แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 94 ปากกาบันทึกเสียงหายไป

หลังจากได้ยินเซี่ยฉิงกงบอกว่าไว้ค่อยคุยกันที่หลัง มู่เฉินฮ่าวก็ยกยิ้ม เขาลูบศีรษะของเซี่ยฉิงกง ก่อนจะปล่อยตัวเธอ

 

“ไม่เป็นไรแล้ว”

 

“ถ้าอย่างนั้น คุณก็ไปที่ห้องน้ำนะ แล้วอาเจียนเอาน้ำในท้องของคุณออกมา คุณจะได้รู้สึกดีขึ้น”

 

“แล้ว…จะทำให้อาเจียนได้ไงล่ะ ?” มู่เฉินฮ่าวนิ่งงัน

 

เซี่ยฉิงกงกลอกตา ยังมีอะไรที่นายน้อยมู่ไม่เคยทำด้วยงั้นรึ ?

 

“คุณก็เอามือล้วงเข้าไปในลำคอแล้วก็กดเบา ๆ จากนั้นคุณก็จะรู้สึกอยากอาเจียนออกมา แต่วิธีนี้อันตรายมาก ดังนั้นต่อไปก็ไม่ควรที่จะใช้อีก…”

 

“เยี่ยมเลย”

 

มู่เฉินฮ่าวพยักหน้า หากแต่ก็รู้สึกงงเล็กน้อย ว่าแต่ทำไมเซี่ยฉิงกงถึงรู้วิธีทำให้อาเจียนล่ะ ?

 

มู่เฉินฮ่าวคิดที่จะถามคำถามนี้ใหม่ในภายหลัง ดังนั้นเขาจึงลุกขึ้นจากเตียง และเดินเข้าห้องน้ำด้วยความหดหู่ใจ

 

เซี่ยฉิงกงรอมู่เฉินฮ่าวอยู่ในห้อง

 

มีเสียงเคาะประตู ไหนว่าจะลงไปรออยู่ที่ห้องนั่งเล่นกันไงล่ะ ? หรือว่าพวกเขาเป็นห่วง ?

 

“เข้ามาได้”

 

คนรับใช้ของตระกูลมู่ก้าวเข้ามาในห้อง

 

“คุณหนูเซี่ย คุณหนูฉีบอกว่าเธอลืมกระเป๋าไว้ที่นี่ ให้ผมขึ้นมาเอาไปให้”

 

เซี่ยฉิงกงคิดว่าใคร ที่แท้ก็เป็นฉีเหยียนเอ๋อลืมกระเป๋า ? ไม่กล้ามารับด้วยตนเอง เลยให้คนรับใช้ขึ้นมาแทนงั้นสิ ?

 

เซี่ยฉิงกงเหลือบมองกระเป๋าชาแนล รุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นที่สวยงาม และราคาแพงลิบบนโต๊ะ พร้อมกับยกมือขึ้นโบก

 

“อืม..มาเอาไปได้เลย”

 

เซี่ยฉิงกงขี้เกียจเกินกว่าจะเสียเวลาต่อสู้กับฉีเหยียนเอ๋อซึ่งไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใด ๆ กับเธอเลย เธอไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงได้ทำตัวน่าเบื่อขนาดนี้ ยอมแขวนคอตัวเองบนต้นไม้ต้นหนึ่งยาวนานกว่าสิบปี

 

และที่สำคัญก็คือต้นไม้ใหญ่ต้นนี้ไม่มีความรู้สึกใด ๆ กับเธอเลย

 

ประมาณสิบนาทีมู่เฉินฮ่าวก็ก้าวออกมาจากห้องน้ำ

 

เขาอาเจียนเอายาปลุกเซ็กส์ที่เจือจางในท้องออกมาจนหมด ยามนี้เขารู้สึกสบายตัวขึ้นมาก

 

มู่เฉินฮ่าวอาบน้ำเย็นอีกรอบ

 

ดังนั้นเมื่อเขาก้าวออกจากห้องน้ำจึงมีเพียงผ้าขนหนูอาบน้ำผืนเดียวพันบนร่างกายส่วนล่าง ขณะที่ร่างกายส่วนบนที่แข็งแกร่งยังคงมีหยาดน้ำเกาะ

 

เซี่ยฉิงกงกลืนน้ำลาย ขณะมองมู่เฉินฮ่าว เธอพยายามบังคับหัวใจของเธอไม่ให้ไขว้เขว

 

ผู้ชายคนนี้เป็นคู่หมั้นของเธอ ? ทำไมเขาถึงได้หล่อลากดิน !

 

“คุณนี่ชอบทำตัวเหมือนเด็ก อาบน้ำเสร็จก็ไม่รู้จักเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้แห้ง เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก”

 

เซี่ยฉิงกงวิ่งไปที่ห้องน้ำ เพื่ออำพรางใบหน้าแดง ๆ ของตน เธอคว้าผ้าขนหนูผืนใหญ่โยนไปให้มู่เฉินฮ่าว

 

โดยไม่คาดคิด มู่เฉินฮ่าวโยนผ้าขนหนูกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มน่าหลงใหล

“คุณนั่นแหละ ช่วยเช็ดตัวให้ผมหน่อย”

 

เซี่ยฉิงกงไม่ได้ปฏิเสธ เธอหยิบผ้าขนหนูขึ้นมาเช็ดตัวให้มู่เฉินฮ่าวด้วยท่าทางจริงจัง หากแต่ก็อดไม่ได้ที่จะบ่นกระปอดกระแปด

 

“มู่เฉินฮ่าว นี่คุณคิดว่าคุณอายุสามขวบรึไงหา ? ถึงต้องมีคนช่วยคุณเช็ดตัวแบบนี้น่ะ”

 

หลังจากผ่านเรื่องราวมามากมาย เซี่ยฉิงกงก็คิดทบทวนอย่างละเอียดในใจอีกครั้ง แท้ที่จริง เธอเองก็ต้องการแต่งงาน และอยู่กินกับคู่ครองไปตลอดชีวิตโดยไม่มีการหย่าร้าง บางทีมู่เฉินฮ่าวก็อาจเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเธอไม่ใช่หรือ ?

 

หลังจากเช็ดตัวแห้งแล้ว มู่เฉินฮ่าวก็เตรียมสวมใส่เสื้อผ้า เพื่อที่จะได้ลงไปที่ห้องนั่งเล่นพร้อมกับเซี่ยฉิงกง ที่ห้องนั่งเล่นมู่จื่อหมิง และซิงเหวินจิ้งยังคงนั่งรอพวกเขาอยู่

 

ฉีป๋อหยวนรู้ดีว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้จะต้องมาจากผู้หญิงสองคนในครอบครัวของเขา และเพื่อป้องกันไม่ให้ความจริงสร้างความอับอายให้กับทั้งสองครอบครัว เขาจึงออกปากกับมู่จื่อหมิงขอไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

แน่นอนว่ามู่จื่อหมิงเองก็ไม่ต้องการทำลายมิตรภาพที่มีมาเนิ่นนานหลายปี เขาจึงได้ให้โอกาสฉีป๋อหยวนผละจากไป

 

เพราะเมื่อเรื่องทุกอย่างถูกเปิดเผย ผู้หญิงตระกูลฉีทั้งสองคน และซิงเหวินจิ้งก็ตกใจแทบหัวใจวายตายแล้ว

 

ในขณะที่มู่เฉินฮ่าวสวมใส่เสื้อผ้านั้น เขาก็ไม่คิดจะปิดบังใด ๆ เขาสวมใส่เสื้อผ้าต่อหน้าต่อตาเซี่ยฉิงกง และแน่นอนว่าเซี่ยฉิงกงไม่ชอบเลยแม้แต่น้อย เธอจึงรีบหลับตาปี๋ และนั่นก็สร้างความขบขันให้กับมู่เฉินฮ่าวไม่น้อยเลยทีเดียว

 

หลังจากสวมใส่เสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว มู่เฉินฮ่าวก็ตบกระเป๋าของเขาโดยไม่รู้ตัว

 

โทรศัพท์ยังอยู่ในกระเป๋าของเขาอย่างปลอดภัยดี หากแต่ … เครื่องบันทึกเสียงล่ะ ?

 

หัวใจของมู่เฉินฮ่าวหล่นวูบ แววตาที่ลึกล้ำทั้งคู่แสดงให้เห็นถึงความเย็นชา

 

“เซี่ยฉิงกง ตอนที่ฉีเหยียนเอ๋อจากไปเมื่อครู่ เธอถืออะไรไว้ในมือด้วยหรือไม่ หรือเธอเอากระเป๋ามาด้วย ?”

 

มู่เฉินฮ่าวขมวดคิ้วเล็กน้อย ขณะหันหน้าไปถามเซี่ยฉิงกง

 

***จบตอน ปากกาบันทึกเสียงหายไป***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset