แต่งรักมัดใจบอส – ตอนที่ 31 เยี่ยมคุณพ่อที่โรงพยาบาล

ปล่อยให้ชลธีกระทำไปมาอยู่บนร่างกายของตัวเอง มุกดาไม่มีความตื่นเต้นอะไรอีกต่อไป หัวใจของเธอหนาวเหน็บเยือกเย็น ความฝันอันแสนงดงามที่ตัวเองถักทอขึ้นมาพังทลายลงอีกครั้ง ที่แท้แม้กระทั่งคนหน้าตาอัปลักษณ์แบบนี้ยังรังเกียจเธอเลย

“มุกดา เธอกำลังคิดอะไรอยู่?” ขณะที่ชลธีกำลังยุ่ง กลับพบว่ามุกดาเหม่อลอยสติหลุดไปแล้ว

แต่มุกดาไม่ได้พูดอะไร ชลธีถนอมลูบไล้สัมผัสร่างกายของเธอเบาๆ จากการได้สัมผัสมีอะไรกันในช่วงที่ผ่านมา เขารู้จุดอ่อนไหวของมุกดาเป็นอย่างดี เขางับติ่งหูของมุกดา แล้วเลียมันเบาๆ ทำให้มุกดารู้สึกเสียวชาขึ้นมาชั่วขณะหนึ่ง

เธออยากจะทน แต่ในปากกลับส่งเสียงครวญครางอ้อยอิ่งออกมาอย่างอดไม่ได้

ชลธียิ่งพยายามหนักขึ้นไปอีก สุดท้ายมุกดาก็ทนไม่ไหวร่วมรักร่วมสุขไปด้วยกันกับเขา

ชลธีช่วยเช็ดเหงื่อให้มุกดา หลังจากเช็ดตัวเสร็จเขาก็ลุกขึ้นเตรียมตัวจะออกไป ทว่ามุกดากลับคว้าเขาไว้

“สามี ถ้าในอนาคตฉันแต่งงานกับคนอื่น คุณจะรู้สึกปวดใจไหม?” มุกดาอยากจะหาข้อพิสูจน์อีกครั้ง

“ไม่” หลังจากชลธีพ่นคำนี้คายออกมาจากปากแล้ว เขาก็เดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองเลย

น้ำอุ่นกระทบกับร่างกาย ซึ่งมันควรจะรู้สึกสบาย แต่มุกดากลับรู้สึกเจ็บปวดมาก

ร่องรอยช้ำเขียวตามร่างกายของเธอ ล้วนแสดงถึงความอัปยศอดสู คนที่นอนร่วมห้องกับตนทุกวัน แต่กลับไม่มีความรู้สึกใดๆ ต่อตนเลยแม้แต่นิดเดียว มุกดารู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะเคยชินกับการดูแลห่วงใยของบุคคลคนนี้ไปแล้วโดยไม่รู้ตัว

ความเคยชินแบบนี้มันไม่ดีเลย มุกดาเอาน้ำอุ่นราดสาดลงบนใบหน้าของตน เธอล้างมันครั้งแล้วครั้งเล่า ทว่ายังคงรู้สึกว่าตัวเองยังสกปรกมาก สกปรกมากๆ

ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ชอบตน ถ้าอย่างนั้นทำไมเขาถึงไม่เคยเตือนตนเรื่องห้ามตั้งครรภ์เลย ช่วงที่ผ่านมานี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย ตัวมุกดาเองก็ลืมเรื่องการคุมกำเนิดไปเสียสนิทเลย

คำนวณวันเวลาแล้ว วันดีของตนก็อยู่ในระยะไม่กี่วันนี้แล้วเหมือนกัน หวังว่าจะไม่มีข้อผิดพลาดอะไร ถ้าเธอเกิดตั้งท้องขึ้นมา เธอได้แย่แน่เลย

นับตั้งแต่แต่งงานกับธีรเมท จนกระทั่งหย่ากัน และแต่งงานใหม่อีกครั้งในตอนนี้ เป็นเวลาเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น แต่ตนกลับรู้สึกว่ามันยาวนานเหมือนหนึ่งศตวรรษยังไงอย่างนั้นเลย

……………………………………

“พี่ประวีร์ อาการของพ่อฉันเป็นยังไงบ้างคะ?” ตอนที่มุกดามาถึงโรงพยาบาล ประวีร์ก็รออยู่ในห้องผู้ป่วยแล้ว

“อาการยังดีอยู่ เธอก็อย่ากังวลเกินไปเลย อาณิชพนมองโลกในแง่ดีและอยู่อย่างมีความหวัง ซึ่งแบบนี้มีผลดีต่ออาการป่วยของเขามาก แต่เมื่อวานท่านถามพี่เกี่ยวกับเรื่องค่าผ่าตัด พี่เลยบอกเขาไปว่ามีคนใจดีบริจาคเงินช่วยเหลือ เธอต้องพูดในทำนองเดียวกันกับพี่ อย่าทำให้อาณิชพนสงสัย” ประวีร์ดึงมุกดาออกมาอีกทาง

“อืม ขอบคุณพี่ประวีร์มากนะคะ” เมื่อครั้งก่อนมุกดาบอกกับประวีร์ไปว่าอย่าบอกพ่อของตนว่าเงินทั้งหมดนั้นตนเป็นคนออก คิดไม่ถึงว่าประวีร์จะยังใส่ใจเรื่องนี้ตลอดเป็นอย่างดี

“เอาล่ะ ฉันแค่อยากจะบอกเรื่องนี้กับเธอ เธอไปดูอาณิชพนเถอะ” ประวีร์ไปพบณิชพนเป็นเพื่อนกันกับมุกดา

“มุก มาแล้วเหรอ?” เมื่อณิชพนเห็นลูกสาวของตนเองมา รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

“พ่อคะ วันพรุ่งนี้พ่อก็จะไปแล้ว หนูก็เลยมาดูค่ะ พ่อรู้สึกยังไงบ้างคะ?” มุกดาเดินเข้าไป เธอนั่งลงด้านข้างของณิชพน

“ดีมาก พ่อดีมากเลย ต้องขอบคุณคนใจดีคนนั้น มุก ถ้าหนูรู้ว่าเป็นใครที่ทำเรื่องดีแบบนี้ หนูต้องตอบแทนเขาอย่างดีเลยนะ” ณิชพนรู้สึกแปลกในใจ แต่เขากลับพูดอะไรไม่ออก

คนดีที่ไหนจะออกเงินจำนวนมากขนาดนี้ให้ตนได้ทำการผ่าตัด แถมยังหาหัวใจที่เหมาะสำหรับตนให้อีกด้วย เขาไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ แต่เขาคิดว่าประวีร์เป็นคนทำ

“เข้าใจแล้วค่ะ คุณพ่อวางใจไปเถอะค่ะ หนูมุกดาก็เป็นคนรู้จักบุญคุณคนนะคะ ถ้าหนูรู้ว่าเป็นใคร หนูจะตอบแทนเขาอย่างดีแน่นอนค่ะ” มุกดารู้สึกขมขื่นในใจ แต่ต่อหน้าณิชพนเธอกลับแสร้งทำหน้าตาสดใส

มุกดาซื้อเค้กที่พ่อของเธอชอบกินมาให้เขา และอยู่พูดคุยต่อกับเขาอีกมากมายหลายเรื่อง เธออาลัยอาวรณ์ไม่อยากจากพ่อของเธอ แต่เพื่อเป็นผลดีต่อพ่อของเธอจึงจำเป็นต้องไป

ประวีร์ก็อยู่เป็นเพื่อนเธอที่ห้องผู้ป่วยตลอด

“ธีรเมททำไมไม่มา? เขาไม่รู้เหรอว่าพรุ่งนี้พ่อก็จะไปแล้ว?” สามทุ่มกว่าเข้าไปแล้ว ณิชพนยังไม่เห็นแม้แต่เงาของธีรเมทเลย

“อ้อ พ่อคะ วันนี้ธีรเมทเขามีธุระค่ะ ไปทำงานนอกสถานที่ อีกหลายวันเลยค่ะกว่าจะกลับมา” มุกดาหลบสายตา

“อ้อ อย่างนี้นี่เอง ถ้าอย่างนั้นมุกก็รีบกลับไปเถอะ ฟ้ามืดมากแล้ว เด็กผู้หญิงคนเดียวไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่” ณิชพนก็เหนื่อยแล้ว เดิมทีหัวใจของเขาก็ไม่ดีนัก คืนนี้ก็พูดไปเสียเยอะ เขาอยากพักผ่อนแล้ว

“อาณิชพน เดี๋ยวผมไปส่งมุกกลับเองครับ” ประวีร์บอกกับณิชพน

“อืม ดี ถ้าอย่างนั้นขอบใจมากนะวีร์ เธอยังเป็นเด็กดีเหมือนตอนเด็กเลย” หลังจากณิชพนพูดประโยคสุดท้ายแล้ว เขาก็หลับตาลงและผล็อยหลับไป

“มุก ไปเถอะ เดี๋ยวพี่ไปส่งเธอเอง” ประวีร์ลากมุกดาออกจากห้องพักผู้ป่วย

“โอเคค่ะ พี่ประวีร์ พ่อของฉันรบกวนพี่มากเลยจริงๆ” มุกดามองไปที่ประวีร์

ถ้าอย่างชลธีถือเป็นบุคลิกแบบกษัตริย์ ถ้าอย่างนั้นประวีร์ก็คงเป็นสไตล์บัณฑิตปัญญาชน

ใบหน้าที่หล่อเหลาอย่างไม่มีเหตุผล กับท่าทางสุภาพอ่อนโยนสง่างามตลอดเวลานั้น

นึกถึงตอนเด็กที่ตนเองเอาแต่วิ่งไล่ตามประวีร์ ถามเขาว่าอยากจะแต่งงานกับตนไหม

แต่สิบปีผ่านไป ทุกสิ่งทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปจนไม่สามารถเป็นไปได้แล้ว ตนกลายเป็นผู้หญิงที่แต่งงานสองครั้งแล้ว ถ้าให้หย่าอีกครั้ง แม้แต่ตัวเธอเองยังดูถูกตัวเองเลย

“พูดอะไรอย่างนั้น พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ยังจะพูดคำเกรงอกเกรงใจแบบนี้อีก” ประวีร์ยังเหมือนตอนยังเป็นเด็ก เขาชอบผมของมุกดามากๆ ทั้งดกดำ ทั้งยาว ทั้งนุ่มลื่น

ทั้งสองคนเดินไปคุยกันไปด้วยรอยยิ้ม เมื่อมาถึงหน้ารถของประวีร์ ประวีร์ก็ช่วยเปิดประตูรถให้มุกดา พอมุกดาเข้าไปนั่งแล้ว เขายังช่วยเธอคาดเข็มขัดนิรภัยให้อย่างใส่ใจอีกด้วย

“มุก วันนี้พี่ยังไม่ได้กินข้าวเย็นเลย เธอไปกินข้าวเป็นเพื่อนพี่หน่อยได้ไหม?” ท้องของประวีร์ส่งเสียงร้องอย่างให้ความร่วมมือ

“พี่ประวีร์ พี่ยังไม่ได้กินข้าว? ถ้าอย่างนั้นพวกเรารีบไปหาร้านอาหารสักร้านเถอะค่ะ จะเป็นกระเพาะเอาไม่ได้นะคะ” เมื่อได้ยินว่าประวีร์ยังไม่ได้ทานข้าว มุกดาก็ร้อนใจขึ้นมาเหมือนกัน คุณหมอก็เป็นแบบนี้ บางทีมัวแต่ยุ่งอยู่กับงานจนไม่ได้ทานอะไรเลยเป็นเวลานานๆ

“งั้นโอเค เดี๋ยวพี่จะพาเธอไปร้านอาหารร้านหนึ่ง รสชาติไม่เลวเลยล่ะ” เมื่อประวีร์เห็นว่ามุกดายังคงห่วงใยตัวเองมาก ภายในใจของเขาก็เกิดความหวานขึ้นมาในใจ

ร้านอาหารเล็กๆ ร้านหนึ่ง ประตูทางเข้าดูโดดเดี่ยว ดูไม่มีอะไรพิเศษ

ประวีร์จอดรถเรียบร้อยแล้วก็ลากมุกดาเข้าไปในร้านอาหาร หลังจากเข้าไปในร้านอาหารแล้วมุกดาถึงได้พบว่าที่นี่มีคนมาทานอาหารกันเป็นจำนวนมาก ห้องส่วนตัวหลายห้องยังมีคนอยู่ ถ้าไม่ใช่เพราะประวีร์โทรเข้ามาตั้งแต่อยู่บนรถเมื่อครู่นี้ ตอนนี้คงจะยังไม่มีที่นั่งแน่นอน

เมื่อมาถึงห้องส่วนตัว พนักงานเปิดประตูให้ ก่อนประวีร์จะพามุกดาเข้าไปนั่ง

แต่งรักมัดใจบอส

แต่งรักมัดใจบอส

ภายในหนึ่งเดือน แต่งงาน หย่า แต่งงาน มุกดาไม่รู้ว่าตนสุขหรือทุกข์กันแน่แต่งงานอีกรอบกลับไม่รู้ว่าสามีเธอเป็นใครแค่กลางคืนกับมานอนกับเธอตรงเวลา”ประธานชลธี ฉันจะลาออก” “ได้ เธอดูสัญญาให้ดี “จ่ายเงินละเมิดสัญญาสิบล้านมาซะ แล้วเธอจะไปไหนฉันก็ไม่ห้ามในการทำงานยังเจอประธานโรคจิต มุกดารู้สึกว่าชีวิตเธอช่างมืดมนไร้แสงสว่างยิ่งนักแต่ทว่าเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่ มุกดาคิด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset