แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 85 ปลดกระดุมออกทีละเม็ด ๆ

แน่นอนว่าฉีเหยียนเอ๋อต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากเพื่อให้ได้สิ่งนี้มา เพราะยาปลุกอารมณ์พวกนี้เป็นของต้องห้ามในประเทศจีน !

 

ฉีเหยียนเอ๋อลูบไล้ใบหน้าคมสันของชายหนุ่มตรงหน้า เธอสูดลมหายใจเข้าลึก จากนั้นก็ค่อย ๆ เลื่อนนิ้วไปที่คอเสื้อไล่ลงมาที่สาบเสื้อบริเวณหน้าอกของเขา

 

ปลดกระดุมออกทีละเม็ด ๆ …

 

จู่ ๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ฉีเหยียนเอ๋อถึงกับสะดุ้ง เพราะความรู้สึกผิด

 

เสียงนั่นดังมาจากกระเป๋าเสื้อคลุมของมู่เฉินฮ่าว ฉีเหยียนเอ๋อหยิบโทรศัพท์ออกมา จึงเห็นชื่อที่ถูกบันทึกไว้บนหน้าจอ..มู่เจิ้ง

 

เธอตื่นตระหนกอยู่เพียงครู่ ก่อนจะสงบสติอารมณ์ลงได้

 

เธอไม่ได้ปิดโทรศัพท์ เพราะจะเป็นการกระตุ้นความสงสัยอย่างแน่นอน

 

หลังจากโทรศัพท์ดังขึ้นสิบครั้งก็มีข้อความสั้น ๆ มาจากโทรศัพท์

 

“นายน้อยครับ คุณอยู่ที่ไหน เรื่องที่คุณสั่งให้ผมตรวจสอบจัดการเสร็จเรียบร้อยแล้ว วันนี้คุณจะกลับบ้านไหมครับ ?”

 

ฉีเหยียนเอ๋อสงสัยว่ามู่เฉินฮ่าวกำลังตรวจสอบเรื่องใดกันแน่ ? ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะสำคัญมากถึงขนาดต้องใช้คนสนิทของเขาลงมือเอง ?

 

หลังจากอ่านเมสเสจในมือถือแล้ว ฉีเหยียนเอ๋อก็เปลี่ยนกลับไปที่หน้าจอแรกของโทรศัพท์ ชั่วขณะนั้นเธอก็สงสัยว่ามีอะไรอยู่ในโทรศัพท์ของมู่เฉินฮ่าว …

 

เธออยากรู้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับผู้ชายตรงหน้าเธอ ผู้ชายที่เธอแอบชอบมากว่าสิบปี …

 

หลังจากกดไปที่หน้าแรก ภาพพื้นหลังบนหน้าจอในหน้าแรกก็ทำให้ใบหน้าที่เพิ่งจะผ่อนคลายลงของฉีเหยียนเอ๋อบิดเบี้ยว

 

ภาพพื้นหลังหน้าจอของโทรศัพท์มู่เฉินฮ่าวคือผู้หญิงคนนั้น !

 

เขาไม่ได้สนุกกับอะไรแปลก ๆ ใหม่ ๆ เท่านั้นหรอกหรือ ?

 

ทำไมภาพพื้นหลังบนหน้าจอโทรศัพท์ถึงได้เป็นผู้หญิงคนนั้นล่ะ ?

 

ภาพพื้นหลังนั่น เซี่ยฉิงกงสวมผ้ากันเปื้อนอยู่ในครัวกำลังทำอาหารบนเตาแก๊ส ผมสีเข้มงามสลวยของเธอถูกม้วนขึ้น และมัดด้วยหนังยาง ใบหน้าด้านข้างของเธองดงามราวกับนางฟ้า …

 

สัมผัสอบอุ่นที่เผยให้เห็นในภาพถ่าย ทำให้อารมณ์ของฉีเหยียนเอ๋อพลุ่งพล่านถึงขีดสุด

 

ครั้นเก็บโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋า ฉีเหยียนเอ๋อก็พบว่ามีของบางอย่างตุงอยู่ในกระเป๋าของมู่เฉินฮ่าว เธอเลยเปลี่ยนใจ เพราะรู้ว่ามู่เฉินฮ่าวต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะตื่น เธอจึงหยิบมันออกมาดู

 

เพียงเห็นแวบแรก เธอก็รู้ว่ามันเป็นปากกาบันทึกเสียง

 

ฉีเหยียนเอ๋อเปิดเครื่องบันทึก พลันเสียงก็ดังออกมาจากเครื่องบันทึก ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการบันทึกการโทรศัพท์

 

“เฉินเหวินกัง ขอเพียงนายทำในสิ่งที่ฉันสอน ฉันก็สามารถช่วยนายได้ นายไม่ต้องการแก้แค้นแล้วหรือ ฉันช่วยนายได้นะ นายจะไม่ขอบคุณฉันหน่อยหรือ ?”

 

“แต่นายน้อยหมิง หากเรื่องนี้ไม่สำเร็จ ผมต้องตายแน่ ๆ ผมยังอยากมีชีวิตรอดมากกว่าที่จะแก้แค้น ไหน ๆ ภรรยาของผมก็ให้อภัยผมแล้ว ผมคิดว่าลืม ๆ  มันเสียจะดีกว่า”

 

“นายไม่มีสิทธิ์เลือก เฉินเหวินกังแค่ทำตามที่ฉันพูด กำจัดผู้หญิงคนนั้นให้ฉัน ไม่ต้องกลัว ต่อให้นายทำพลาดโดนจับได้ ฉันก็มีวิธีที่จะเอานายออกมาได้ หรือนายอยากรอเก็บศพภรรยา และลูกของนาย”

 

หลังจากเงียบไปไม่นานก็มีเสียงดังจากเครื่องบันทึกเสียงอีกครั้ง

 

“ตกลง ผมยอมทำตามเงื่อนไขของคุณ แต่คุณต้องสัญญากับผมว่า หากผมทำพลาด คุณต้องช่วยผม”

 

“แน่นอน ฉันเตรียมยาฆ่าตัวตายหลอก ๆ ไว้แล้ว มันมีฤทธิ์คล้ายกับยานอนหลับ เมื่อถึงเวลานั้นนายก็แค่กินยานั่นซะ …”

 

ผู้หญิงที่กล่าวถึงในเครื่องบันทึกนี่คือใครกัน ?

 

ฉีเหยียนเอ๋อคิดไม่ออก เพราะเธอเพิ่งกลับมาถึงประเทศจีน เธอเลยไม่รู้เรื่องการลักพาตัวเซี่ยฉิงกง

 

ทว่าฉีเหยียนเอ๋อก็ฉลาดพอที่จะนึกได้ว่า เพื่อนสนิทของเธอผู้ซึ่งเป็นรองผู้กำกับสำนักสันติบาลบอกเธอว่าวันนี้เซี่ยฉิงกงไปปรากฏตัวที่สำนักงาน

 

ฉันรู้สึกว่าสองเรื่องนี้ต้องมีความเชื่อมโยงกัน …

 

ฉีเหยียนเอ๋อกลอกตา ก่อนจะซ่อนเครื่องบันทึกไว้ในกระเป๋าที่เธอพกติดตัวมา

 

***จบตอน ปลดกระดุมออกทีละเม็ด ๆ***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset