แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 80 ลูกตบแบ็คแฮนด์

ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 81 นับถอยหลัง

เซี่ยฉิงกงหัวเราะเบา ๆ เธอหย่อนกายลงนั่งบนโซฟาข้าง ๆ เสิ่นหรงเจีย ส่วนหมั่นโถวก็ยืนอยู่ข้าง ๆ เซี่ยฉิงกง

 

คำว่ารองผู้กำกับทำให้การแสดงออกของเสิ่นหรงเจียเย็นชาลงอีก เธอมีความสามารถมากพอที่จะได้รับการเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นผู้กำกับด้วยซ้ำ หากแต่เนื่องจากตระกูลมู่ จางกู้เป่ยจึงปีนข้ามเธอไปได้

 

แท้ที่จริงแล้ว ก่อนหน้านี้จางกู้เป่ยเองก็เป็นเพียงหัวหน้ากองภายใต้การดูแลของเธอด้วยซ้ำ ไม่คาดคิดว่าเขาจะได้แต่งงานกับสุภาพสตรีหมายเลขสองของตระกูลมู่

 

นี่คือการจัดการของตระกูลมู่ และแม้ว่าเสิ่นหรงเจียจะกลับไปหาพ่อที่บ้าน  พ่อของเธอก็ไม่อาจช่วยเธอได้เช่นกัน

 

ตระกูลมู่หยั่งรากลึกในนครเซี่ยงไฮ้ กระทั่งห่างไกลจากสิ่งที่พวกเขาสามารถจินตนาการได้

 

“พวกคุณเป็นใคร”

 

เสิ่นหรงเจียถามทั้ง ๆ ที่รู้

 

“คุณเป็นปลาทองหรือเปล่า ?” เซี่ยฉิงกงถาม

 

“หมายความว่าไง ?”

 

“ฉันคิดว่า คุณด้อยกว่าปลาทองเสียอีก ความทรงจำของปลามีประมาณ 7 วินาที ทว่าคุณกลับลืมทุกอย่างได้ในพริบตา ตำรวจชั้นล่างไม่ได้บอกคุณหรือว่าฉันเป็นใคร ?”

 

หมั่นโถวที่ยืนข้าง ๆ อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ นายหญิงน้อยของเธอเป็นคนที่มากด้วยอารมณ์ขันจริง ๆ

 

เสิ่นหรงเจียนับได้ว่าเป็นบุคคลผู้มีชื่อเสียง เธอเห็นหมั่นโถวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เซี่ยฉิงกงไม่ยอมนั่งลง นั่นย่อมแสดงว่าผู้หญิงคนนี้น่าจะเป็นแค่คนรับใช้

 

เป็นแค่สาวใช้กลับกล้าอวดดีกับเธองั้นรึ ?

 

เสิ่นหรงเจียลุกขึ้นยืนเหยียบส้นสูง เธอก้าวไปข้างหน้าเซี่ยฉิงกง จากนั้นก็หันไปมองหมั่นโถว

 

สายตาของเธอเต็มไปด้วยการดูถูก

 

“เธอเป็นแค่สาวใช้กล้าหัวเราะเยาะฉันเรอะ ? วันนี้ฉันจะสั่งสอนเธอแทนนายของเธอ”

 

ทันทีที่กล่าวจบ เสิ่นหรงเจียก็เงื้อมือขึ้น หมายจะตบหมั่นโถว

 

หมั่นโถวมั่นใจมาก เธอไม่หลบ และด้วยความรวดเร็วของเธอ เธอรอให้เสิ่นหรงเจียฟาดมือลงมาใกล้ใบหน้าของเธอก่อน ครั้นฝ่ามืออยู่ห่างจากใบหน้าของเธอเพียงสิบเซนติเมตร เธอก็ย่อตัวลง เอี้ยวตัวหลบเล็กน้อย และนั่นก็ทำให้เสิ่นหรงเจียตบวืดไปบนอากาศว่างเปล่า

 

เสิ่นหรงเจียเกิดมาจากตำแหน่งพลเรือน ทั้งไม่ได้รับการฝึกทหารมาก่อน

 

นอกจากนี้ ยังผสมกับความเฉื่อยของร่างกาย และการสวมรองเท้าส้นสูงทำให้เธอยืนได้ไม่มั่นคงนัก เธอจึงเซ !

 

ครั้นเห็นเสิ่นหรงเจียเงื้อมือขึ้น เซี่ยฉิงกงก็กัดฟันกรอดด้วยความโกรธ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย

 

ทำไมพวกเศรษฐีพวกนี้จึงชอบตบตีคนอื่นเสียเหลือเกินนะ ? สนุกมากนักรึไง ?

 

และก็ชอบอ้างว่าจะสอนมารยาทให้

 

ใครอยากจะมีมารยาทกับพวกเธอกัน ? งี่เง่าชะมัด ?

 

เซี่ยฉิงกงลุกขึ้นจากโซฟาทันที มือขาวบอบบางข้างหนึ้งคว้าแขนของเสิ่นหรงเจียไว้

 

จากนั้นก็ใช้หลังมืออีกข้างตบหน้าเสิ่นหรงเจียอย่างรวดเร็ว

 

เสิ่นหรงเจียสวมรองเท้าส้นสูงอยู่แล้ว ย่อมไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคงเธอจึงล้มลงกับพื้นทันที

 

หลังจากตบไปแล้ว เซี่ยฉิงกงก็เสียใจ

 

“โอ๊ย..มือของฉันเจ็บมากเลย หมั่นโถว ฮือ ๆๆๆๆ”

 

เมื่อครู่นี้เธอออกแรงหนักมือเกินไป

 

เพราะเธอโกรธมาก ! ครั้งก่อนที่หมั่นโถวถูกแม่ของมู่เฉินฮ่าวตบ เซี่ยฉิงกงก็สาบานไว้แล้วว่า จะไม่ยอมให้หมั่นโถวถูกตบเพราะเธออีก

 

เป็นเพราะครั้งนั้น คนที่ตบก็คือแม่ของมู่เฉินฮ่าว ดังนั้นหมั่นโถวจึงยอมโดนตบโดยไม่เลี่ยงหลบ

 

หมั่นโถวรู้สึกประหลาดใจกับการแสดงออกของเซี่ยฉิงกงเมื่อครู่ เธอรีบคว้ามือเล็ก ๆ ของเซี่ยฉิงกงขึ้นมาเป่า

 

“ดูสิ นายหญิงน้อยมือแดงไปหมดแล้ว”

 

เสิ่นหรงเจียล้มลงกับพื้น เธอโดนตบหน้า ใบหน้าของเธอบวมแดงขึ้นทันที

 

ใบหน้าที่เคยสวยน่ารักเริ่มบวมเป่งบิดเบี้ยวมากขึ้นเรื่อย ๆ

 

“เธอกล้าตบฉันเรอะ ?”

 

เสิ่นหรงเจียตัวสั่น เธอมองเซี่ยฉิงกงด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ

 

“ฉันตบเธอไปแล้วนี่ เธอยังมีหน้ามาถามฉันอีกว่าฉันกล้าตบเธอรึเปล่า ? หรือเธออยากโดนตบอีก ? จะได้รู้ว่าฉันกล้ามั้ย ?”

 

เซี่ยฉิงกงสะบัดมือ พร้อมกับมองเสิ่นหรงเจียที่ยังคงนั่งกองอยู่กับพื้นด้วยท่าทางงี่เง่า

 

ผู้หญิงคนนี้เข้ามานั่งในตำแหน่งรองผู้กำกับสำนักสันติบาลได้อย่างไรกันนี่ ? ทำไมโง่จังเลย ?

 

***จบตอน ลูกตบแบ็คแฮนด์***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset