหันไปมองมู่เฉินฮ่าวแล้ว จิตใจของเธอก็เริ่มล่องลอย

 

มือและเท้าของซูเฟยสะอาด อีกทั้งประณีตมาก ซูเฟยสวมหน้ากากทันที และเริ่มฆ่าเชื้อที่แขนของเซี่ยฉิงกง

 

***จบตอน นายหญิงน้อย***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset