แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 79 ปล่อยให้รอจนแห้งตาย

หลังจากเว่ยต้าฉีจากไปแล้ว เสิ่นหรงเจียก็ต้องการลงไปพบนายหญิงน้อยสกุลมู่

 

แต่พอคิดอีกที เธอก็คิดว่าจะลดตัวลงไปทำไม ก็แค่ผู้หญิงราคาถูกคนหนึ่งไม่ใช่เหรอ ?

 

ปล่อยให้รอจนแห้งตายไปเองเถอะ

 

เมื่อนึกได้เช่นนั้น เสิ่นหรงเจียก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ยกนิ้วขึ้นจิ้มแป้นโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว

 

“ฉีเหยียนเอ๋อ เดาสิว่าใครมาที่สำนักงานของฉัน”

 

“ใครล่ะ ?”

 

“คู่หมั้นของสุดที่รักเธอไง !”

 

“นังบ้านั่นไปหาเธอทำไม ?”

 

“ดูเหมือนว่าจะมาที่นี่ เพื่อขอข้อมูลบางอย่าง ฉันจะจัดการแม่นั่นให้เธอเอง !”

 

“เธอนี่ช่างเป็นเพื่อนที่ดีจริง ๆ ขอบคุณล่วงหน้าเลย ฉันยังไม่ได้บอกเธอใช่ไหมว่า ? พี่เฉินฮ่าวส่งคนมารับฉัน”

 

บริเวณชั้นล่างเซี่ยฉิงกงมองขึ้นไปบนอาคารสำนักงานชั้นบน ไม่มีเสียงใด ๆ จากทางเดินที่สว่างไสวนั่นเลย

 

คนที่อยู่ชั้นบนคงไม่คิดที่จะลงมาแน่ ๆ ใช่มั้ย ?

 

“นายหญิงน้อย ฉันเดาว่า เสิ่นหรงเจียคงแกล้งสร้างปัญหาให้คุณยุ่งยากแล้วล่ะ ฉันเคยมาที่นี่กับนายน้อยเพื่อขอข้อมูล และฉันจะบอกให้รู้ว่า มันไม่ได้ลำบากขนาดนี้เลย”

 

หมั่นโถวมองขึ้นไปชั้นบน ขณะพูดกับเซี่ยฉิงกง

 

“ถ้าอย่างนั้น ก็คงยากแล้วล่ะ”

 

เซี่ยฉิงกงพยักหน้าพลางครุ่นคิด เธอพยายามใช้เซลล์สมองของเธอคำนวณวิธีการอย่างรวดเร็วว่าควรทำอย่างไรจึงจะได้รับข้อมูลนี้อย่างราบรื่น ?

 

เธอไม่อยากไปขอร้องมู่เฉินฮ่าว !

 

หมั่นโถวมองเซี่ยฉิงกงอย่างครุ่นคิด ด้วยความรักที่เธอมีต่อเซี่ยฉิงกง ประกายเจ้าเล่ห์พลันฉายชัดในดวงตากลมโตของหมั่นโถว

 

เธอกระซิบข้างหูของเซี่ยฉิงกง

 

“นายหญิงน้อย ไม่ต้องห่วง ฉันอยู่ที่นี่ เสิ่นหรงเจีย ไม่สามารถสร้างปัญหาให้คุณลำบากใจได้ ในเมื่อวันนี้ฉันเป็นคนพาคุณมาที่นี่ ฉันย่อมแน่ใจว่าเราจะต้องได้ข้อมูลนั้นมาแน่ คุณวางใจได้”

“ว่ามาสิ ?”

 

“ฉันมาจากกองทัพ หากฉันคำนวณตามยศทหาร ปกติยศทหารของฉันจะสูงกว่ายศตำรวจของเสิ่นหรงเจียสองระดับ”

 

ครั้นเซี่ยฉิงกงได้ยินเช่นนั้น เธอก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ นัยน์ตาที่ชุ่มฉ่ำทั้งคู่พลันเต็มไปด้วยความชื่นชมในตัวหมั่นโถว

 

หมั่นโถวสุดยอดมากเลย ลืมไปว่าเธอก็เป็นคนของกองทัพด้วยนี่

 

รองผู้กำกับสำนักสันติบาลต้องมียศระดับพันตรีขึ้นไป

 

ยศทหารโดยทั่วไปจะลดลงหนึ่งขั้น หากจะเปลี่ยนเป็นยศตำรวจ

 

หากยศทหารของหมั่นโถวสูงกว่าเสิ่นหรงเจียสองขั้น เช่นนั้นอย่างน้อยหมั่นโถวก็น่าที่จะอยู่สูงกว่าระดับนายพัน

 

เธอไม่รู้ว่าทำไมหมั่นโถวถึงยอมอยู่กับมู่เฉินฮ่าวในฐานะคนรับใช้

 

ทว่านี่ไม่ใช่เวลาที่จะคิดถึงเรื่องนี้ ไว้เธอจะถามหมั่นโถวเมื่อถึงเวลาที่พร้อมกว่านี้

 

มู่เฉินฮ่าวเอาตัวหมั่นโถวมาช่วยรักษาความปลอดภัย ดังนั้นเขาจึงให้หมั่นโถวเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์มู่ เซี่ยฉิงกงก็ต้องช่วยให้หมั่นโถวได้รับความยุติธรรมสมฐานะ

 

เพราะทุกวันนี้ เซี่ยฉิงกงก็คิดเสมอว่าหมั่นโถวเป็นผู้หญิงที่ยอดเยี่ยมมากคนหนึ่ง

 

แต่ทั้งหมดนี้ไว้ค่อยว่ากันภายหลัง

 

“ไปกันเถอะ นายหญิงน้อย ในเมื่อเธอไม่ยอมลงมาข้างล่าง อย่างนั้นพวกเราก็ขึ้นไปหาเธอกันเถอะ”

 

หมั่นโถวจับมือเล็ก ๆ ของเซี่ยฉิงกงพาเดินขึ้นไปชั้นบน

 

สำนักสันติบาลมีสองชั้น ชั้นล่างคือตำรวจชั้นผู้น้อย ส่วนชั้นบนจะเป็นห้องทำงานของนายตำรวจระดับหัวหน้า

 

บนชั้นสอง เมื่อมองผ่านกระจกหน้าต่างที่ปิดด้วยม่านมีเพียงห้องเดียวเท่านั้นที่ไฟยังเปิดอยู่

 

ด้วยเหตุนี้เซี่ยฉิงกงจึงสามารถหาห้องทำงานของเสิ่นหรงเจียได้อย่างง่ายดาย

 

ครั้นเดินมาถึงประตูห้องทำงาน เซี่ยฉิงกงก็ไม่ได้เคาะประตู หากแต่เธอกลับผลักเข้าไปเลย

 

ก็ในเมื่อเสิ่นหรงเจียพยายามทำเรื่องให้ยากสำหรับเธอ เธอก็ไม่จำเป็นที่จะต้องสุภาพด้วย

 

ทันทีที่ประตูห้องทำงานเปิดออกอย่างกะทันหัน เสิ่นหรงเจียก็เงยหน้าขึ้นมองไปที่ประตูด้วยความประหลาดใจ

 

หนึ่งในนั้น เธอรู้สึกคุ้นเคยเล็กน้อย ดูเหมือนเธอจะเคยเห็นมาก่อน หากแต่กลับจำไม่ได้ ส่วนอีกคนน่าจะเป็นคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้นของมู่เฉินฮ่าวใช่หรือไม่ ?

 

เดิมทีเสิ่นหรงเจียเพียงต้องการทำให้ทั้งสองสาวไม่ประทับใจตั้งแต่แรกพบเท่านั้น เธอไม่คาดคิดว่าสองสาวจะบุกเข้ามาถึงที่นี่

 

“ใครอนุญาตให้พวกคุณเข้ามาที่นี่ ? ออกไปซะ !”

 

“โอ้ ! รองผู้กำกับเสิ่นช่างใหญ่โตจริง ๆ ”

 

***จบตอน ปล่อยให้รอจนแห้งตาย***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset