แต่งรักมัดใจบอส – ตอนที่ 419 สะดุดตาเหมือนกัน

ธีรนัยน์จ้องมองกระโปรงชุดสีขาวตัวนั้น เธอเอาออกมาอย่างไม่รู้ตัว และจัดการทาบลงบนตัวของตัวเอง จนทำให้เธออยากลองใส่จนน่าแปลกใจ

ดังนั้นเธอจึงถอดเสื้อผ้าไซต์ M ตัวโคร่งที่อยู่บนตัวออกไป และจัดการสวมกระโปรงชุดขาวชุดนั้นแทน

เป็นชุดกระโปรงสั้นแบบธรรมดา ตรงช่วงเอวตีเกล็ดเอาไว้แล้ว จนทำให้ช่วงเอวของธีรนัยน์เด่นขึ้นมา บริเวณหน้าอกของเธอยังมีผ้าพันหน้าอกไว้ด้วย เพียงเธอแกะผ้าที่พันหน้าอกออกมา เจ้ากระต่ายตัวจ้อยสีขาวสองตัวก็ถูกปลดปล่อยออกมาทันที

ที่แท้กระโปรงตัวนี้ใส่แล้วสวยแบบนี้เอง ธีรนัยน์ก็เป็นคนที่สวยมากอยู่แล้ว กระโปรงชุดนี้มันยิ่งขับลำคอระหงกับไหปลาร้าอันงดงามเด่นชัดขึ้นมา

ธีรนัยน์สวมกระโปรงและบิดไปมาอยู่หน้ากระจก รอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนใบหน้ายิ่งฉีกยิ้มกว้างขึ้นเรื่อยๆ

“นะ นะ นัยน์?” จังหวะที่บุณยอรผลักประตูเข้ามานั้น เธอคิดว่าตนเองเข้าห้องผิดไปแล้ว สาวน้อยคนสวยที่ยืนอยู่หน้ากระจกเป็นลูกสาวของตนเองงั้นเหรอ? เด็กที่จะเป็นผู้ชายก็ไม่ใช่ผู้หญิงก็ไม่เชิงคนนั้นเหรอ?

“แม่! แม่เข้ามาทำไมถึงไม่เคาะประตูล่ะ?” ธีรนัยน์หน้าแดงเป็นปื้นทันที เธอไม่คิดว่าแม่ของตนเองกลับมาแล้ว และยิ่งไม่คิดอีกว่ามารดาของตนเองจะผลักประตูเข้ามาและเห็นภาพที่ตนเองช่างน่าอายที่สุด

“แม่เคาะประตูแล้วนะ แต่ลูกคงไม่ได้ยินมั้ง พระเจ้าช่วย นี่เทพธิดานางฟ้าลงมายังโลกมนุษย์หรือยังไงเนี่ย? ลูกรัก ลูกใส่กระโปรงมันช่างสวยมากเหลือเกิน” บุณยอรเริ่มออกปากชมลูกสาวของตนเองทันที ไม่เคยเห็นภาพลูกสาวตนเองงดงามหยาดเยิ้มแบบนี้มาก่อนเลย

แต่ธีรนัยน์ต้องการจะเปลี่ยนกระโปรง บุณยอรรีบเข้าไปห้ามเธอเอาไว้ทันที

“ไม่ต้องเปลี่ยนเลย แบบนี้สวยมาก แม่รู้สึกว่ามันสวยมากเลย พอดีเลยพรุ่งนี้มีงานเลี้ยง ที่แม่กลับมาก็เพื่อจะเตรียมตัวให้ลูกไปร่วมงานด้วย ลูกใส่กระโปรงตัวนี้นะ!” บุณยอรรู้สึกพอใจกับลูกสาวของตนเองเหลือเกิน

“อะไรนะ? คุณแม่ แม่คุณจะพาหนูไปงานเลี้ยงด้วย แถมยังให้หนูใส่กระโปรงตัวนั้นอีก?” ธีรนัยน์รู้สึกว่ามารดาของตนเองคงถูกกระตุ้นจากตนเอง เพราะเธออายุ 30ปีเข้าไปแล้ว ไม่เคยใส่กระโปรงออกจากบ้านมาก่อนเลย

“ใช่สิ ทำไม ไม่ได้เหรอ? ลูกก็เป็นผู้หญิงอยู่แล้ว ก็น่าจะแต่งตัวให้สวยสิ ควรจะใส่กระโปรงนะ วันทั้งวันเอาแต่ใส่ชุดทำงานพวกนั้น เวลาส่วนตัวก็ควรจะใส่กระโปรงสวยๆ สักหน่อย ถ้าลูกไม่ชอบกระโปรงตัวนี้ พรุ่งนี้แม่จะไปซื้อให้ลูกใหม่” บุณยอรจ้องมองลูกสาวของตนเองโดยไม่ละสายตาเลย

“คุณแม่ หนูไปร่วมงานเลี้ยงกับแม่ได้นะ แต่คุณแม่จะให้หนูใส่กระโปรงตัวนี้ออกไปเหรอ หนูไม่ใส่!” ในใจของธีรนัยน์ไม่สามารถก้าวผ่านจุดนั้นไปได้ เธอไม่กล้าใส่กระโปรงออกจากบ้านจริงๆ โดยเฉพาะการใส่กระโปรงมันยังต้องใส่รองเท้าส้นสูงอีก เธอไม่เคยใส่รองเท้าส้นสูงมาก่อนเลยด้วยซ้ำ

“นัยน์ ลูกอายุ30แล้ว ก็ควรจะสร้างสังคมในแวดวงคนดังสักหน่อย เพื่อนเยอะเป็นเรื่องที่ดี มีผู้ชายที่เหมาะสม ถ้าชอบก็บอกแม่มา เดี๋ยวแม่ช่วยจัดการเอง!” บุณยอรเริ่มใช้นิสัยความบ้าอำนาจของเธออีกครั้ง

“แม่ ทำไมไม่เป็นคนแบบนี้เนี่ย ถ้าหนูชอบใครแม่ก็จะไปแย่งมาให้หนูเหรอ? หนูทำเรื่องพวกนี้เองไม่ได้เหรอ” ธีรนัยน์ตอนแรกก็รู้สึกว่าช่วงนี้แม่ของเธอดีมากเลย แต่พอใช้ความบ้าอำนาจของเธอออกมาเท่านั้นแหละ มันทำให้ธีรนัยน์ไม่ชอบใจเลย

“ขอโทษจ้าลูก แม่ผิดเอง แม่ผิดเอง ลูกชอบผู้ชายคนไหนลูกก็ไปจีบเอาเลย ผู้หญิงชีวิตนี้ยังไงก็ต้องแต่งงานอยู่แล้ว แม่แค่กลัวว่าลูกจะเสียเปรียบ? งั้นก็ตกลงตามนี้ งานเลี้ยงคืนพรุ่งนี้ลูกจะไปงานเป็นเพื่อนแม่ แต่ลูกต้องใส่กระโปรงนะ!” บุณยอรไม่ให้โอกาสธีรนัยน์ตอบโต้กลับแต่อย่างใด เธอพูดจบก็เดินออกไปทันที

จู่ๆ วันนี้ก็อยากจะไปงานเลี้ยงของเพื่อนร่วมห้องที่จะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้พอดี เธออยากจะพาธีรนัยน์ซึ่งเป็นความภูมิใจของตนเองไปร่วมงานด้วย ดังนั้นเธอจึงรีบตาลีตาเหลือกกลับมาทันที ไม่คิดเลยว่าจะมาทันแถมยังมีเซอร์ไพรส์พ่วงท้ายอีก ที่ได้เห็นของดีที่ร้อยปีก็ยังหาๆ ไม่เจอด้วยซ้ำ นั่นก็คือลูกสาวของตนเองใส่กระโปรงนี่แหละ

บุณยอรเดินออกไปอย่างมีความสุข และไม่คำนึงถึงธีรนัยน์ที่คอยตะโกนเรียกเธอทางด้านหลังเลย เธอยังวางแผนว่าพรุ่งนี้ช่วงกลางวันจะไปซื้อชุดใหม่ให้ธีรนัยน์จากนั้นก็จัดรองเท้าส้นสูงขนาดปานกลาง เพราะธีรนัยน์ไม่เคยใส่รองเท้าส้นสูงเลย เธอก็ต้องคำนึงถึงเรื่องนี้ด้วย

ธีรนัยน์มองเห็นว่ามารดาของตนเองไม่ได้ยินคำพูดของตนเองเลย เธอเองก็หมดคำพูดแล้วจริงๆ ในทางกลับกันพรุ่งนี้เธอไม่ใส่กระโปรงไปแน่

หลังจากถอดกระโปรงแล้ว ธีรนัยน์ก็อาบน้ำเตรียมตัวเข้านอน เธอเองก็เหนื่อยล้าเต็มที แถมหลับปุ๋ย ในความฝันเธอฝันซ้ำว่าตนเองใส่ชุดแต่งงานสีขาว และกำลังแต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่ง หน้าตาของผู้ชายคนนั้นดูเลือนรางมาก แต่ในใจของตนเองกลับมีความสุขมาก

แม่บอกกับตนเองควรใส่กระโปรงเพื่อแสดงตัวตน ณฐวรก็รู้อยู่แล้วว่าตนเองเป็นผู้หญิงแล้วด้วย ลูซี่ก็รู้ว่าตนเองเป็นผู้หญิงแล้ว มุกก็รู้ งั้นสถานะของตนเองก็ไม่ใช่ความลับอะไรอีกต่อไปแล้ว จะใส่กระโปรงออกบ้านดีไหมนะ?

ความมุ่งมั่นของธีรนัยน์ปรากฏลอยอยู่ในความฝัน เธอตั้งตารอคอยลักษณะของตนเองตอนที่แต่งตัวเป็นผู้หญิง

เช้าวันรุ่งขึ้นเป็นวันที่อากาศดีมาก ยามเช้าตรู่พระอาทิตย์สีทองอร่ามก็โผล่หน้าออกมา จนทอแสงเป็นสีทองนวลผ่องลงบนพื้นผิวโลก จนทำให้คนรู้สึกดีขึ้นมาก

บุณยอรลุกขึ้นมาทำโจ๊กปลาไว้ให้ธีรนัยน์ตั้งแต่เช้าเรียบร้อยแล้ว เธอกินอาหารเช้าเพียงเล็กน้อยจากนั้นก็รีบตาลีตาเหลือกไปห้างสรรพสินค้าทันที ได้ยินว่าวันนี้มีเสื้อผ้ารุ่นลิมิเต็ดอีดิชั่นจะมาถึงเยอะแยะ เธอต้องซื้อกระโปรงให้ลูกสาวตนเอง คืนนี้ต้องจัดการแต่งตัวให้ลูกสาวสวยๆ เพื่อให้ทุกคนอิจฉากันเป็นแถว!

อาจจะเป็นเพราะว่าทุกคนรู้ว่าวันนี้จะมีของใหม่เข้ามั้ง บรรดาคุณหญิงคุณนายในพระนครต่างมารอคอยกันที่หน้าประตูสาขาตั้งแต่ไก่โห่

บุณยอรแม้ว่าจะใช่คนแรก ตอนที่เธอมาถึง ด้านหน้าของตนเองก็มีคนอยู่สองคน รวมเธอก็เป็นสามคน

บุณยอรเพิ่งจะยืนรอ ด้านหลังของเธอก็มีคนมาต่อคิว เหมือนเป็นคู่แม่ลูกกัน ผู้หญิงคนมีอายุหน่อยดูเชยๆ ส่วนผู้หญิงที่ยังวัยรุ่นอยู่สวยกว่าหน่อย

แต่ทว่าบุณยอรก็ไม่ได้มองอะไรมาก เมื่อประตูสาขาเปิด เธอก็เข้าไปด้านในทันที

วันนี้มีรุ่นใหม่เข้ามาเยอะมากจริงๆ ด้วย คนในร้านก็รีบเฟ้นหาเสื้อผ้าที่ตนเองชอบอย่างอดใจรอไม่ไหว

บุณยอรถูกใจกระโปรงสีขาวชุดหนึ่งเข้า เมื่อวานเห็นใส่กระโปรงสีขาว เธอรู้สึกว่าลูกสาวใส่สีขาวแล้วน่าจะสวยมาก ชุดราตรีสีขาวชุดนั้นเป็นรุ่นใหม่

“แม่ แม่ว่ากระโปรงชุดนั้นเป็นไงบ้าง?” คู่แม่ลูกสองคนก็ถูกใจกระโปรงตัวนั้นเช่นเดียวกัน พวกเขาก็เดินมุ่งหน้ามาทันที

บุณยอรยื่นมือออกไปหยิบลงมา จากนั้นก็เดินไปยังพนักงานแคชเชียร์ทันที “ห่อให้ฉันด้วยนะ” ขั้นตอนทั้งหมดเกิดรวดเร็วดั่งสายน้ำไหล สองคนแม่ลูกยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองอะไรเลย บุณยอรก็จ่ายเงินค่ากระโปรงชุดนั้นเรียบร้อยแล้ว

“นี่ กระโปรงชุดนั้นฉันเห็นก่อน” ผู้หญิงวัยรุ่นเห็นว่ากระโปรงที่ตนเองชอบนั้นดันโดนคนอื่นตัดหน้าซื้อไปแล้ว เธอเลยรู้สึกไม่ชอบใจมาก

“ถ้าคุณเห็นก่อน แล้วทำไมฉันถึงซื้อเรียบร้อยแล้วล่ะ? อย่าเถียงกันข้างๆ คูๆ แบบนี้เลย ฉันจ่ายเงินไปแล้ว คุณยังจะเถียงเอาอะไรอีก ไม่รู้สึกน่าเบื่อหรือไง?” ” บุณยอรแทบไม่สนใจอีกฝ่ายด้วยซ้ำ

สิริกรเห็นว่าลูกสะใภ้ของตนเองโดนตอกกลับมา เธอเลยเสนอหน้าทันที

“ใช่กระโปรงชุดนั้นพวกเราเห็นก่อน ผู้หญิงอย่างคุณนี่ช่างทำเกินเหตุเหลือเกิน!”

แต่งรักมัดใจบอส

แต่งรักมัดใจบอส

ภายในหนึ่งเดือน แต่งงาน หย่า แต่งงาน มุกดาไม่รู้ว่าตนสุขหรือทุกข์กันแน่แต่งงานอีกรอบกลับไม่รู้ว่าสามีเธอเป็นใครแค่กลางคืนกับมานอนกับเธอตรงเวลา”ประธานชลธี ฉันจะลาออก” “ได้ เธอดูสัญญาให้ดี “จ่ายเงินละเมิดสัญญาสิบล้านมาซะ แล้วเธอจะไปไหนฉันก็ไม่ห้ามในการทำงานยังเจอประธานโรคจิต มุกดารู้สึกว่าชีวิตเธอช่างมืดมนไร้แสงสว่างยิ่งนักแต่ทว่าเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่ มุกดาคิด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset