แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 40 รอสามีกลับมากินข้าว

หลังจากพูดจบ เซี่ยฉิงกงก็ไม่รอให้เซี่ยชิงฉวนตอบคำ เธอก้าวออกจากห้องนอนตรงไปที่สวน

 

เซี่ยฉิงกงบอกให้สาวใช้นำเก้าอี้นอนไปจัดวางในสวน เพื่อให้เธอใช้งีบ

 

ครั้นเซี่ยฉิงกงตื่นขึ้น เซี่ยชิงฉวนก็ไม่อยู่ที่นั่นแล้ว

 

เธอถามสาวใช้ก็ได้คำตอบว่า หลังจากที่เซี่ยชิงฉวนเยี่ยมชมห้องพักของเธอเสร็จ ก็รีบแก้ตัวว่าต้องกลับไปทำธุระด่วนที่ตระกูลเซี่ยแล้วก็จากไป

 

“หมั่นโถว นายน้อยของเธอจะกลับมาเมื่อไหร่ ?”

 

เซี่ยฉิงกงยืดอกคลายกล้ามเนื้อเผยให้เห็นรูปร่างที่สวยงามของเธอ

 

เธอนอนหลับไปเป็นเวลาสามชั่วโมง การหลับนานขนาดนี้เป็นเวลาที่เพียงพอสำหรับเซี่ยชิงฉวนในการก่ออาชญากรรม

 

“นายน้อยจะกลับมาตอนรับประทานอาหารเย็นค่ะ”

 

สาวใช้คนนี้คอยดูแลเซี่ยฉิงกงตลอดสองสามวันที่ผ่านมา

 

และเป็นสาวใช้คนเดียวกับที่เซี่ยฉิงกงบอกให้ไปหาเสื้อผ้ามาให้เธอในวันนั้น  ชื่อของเธอคือ ลู่หมั่น และมีชื่อเล่นว่า ‘หมั่นโถว’

 

ตอนที่เซี่ยฉิงกงถามชื่อของสาวใช้นั้น เธอกำลังจิบน้ำเปล่าอยู่เต็มปาก ทันทีที่ได้ยินชื่อ ‘หมั่นโถว’ เธอก็พ่นน้ำออกมาเต็มหน้าสาวใช้

 

หมั่นโถวบอกว่า เธอเป็นเด็กกำพร้า และเป็นลูกบุญธรรมของตระกูลมู่มาตั้งแต่เธอยังเด็ก ตอนเด็ก ๆ เธออ้วนมาก และชอบกินหมั่นโถวมาก ๆ จึงได้รับฉายานี้ และเธอก็ใช้มันมากว่าสิบปีแล้ว

 

เซี่ยฉิงกงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ เด็กผู้หญิงอายุ 18 ปีถึงจะโตเป็นสาวแล้ว  หากต่อไปเมื่อโตกว่านี้หมั่นโถวจะต้องสวยมากแน่ ๆ

 

เซี่ยฉิงกงมารู้ในภายหลังว่า หลังจากที่ตระกูลมู่รับหมั่นโถวเป็นลูกบุญธรรม หมั่นโถวก็ได้รับการฝึกพิเศษในฐานะทหารหญิงหน่วยรบพิเศษเป็นเวลาถึงเจ็ดปี ความขมขื่น หยาดเหงื่อ และหยาดน้ำตาไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะสามารถทนรับได้ง่ายดายนัก

 

แล้วก็เป็นไปตามที่หมั่นโถวพูด มู่เฉินฮ่าวกลับมาในเวลารับประทานอาหารค่ำ

 

ครั้นเห็นเซี่ยฉิงกงนั่งรอเขาอยู่ที่โต๊ะอาหารแล้ว และยังไม่ได้เริ่มกินอาหารใด ๆ ในหัวใจของมู่เฉินฮ่าวก็รู้สึกอบอุ่น

 

ชั่วขณะนั้น เขาพลันรู้สึกดีที่พบว่ามีคนรอเขาอยู่ที่บ้าน

 

หากแต่ปากของเขากลับเอ่ยออกไปอย่างไม่น่าให้อภัยว่า

 

“จุ๊ จุ๊ คุณหนูเซี่ยกำลังรอสามีกลับบ้านเพื่อกินข้าวด้วยกันหรือจ้ะ ?”

 

เซี่ยฉิงกงกวาดตาไปมองมู่เฉินฮ่าว เธอพูดอย่างโกรธ ๆ ว่า

 

“อย่าหลงตัวเองนักเลย ฉันไม่ได้รอคุณกลับมากินข้าวพร้อมกันสักหน่อย”

 

ตอนที่มู่เฉินฮ่าวกำลังประชุมคณะกรรมการบริษัท เขาก็ได้ข่าวว่าเซี่ยฉิงกง ถามถึงเขา ว่าวันนี้เขาจะกลับบ้านกี่โมง ?

 

“โอ้ ! ไม่ได้รองั้นเหรอ? งั้นสงสัยว่าอาหารที่พ่อครัวบ้านมู่ปรุงให้นั้นจะไม่ตรงตามความประสงค์ของคุณหนูเซี่ยล่ะสิ ?”

 

“เอาล่ะ มู่เฉินฮ่าว ถ้าคุณไม่กวนโมโหฉัน คุณจะตายรึไง”

 

เซี่ยฉิงกงพูดอย่างอดไม่ได้

 

ทำไมนายน้อยมู่คนนี้ชอบยั่วโมโหเธอจัง ?

 

“นายหญิงน้อย นั่นหมายความว่าคุณยอมรับว่า คุณกำลังรอนายน้อยกลับบ้าน เพื่อมารับประทานอาหารเย็นพร้อมกับคุณใช่ไหม ?”

 

อาเจิ้งที่อยู่ข้าง ๆ เผลอพูดมาก ทำให้มู่เฉินฮ่าวจ้องเขาอย่างดุดัน

 

“อาเจิ้ง วันนี้พูดมากจัง”

 

“ครับ นายน้อย ผมจะหุบปากให้สนิท !” อาเจิ้งก้มศีรษะลง

 

ที่เซี่ยฉิงกงนั่งรออยู่ที่นี่ก็เพราะมีเรื่องต้องคุยกับมู่เฉินฮ่าว

 

“วันนี้..เซี่ยชิงฉวน น้องสาวของฉันมาที่นี่”

 

“อืม ผมรู้แล้ว แต่กินข้าวกันก่อนเถอะ”

 

มู่เฉินฮ่าวพยักหน้า พลางหยิบตะเกียบขึ้นมาอย่างสง่างามและเริ่มกิน

 

เซี่ยฉิงกงเองก็หิว เธอเริ่มใช้ตะเกียบคีบอาหาร พ่อครัวของตระกูลมู่ได้รับการว่าจ้างเป็นพิเศษมาจากโรงแรมระดับห้าดาว อาหารที่ทำออกมาทั้งสวยงามทั้งอร่อย

 

และแล้ว…

 

เซี่ยฉิงกงก้มหน้าก้มตากินไม่สนใจอะไร แต่แล้วก็หยุดชะงัก

 

ครั้นหมั่นโถวซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ เห็นท่าทีของเซี่ยฉิงกงผิดแปลกไปเล็กน้อย เธอก็รีบถามออกมาอย่างรวดเร็วว่า

 

“นายหญิงน้อยเป็นอะไร ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าคะ ?”

 

เซี่ยฉิงกงรู้สึกอายเล็กน้อย แล้วมู่เฉินฮ่าวก็ยังอยู่ที่นี่ด้วย

 

“ไม่ไม่ … ไม่เป็นไร”

 

“ไม่เป็นไรได้ไง ? ผมคิดว่าสีหน้าของคุณดูไม่ดีเลย อาหารต้องมีปัญหาอะไรแน่ ๆ ?”

 

เซี่ยฉิงกงกวักมือให้หมั่นโถว ส่งสัญญาณให้หมั่นโถวย่อกายต่ำลง

 

หมั่นโถวยื่นหูเข้าไปใกล้เซี่ยฉิงกงด้วยความสับสน

 

***จบตอน รอสามีกลับมากินข้าว***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset