แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 83 งานเลี้ยง

“เอาล่ะเพื่อเห็นแก่หน้าฉีเหยียนเอ๋อ ตบแค่ห้านาทีพอ จำไว้ว่าแค่ตบหน้าเธอเท่านั้นนะ”

 

“ได้ค่ะ นายหญิงน้อย”

 

หลังจากที่เซี่ยฉิงกงพูดจบเธอก็เดินลงไปชั้นล่างทันที

 

วันนี้ตอนเที่ยง เธอกับมู่เฉินฮ่าวแยกจากกันแบบไม่ดีเท่าไร  จากนั้นมู่เฉินฮ่าว ก็ออกจากบ้านโดยไม่พูดไม่จาอะไรสักคำ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงรู้สึกหงุดหงิดใจเล็ก ๆ

 

เสิ่นหรงเจียเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของฉีเหยียนเอ๋อ เธอแสดงทัศนคติให้เห็นตั้งแต่แรกพบกันแล้วว่า เธอไม่ต้องการให้เซี่ยฉิงกงได้ดีไปกว่า

ดังนั้น เซี่ยฉิงกงจึงไม่เคยคิดที่จะไว้หน้าฉีเหยียนเอ๋อเลยแม้แต่น้อย

 

ใครไม่รุกรานฉัน ฉันก็จะไม่รุกรานเขา ถ้าใครมาหาเรื่องฉันก่อน ฉันก็จะคืนกลับไปให้อีกสองเท่า ประโยคนี้เป็นคติประจำใจของเซี่ยฉิงกงตลอดมา

 

คุณไม่จำเป็นต้องสุภาพ หรือเห็นอกเห็นใจคนที่ทำร้ายคุณ

 

แน่นอนว่า หมั่นโถวเชื่อฟังคำพูดของเซี่ยฉิงกง เธอทำแค่ตบหน้าเท่านั้น ทั้งยังคงมองนาฬิกาเป็นระยะ เธอตบจนครบห้านาทีก่อนที่จะลงไปชั้นล่าง

 

เสิ่นหรงเจียหน้าบวมเป็นหัวหมู เธอลงนั่งยอง ๆ ร้องไห้อยู่ตรงมุมห้อง

 

เธอไม่เคยถูกปฏิบัติเช่นนี้มาก่อนเลย

 

เซี่ยฉิงกงรอหมั่นโถวที่บริเวณชั้นล่างของสำนักสันติบาล หลังจากหมั่นโถวลงมาทั้งสองก็ขึ้นรถ และกลับไปที่คฤหาสถ์มู่

 

ณ บ้านสกุลมู่ดั้งเดิม

 

ห้องนั่งเล่นทั้งห้องสว่างไสวไปด้วยโคมไฟคริสตัลสุกสกาวงดงาม ทั้งสองครอบครัวต่างดื่มกินกันที่นี่ บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น

 

ในวันนี้มู่จื่อหมิงมีความสุขมาก ทั้งเขาและฉีป๋อหยวนเจ้าบ้านตระกูลฉีต่างก็ไม่ได้เจอกันนาน ครอบครัวของเขาทั้งสองต่างก็สนิทสนมกัน และมู่จื่อหมิง กับฉีป๋อหยวนก็คบหากันมาตั้งแต่เด็ก

 

วงสนทนาเต็มไปด้วยความสนุกสนาน เพียงพริบตาเดียวก็เป็นเวลาสี่ทุ่มกว่าแล้ว

 

“เอาล่ะ วันนี้พวกคุณอย่ากลับบ้านเลย พักที่นี่ดีกว่า นี่ก็ดึกมากแล้ว ไว้ค่อยกลับกันพรุ่งนี้เถอะนะ”

 

ซิงเหวินจิ้งนั่งอยู่ข้าง ๆ จางยู่หลานแม่ของฉีเหยียนเอ๋อ เธอพูดพร้อมรอยยิ้ม

 

มู่จื่อหมิงเองก็พยักหน้าเช่นกัน

 

“อืม..ใช่ คิดเสียว่าที่นี่เป็นบ้านของพวกคุณเองก็แล้วกัน”

 

“เอาล่ะ อย่างไรเสียวันหน้าเหยียนเอ๋อก็จะต้องเป็นลูกสะใภ้ของฉัน เหยียนเอ๋อก็จะได้ทำความคุ้นเคยเอาไว้”

 

ซิงเหวินจิ้งจับมือของฉีเหยียนเอ๋อ เธอสัมผัสได้ถึงมือที่ขาวนวลนุ่มนิ่มราวไร้กระดูกของฉีเหยียนเอ๋อ

 

ครั้นได้ยินเช่นนี้มู่จื่อหมิงก็เหลือบไปมองซิงเหวินจิ้ง

 

“เหวินจิ้ง..เฉินฮ่าวหมั้นกับคุณหนูเซี่ยแล้วนะ”

 

“หมั้นอะไรกัน ? คุณเคยถามเฉินฮ่าวรึเปล่าว่าต้องการหมั้นกับเด็กนั่นหรือไม่ ?  เพียงเพราะคำพูดของคุณ เฉินฮ่าวเลยต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่เขาไม่ได้รักงั้นหรือ ?”

 

ซิงเหวินจิ้งจ้องกลับอย่างไม่พอใจ

 

เห็นได้ชัดว่าเธอไม่พอใจอย่างมากกับการหมั้นหมายครั้งนี้

 

มู่เฉินฮ่าวนั่งอยู่ที่โต๊ะ ในวันนี้เขาพูดน้อยมาก แม้ว่าคนอื่นจะคุยถึงเรื่องของเขา เขาก็ยังคงเงียบ

 

ครั้นเห็นว่าคนทั้งคู่กำลังจะทะเลาะกันอีกแล้ว ฉีป๋อหยวนก็รีบแทรกขึ้น

 

“จื่อหมิง เฉินฮ่าวกับคุณหนูเซี่ยมีสัญญาการแต่งงานกันงั้นรึ ? ฉันเพิ่งรู้เรื่องนี้เมื่อไม่นานมานี้เอง แต่ถ้าเป็นแค่เรื่องตลกก็ไม่จำเป็นต้องเป็นจริงเป็นจังนี่ใช่มั้ย ?”

 

จางหยูหลานเองก็ชอบมู่เฉินฮ่าวมาตลอด เธอจึงรีบพูดขึ้นว่า

 

“ใช่..ความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวของเราทั้งสองดีมาก จะดีกว่าไหมหากเราจะมาเป็นดองกัน ถ้าเป็นเพียงการพูดเล่นตามประสาวัยรุ่นก็แค่ยกเลิกเท่านั้น ตอนนี้ตระกูลเซี่ยเองก็สถานการณ์ไม่ค่อยดีนัก แทบจะเอาตัวไม่รอด แล้วเรื่องคุณหนูใหญ่ของตระกูลเซี่ยนั่น ฉันก็ได้ยินมาว่า เธอเพิ่งถูกหาตัวพบหลังจากหายตัวออกจากบ้านไปนาน … ฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะเป็นการแอบอ้างหรือไม่ …? ”

 

“บางทีตระกูลเซี่ยอาจไปสุ่มหาใครสักคนมาหลอกเราก็เป็นได้ ?”

 

ฉีเหยียนเอ๋อรีบกล่าวสนับสนุนคำพูดของมารดาเธอ

 

มู่จื่อหมิงหยุดพูด เขาจิบไวน์พลางหันไปมองมู่เฉินฮ่าว

 

“เฉินฮ่าว ลูกตัดสินใจเองเลย ตามที่พ่อเคยบอกไปแล้ว สัญญาการแต่งงานกับตระกูลเซี่ย หากลูกเต็มใจแต่งก็แต่ง หากไม่เต็มใจแต่งก็ไม่ต้องแต่ง”

 

มู่เฉินฮ่าวเงยหน้าขึ้นมองพ่อของเขา จากนั้นก็พยักหน้า ทว่ายังคงนิ่งเงียบ

 

***จบตอน งานเลี้ยง***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset