แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 58 มือปืนลอบยิง

เดิมทีเซี่ยฉิงกงต้องการให้อาเจิ้ง และหมั่นโถวได้ลิ้มรสฝีมือของเธอด้วย และนั่นคือเหตุผลที่เธอทำเยอะมาก

 

“คุณ … กินมากขนาดนี้ … ท้องรับไหวเหรอ ?”

 

เซี่ยฉิงกงถามอย่างไม่แน่ใจ

 

มู่เฉินฮ่าวกินสปาเก็ตตี้จานใหญ่นั่นจนหมดต่อหน้าต่อตาเธอ เขากินไหวได้อย่างไร ?

 

“ก็ปกติดีนี่”

 

หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ มู่เฉินฮ่าวก็วางตะเกียบลง  จากนั้นก็หยิบทิชชู่ที่อยู่ด้านข้างเช็ดริมฝีปากบาง ๆ ของเขาอย่างสง่างาม

 

ราวกับว่าการกินสปาเก็ตตี้มื้อนี้กลายเป็นอาหารในงานเลี้ยงที่หรูหรา

 

เซี่ยฉิงกงพบว่า เวลามู่เฉินฮ่าวกำลังรับประทานอาหารอย่างเงียบ ๆ เขาก็ดูหล่อดีเหมือนกัน

 

ริมฝีปากของเขายกโค้งขึ้นเล็กน้อย และใบหน้าที่คมคายของเขาก็ทำให้ลูกคริสตัลที่ส่องสว่างไสวในห้องอาหารทั้งหมดริบหรี่ลง จนเซี่ยฉิงกงไม่สามารถลืมตามองเขาตรง ๆ ได้

 

จู่ ๆ เซี่ยฉิงกงก็รู้สึกว่าการแต่งงานกับมู่เฉินฮ่าวก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร

 

แล้วความรู้สึกนั้นก็หายวับไปในทันที

 

เนื่องจากเซี่ยฉิงกงสนับสนุนการมีอิสระในการเลือกคู่มาตั้งแต่เด็ก ทั้งยังเคยสาบานไว้ว่าในวันหน้าเธอจะต้องแต่งงานกับเจ้าชายผู้มีเสน่ห์ที่เธอชอบเท่านั้น

 

ทว่าขณะนี้ความฝันกลับแตกเป็นเสี่ยง ๆ

 

ไว้พบความจริงเกี่ยวกับเรื่องของมารดาผู้ให้กำเนิดเสียก่อนเถิด เธอก็จะหย่ากับมู่เฉินฮ่าวทันที

 

ทว่าในการแต่งงานครั้งที่สอง เซี่ยฉิงกงก็ไม่กล้าคาดหวังว่าเธอจะยังคงสามารถแต่งงานกับผู้ชายที่ดีอย่างที่ฝันได้ เธอจึงต้องการใช้ชีวิตที่เหลืออยู่เพียงลำพัง

 

เมื่อความคิดล่องลอยไปไกล แววตาของเซี่ยฉิงกงก็เหม่อลอยไปด้วย

 

มือใหญ่โบกต่อหน้าเธอ

 

“กำลังคิดอะไรอยู่ ?”

 

เซี่ยฉิงกงพลันรู้สึกตัว เธอเลิกคิดว้าวุ่น

 

“ไม่มีอะไร”

 

“อืม..ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว ไปนอนก่อนเถอะ ผมมีเรื่องในบริษัทที่ต้องจัดการต่อ”

 

มู่เฉินฮ่าวพูดเบา ๆ

 

เดิมทีเซี่ยฉิงกงก็คิดจะถามว่า..ดึกขนาดนี้ยังจะทำงานให้บริษัทต่ออีกหรือ ?  ทว่าเธอทำได้เพียงเผยอปากออกมาเล็กน้อย หากแต่ไม่ได้หลุดคำถามออกมา

 

ดูเหมือนเธอจะไม่มีคุณสมบัติพอที่จะถามเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

“บริษัทกำลังจะเข้าซื้อที่ดินรกร้างในตงผู่ การเจรจาประสบความสำเร็จ และเราจะเซ็นสัญญากันในคืนนี้”

 

ไม่ทันที่เซี่ยฉิงกงจะถาม มู่เฉินฮ่าวก็ตอบในสิ่งที่เธออยากรู้ออกมาเสียก่อน

 

แม้ว่าเซี่ยฉิงกงจะไม่ค่อยรู้เรื่องธุรกิจมากนัก หากแต่เธอก็เคยได้ยินชื่อเสียงของตระกูลมู่มาพอสมควร

 

ตระกูลมู่ได้ควบคุมเส้นทางเศรษฐกิจทั้งหมดของนครเซี่ยงไฮ้ ดังนั้นการซื้อที่ดินสักแปลงที่อาจเรียกได้ว่าเป็นเรื่องยากสำหรับคนอื่น ทว่าสำหรับตระกูลมู่แล้วย่อมไม่ต่างจากการซื้อของเล่น

 

ปลายนิ้วเคาะพื้นโต๊ะเบา ๆ แล้วมู่เฉินฮ่าวก็พูดต่อ

 

“ตงผู่หันหน้าไปทางทะเลจีนตะวันออก ผมวางแผนที่จะพัฒนาที่นี่ให้เป็นรีสอร์ทขนาดใหญ่ที่สุดของนครเซี่ยงไฮ้ เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวของที่นี่ให้เป็นที่นิยมมากขึ้น”

 

ตระกูลมู่กำลังพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ดังนั้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พวกเขาจึงกว้านซื้อที่ดินหลายแห่งที่เหมาะสำหรับพัฒนาเป็นรีสอร์ท และฐานการท่องเที่ยว

 

ดังนั้นที่ดินในตงผู่แปลงนี้ อย่างไรเสียก็ต้องเป็นของตระกูลมู่

 

มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้น เขาแตะศีรษะเล็ก ๆ ของเซี่ยฉิงกง พลางขยี้ผมเธอจนยุ่ง

 

“เอาล่ะ ผมจะออกไปแล้ว เข้านอนเร็ว ๆ ล่ะ อ้อ คุณสามารถเรียกหาหมั่นโถวได้ทุกเวลาถ้าคุณต้องการ”

 

เซี่ยฉิงกงพยักหน้า รับคำเบา ๆ

 

หลังจากที่มู่เฉินฮ่าวพูดจบ เขาก็ต้องการจะออกเดินทางไปยังคลับระดับห้าดาวแห่งหนึ่ง ทว่าหลังจากขึ้นรถแล้ว อาเจิ้งก็เห็นท่าทางของเขาผิดปกติไปเล็กน้อย

 

เขาจึงถามว่า

 

“นายน้อยมีอะไรหรือเปล่า ? คุณไม่สบายตรงไหนหรือไม่ ?”

 

มู่เฉินฮ่าวพยักหน้าเบา ๆ

 

“อืม ช่วยหายาแก้ท้องอืดให้ฉันหน่อย”

 

อาเจิ้ง …????

 

เซี่ยฉิงกงไม่ได้คิดอะไรมาก เธอกลับขึ้นห้องนอนเพื่อพักผ่อน เพราะหลังจากวุ่นวายมาตลอดช่วงบ่าย เธอก็รู้สึกง่วงเล็กน้อย

 

แต่เมื่อเธอนอนหลับได้ประมาณหนึ่งชั่วโมง หมั่นโถวก็รีบวิ่งมาเคาะประตูลั่น

 

“นายหญิงน้อย เอ่อ นายน้อยถูกมือปืนลอบยิงค่ะ”

 

***จบตอน มือปืนลอบยิง***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset