แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 52 ต่อไปผมจะมองแค่คุณเท่านั้น

การดำเนินการทั้งหมดนี้ใช้เวลารวมน้อยกว่าสิบวินาทีทุกอย่างล้วนเสร็จสิ้นอย่างรวดเดียว

 

เซี่ยฉิงกงยืนดูด้วยอาการตกตะลึง …

 

ประตูห้อง 1701 ถูกเปิดออก มู่เฉินฮ่าวกับอาเจิ้งเดินออกมาจากห้องนั้น

 

อาเจิ้งช่วยหมั่นโถวลากบริกรที่ถูดมัดหัวมัดท้ายเข้าห้อง

 

จากนั้นก็ปิดประตูดังปัง

 

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น ?… พวกคุณกำลังทำอะไรกันอยู่ ?”

 

หลังจากที่เซี่ยฉิงกงเข้ามาในห้องเธอก็ยังไม่เข้าใจอะไร

 

มู่เฉินฮ่าวกวักมือเรียกเซี่ยฉิงกง

 

“มาดูนี่สิ แล้วคุณจะเข้าใจ”

 

เซี่ยฉิงกงเดินไปยืนข้างมู่เฉินฮ่าว ในขณะนี้หน้าจอเบื้องหน้ามู่เฉินฮ่าวกำลังเล่นภาพบางอย่าง

 

มุมกล้องเล็งไปยังเตียงที่มีลักษณะแบบเดียวกับห้องนี้

 

“มู่เฉินฮ่าว ฉันไม่คิดเลยว่าคุณจะเป็นพวกถ้ำมอง … โรคจิตจริง ๆ … “

 

“ดูให้ดี ๆ ก่อน… วันนี้ผมบอกว่าจะเชิญคุณมาชมการแสดงไม่ใช่เหรอ ?”

 

มู่เฉินฮ่าวมองเซี่ยฉงกงที่กำลังงงงวย

 

ไม่กี่วินาทีต่อมาผู้หญิงคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นในจอภาพ เธอถูกโยนลงบนเตียง

 

นั่นมันน้องสาวของเธอเซี่ยชิงฉวนไม่ใช่เหรอ ?

 

แม้ว่าเธอจะมองไม่เห็นใบหน้าของหญิงคนนั้นได้อย่างชัดเจน ทว่าเซี่ยฉิงกง ก็จำชุดราตรีสีเขียวอ่อนที่เซี่ยชิงฉวนสวมใส่ได้ดี

 

เซี่ยชิงฉวนในจอภาพกำลังนอนอยู่บนเตียงอย่างผิดปกติ เธอบิดตัวเร่า ๆ มือข้างหนึ่งนวดเค้นอยู่เหนือเสื้อผ้า ส่วนมืออีกข้างก็ล้วงเข้าไปในกระโปรงตนเอง

 

“เธอถูกวางยาหรือ ?”

 

ความคิดแรกของเซี่ยฉิงกงคือ ต้องมีการวางยา …

 

การกระทำของเซี่ยชิงฉวนประเจิดประเจ้อเต็มไปด้วยความปรารถนาทางเพศ กระทั่งเซี่ยฉิงกงอดไม่ได้ที่จะหน้าแดง

 

“อืม” มู่เฉินฮ่าวพยักหน้า

 

“จริง ๆ แล้วยานี้เป็นยาที่เตรียมไว้สำหรับนายหญิงน้อย เธอต้องการมอบไวน์แก้วนั้นให้คุณ แต่ฉันสลับแก้วของคุณกับเธอซะ” หมั่นโถวยิ้ม

 

ในวิดีโอมีผู้ชายหลายคนปรากฏตัวขึ้น และเริ่มปลดเข็มขัด

 

“นี่คือคู่หมั้นของมู่เฉินฮ่าวงั้นเหรอ ? อวบอึ๋มใช้ได้เลยทีเดียว”

 

หนึ่งในนั้นหัวเราะ พลางก้าวไปข้างหน้าขยำขยี้หน้าอกของเซี่ยชิงฉวน

 

“ฉันเองก็ไม่เคยเห็นเธอมาก่อน แต่ก็น่าจะใช่แหละ ไม่เช่นนั้นเธอคงจะไม่ถูกส่งมาที่นี่หรอก”

 

“น่าจะอย่างนั้นแหละ  ยาแค่โดนไปนิดเดียว ก็แทบคลั่ง แต่แกดูนั่นสิ เธอกำลังต้องการเต็มที่แล้ว”

 

“อย่ามัวพูดเรื่องไร้สาระอยู่เลย ฉันอยากจะแย่อยู่แล้ว !”

 

ชายอีกคนยกมือขึ้นโบก จากนั้นก็ปีนขึ้นไปบนเตียง เขายื่นมือออกไปยกตัวเซี่ยชิงฉวนขึ้น จากนั้นก็พลิกตัวเธอ รูดซิปด้านหลังชุดราตรีของเธอลง

 

เซี่ยชิงฉวนสะลึมสะลือ เธอปรือตาขึ้นเล็กน้อย ครั้นเห็นผู้ชายรายล้อมอยู่รอบ ๆ ตัว เธอก็ตกใจกลัว

 

“พวกแกเป็นใคร ออกไปนะ อย่ามาแตะต้องตัวฉัน”

 

ทันใดนั้นชายที่เหลือก็พุ่งขึ้นไปบนเตียง พวกเขากระชากเสื้อผ้าของเซี่ยชิงฉวนออก ตามด้วยกทรง และกางเกงใน

 

ร่างขาวเนียนเปลือยเปล่าของเซี่ยชิงฉวนสัมผัสกับอากาศ ทำให้เลือดของคนที่กำลังเฝ้าดูแทบกระฉูด

 

อาเจิ้งหันหลังให้ เขาเลิกมอง ขณะที่หมั่นโถวจ้องหน้าจอด้วยความสนอกสนใจ

 

ส่วนเซี่ยฉิงกง เธอหันหน้าไปมองมู่เฉินฮ่าว ครั้นเห็นมู่เฉินฮ่าวกำลังจ้องหน้าจอ เธอก็ยื่นมือน้อย ๆ ออกไปบังหน้ามู่เฉินฮ่าวทันที

 

“ทำไมล่ะ ?”

 

มู่เฉินฮ่าวหันหน้ามาถามด้วยความสนใจ

 

“ไม่มีเหตุผล แต่ห้ามดู !”

 

เซี่ยฉิงกงทำเสียงฮึดฮัด !

 

แม้ว่าเธอและมู่เฉินฮ่าวจะไม่มีความรู้สึกใด ๆ ต่อกัน ทว่าอย่างไรก็ตามข้อตกลงหลังการแต่งงานก็ถูกลงนามแล้ว ดังนั้นเซี่ยฉิงกงจึงรู้สึกเสมอว่ามู่เฉินฮ่าวเป็นของเธอ !

 

“ขอเหตุผลหน่อย”

 

มู่เฉินฮ่าวปัดมือของเธอเบา ๆ

 

“คุณไม่ใช่แค่คู่หมั้นของฉันนะ คุณจะมองผู้หญิงคนอื่นได้อย่างไร ? นี่ถือเป็นการนอกใจด้วยสายตา !”

 

เซี่ยฉิงกงพูดไร้สาระเรื่อยเปื่อย

 

“เอาล่ะ งั้นต่อไปผมจะมองแค่คุณเท่านั้น”

 

มู่เฉินฮ่าวกระซิบข้างหูเซี่ยฉิงกง ถ้อยคำแสดงความรักอันซาบซึ้งนี้ทำให้เซี่ยฉิงกงรู้สึกแปลก ๆ

 

ใบหูของเธอร้อนขึ้นเล็กน้อย ทว่าเซี่ยฉิงกงกลับนึกสบถ

 

“เชอะ คนอันธพาลตัวเหม็น !”

 

ภาพโป๊เปลือยลามกในจอยังคงดำเนินต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ

 

*****

 

ภายในงานเลี้ยงวันเกิดของเซี่ยเจิ้งหัว …

 

ขณะนี้บนจอ LED ขนาดใหญ่ในห้องจัดเลี้ยงรับรองของโรงแรมก็กำลังถ่ายทอดสดภาพทุกอย่างในห้องไปพร้อมกัน …

 

***จบตอน ต่อไปผมจะมองแค่คุณเท่านั้น***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset