แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 78 ศัตรูเพื่อนก็เหมือนศัตรูเรา

จู่ ๆ เมื่อไม่กี่วันก่อน ฉีเหยียนเอ๋อก็โทรหาเธอ ร้องไห้ฟูมฟายบอกเธอว่ามู่เฉินฮ่าวมีคู่หมั้นแล้ว ฉีเหยียนเอ๋อเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก  …

 

แน่นอนว่าศัตรูของเพื่อนก็ย่อมต้องเป็นศัตรูของเธอด้วย

 

เธอเองก็อยากจะเห็นนักว่า คู่หมั้นของมู่เฉินฮ่าวผู้ซึ่งเป็นตำนานจะเป็นอย่างไร ?

 

กล้าแย่งผู้ชายจากฉีเหยียนเอ๋อเพื่อนของเธอได้ไง ?

 

หลังจากตัดสินใจได้แล้ว เสิ่นหรงเจียก็ใช้นิ้วขาวเรียวของเธอเคาะขอบโต๊ะพร้อมกับพูดว่า

 

“งั้น นายก็ไปบอกให้เธอรอฉันอยู่ข้างล่างนั่นแหละ”

 

“แล้วต้องเตรียมข้อมูลที่พวกเธอต้องการให้พร้อมก่อนหรือไม่ครับ ?”

 

เว่ยต้าฉี ลังเล เขาเอ่ยถามเสียงอ่อย

 

“ข้อมูลของสำนักสันติบาลทั้งหมดล้วนเป็นเอกสารลับ แมวหรือสุนัขตัวไหนจะสามารถเข้ามาอ่านได้ล่ะ ?”

 

“…ครับ”

 

เว่ยต้าฉีออกจากห้องทำงาน พร้อมเหงื่อท่วมตัว เขารีบวิ่งลงไปชั้นล่าง

 

ตอนนี้เซี่ยฉิงกงกับหมั่นโถวยังคงนั่งรออยู่ในห้องรับรอง ทำไมตำรวจคนนั้นถึงได้ออกไปหารือกันนานจัง ?

 

“คุณผู้หญิงทั้งสอง ผู้กำกับของเราไม่อยู่ มีแต่รองผู้กำกับอยู่ที่นี่ ผมได้แจ้งให้เธอทราบแล้ว”

 

เว่ยต้าฉีเอาแต่เล่นเกมส์จับคู่ แม้กระทั่งเจ้านายออกไปข้างนอกแล้วเขาก็ยังไม่รู้เรื่อง เขาจึงรู้สึกเสียหน้ามาก

 

“โอเค คุณไปเล่นเกมส์จับคู่ของคุณต่อเถอะ ในเวลางาน ตำรวจผู้ซึ่งกินภาษีประชาชนเอาแต่เล่นเกมส์จับคู่ ช่างวิเศษจริง ๆ”

 

หมั่นโถวตบไหล่เว่ยต้าฉี พร้อมกับพูดยิ้ม ๆ

 

เช่นนี้แล้วเว่ยต้าฉีจะกล้าเล่นต่อได้อย่างไร ? เขาจะไม่เข้าใจความหมายของหมั่นโถวได้อย่างไร ?

 

กลัวว่าคืนนี้เขาคงจะต้องนอนฉี่ราดรดกางเกงเป็นแน่

 

เขากลัวว่านายหญิงน้อยมู่ อาจนอนคุยกับนายน้อยมู่ถึงท่าทีของเขาเมื่อครู่ คราวนี้ล่ะเขาคงอยู่ไม่เป็นสุขแน่

 

ชามข้าวเหล็กของเขาครานี้น่าที่จะถูกทุบแตกแล้วแน่ ๆ !

 

“คุณผู้หญิงทั้งสอง … พูดแบบนี้ผมต้องนอนไม่หลับแน่ ๆ ผมเพิ่งเล่นไปแป๊บเดียวเอง บ้านผมมีทั้งคนแก่ และเด็กที่ต้องเลี้ยงดู พ่อแม่ของผมอายุห้าสิบกว่าแล้ว พวกท่านเกษียณอีกทั้งไม่มีงานทำ ผมต้องเลี้ยงดูพวกท่าน  นอกจากนี้ผมก็ยังมีลูกซึ่งมีอายุเพียงสองขวบ กับภรรยาที่อยู่แต่กับบ้านเลี้ยงดูลูก …”

 

ใบหน้าของเว่ยต้าฉีเบ้บิดเบี้ยวไม่ต่างจากมะระ เขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี  ?

 

“เอาล่ะ หมั่นโถวอย่าแกล้งเขาอีกเลย ดูสิ ทำให้ให้เขาตกใจจะแย่แล้ว …”

 

เซี่ยฉิงกงไม่สามารถอดกลั้นได้อีกต่อไป เธอพูดออกมาพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ

 

เว่ยต้าฉีหันไปมองเซี่ยฉิงกง เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ นายหญิงน้อยมู่ คนนี้สวยจริง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยามที่เธอหัวเราะ

 

ไม่น่าแปลกใจเลย ที่เขาได้ยินมาตลอดว่า นายน้อยมู่มีมาตรฐานเรื่องผู้หญิงสูงมาก ทั้งก็ไม่ใช่จะมองผู้หญิงคนไหนง่าย ๆ ทว่ากลับตกอยู่ในเงื้อมมือของผู้หญิงตรงหน้าเขาคนนี้ได้

 

“ตกลงงานยุ่งไม่ใช่หรือ ครั้งนี้ฉันจะทำเป็นลืม ๆ ฉันไม่อยากสนใจเกี่ยวกับสิ่งที่คุณทำในที่ทำงาน แต่ฉันขอเตือนคุณไว้ว่า ตำรวจเป็นข้าราชการ เป็นคนของประชาชน ต้องปฏิบัติต่อประชาชนให้ดี คุณเข้าใจหรือไม่ ?”

 

จู่ ๆ ใบหน้าของหมั่นโถวก็จริงจังขึ้น เธอเอ่ยกล่าวอย่างเคร่งขรึม

 

เว่ยต้าฉีผงกศีรษะหงึกหงึกไม่ต่างจากไก่จิกข้าว

 

ดูเหมือนว่า เขาจะสามารถผ่านเรื่องเลวร้ายในวันนี้ไปได้แล้ว นายหญิงน้อยสกุลมู่พูดจาสุภาพมาก ไม่เหมือนนังผู้หญิงโหดชั้นบนนั่น ชอบทำท่าทางเอะอะวางโตใส่เขา ราวกับเขาเป็นเพียงสิ่งไร้ค่าชิ้นเล็ก ๆ !

 

ดังนั้น เว่ยต้าฉีจึงเอ่ยปากเตือนเซี่ยฉิงกง

 

“นายหญิงน้อยเป็นคนดี ผมของเตือนไว้เรื่องหนึ่ง … รองผู้กำกับของเราอารมณ์ไม่ดี เมื่อกี้ผมบอกเธอไปแล้ว แต่เธอบอกว่าเธอจะไม่ยอมให้ข้อมูลแก่คุณ ดังนั้น …”

 

เซี่ยฉิงกง และหมั่นโถวหันมองหน้ากัน

 

“อย่าบอกว่าผมพูดล่ะ”

 

“รองผู้กำกับของคุณชื่ออะไร ?”  หมั่นโถวถาม

 

เว่ยต้าฉีคิดอยู่นิดหนึ่ง

 

“ดูเหมือนว่าจะชื่อ เสิ่นหรงเจีย”

 

ทันทีที่หมั่นโถวได้ยินชื่อนี้ เธอก็เข้าใจได้ทันทีว่า ทำไมรองผู้กำกับถึงยังไม่ลงมา กลับปล่อยให้พวกเธอรอกันอยู่ได้ตั้งนาน ทั้งไม่คิดจะให้ข้อมูลแก่พวกเธอเลย

 

“เข้าใจแล้ว นายหญิงน้อย ฉันเคยได้ยินชื่อเสิ่นหรงเจีย เธอคนนี้เป็นเพื่อนสนิทของฉีเหยียนเอ๋อ !”

 

***จบตอน ศัตรูเพื่อนก็เหมือนศัตรูเรา***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset