แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี – บทที่ 129 จะไม่ให้เธอถูกรังแกเป็นอันขาด / บทที่ 130 ความหนักแน่นน้อยไปนะไอ้หนุ่ม

บทที่ 129 จะไม่ให้เธอถูกรังแกเป็นอันขาด

 

 

เฉินเมิ่งฉีจิกมือตัวเองแน่น ด่าเยี่ยหวันหวั่นในใจว่า “ยัยโง่” นับครั้งไม่ถ้วน ใบหน้าเผยอารมณ์น้อยใจ อธิบายด้วยดวงตาแดงก่ำ “ไม่ใช่อย่างนั้น ฉันคิดว่าเยียนหรานชอบซ่งจื่อหางมากขนาดนี้ อีกทั้งการแข่งขันวันนี้ยังสำคัญมาก เยียนหรานอาจจะมาที่สนามบาสเกตบอล ก็เลยเสี่ยงดวงมาลองดู…”

 

 

เยี่ยหวันหวั่นฟังด้วยความยกย่องชื่นชมในทักษะการพูดเปลี่ยนดำให้เป็นขาว เอาตัวรอดได้อย่างลื่นไหลจนต้องกราบเบญจาคประดิษฐ์ให้เลย

 

 

เจียงเยียนหรานแพ้อย่างไม่ต้องเสียใจ!

 

 

เห็นสีหน้าเฉินเมิ่งฉีเต็มไปด้วยความเสียใจน่าสงสาร ความปราถนาอยากปกป้องของซ่งจื่อหางที่อยู่ด้านข้างพลันระเบิดออกมา เมื่อนึกถึงว่าตอนนี้กำลังจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ความกล้าพลันเอ่อล้น มองไปทางเจียงเยียนหรานด้วยความโกรธ “เจียงเยียนหราน เธอจะพอได้หรือยัง? เป็นตัวเธอเองแท้ๆ ที่เอาแต่ใจทำให้คนรอบข้างต้องเป็นห่วง ตอนนี้ยังจะมาโทษเมิ่งฉี เธอคิดว่าศูนย์กลางโลกของทุกคนต้องหมุนรอบคุณหนูไฮโซอย่างเธอหรือไง?”

 

 

เฮอะ หมุนรอบเธอเหรอ?

 

 

หลายปีมานี้ ใครหมุนรอบใครกันแน่?

 

 

เจียงเยียนหรานมองใบหน้าซ่งจื่อหางที่ผดุงความยุติธรรมให้เฉินเมิ่งฉี หัวใจเต็มไปด้วยความปวดร้าว

 

 

เธอจะต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ก่อนหน้านี้ถึงได้คิดว่าความรู้สึกระหว่างกันตั้งนานหลายปี ผู้ชายคนนี้อย่างไรก็ต้องใส่ใจความรู้สึกของเธอ

 

 

เห็นเจียงเยียนหรานเม้มริมฝีปากแน่น เยี่ยหวันหวั่นหรี่ตามองไปทางซ่งจื่อหาง เอ่ยขึ้นเนิบๆ “หัวหน้าทีมซ่ง นายจะต่อว่าเยียนหรานทำไม? เมื่อกี้เธอขอบคุณที่เมิ่งฉีเป็นห่วงไม่ใช่เหรอ? ต่อให้นายชอบเมิ่งฉี ก็จะใส่ร้ายเยียนหรานแบบนี้ไม่ได้หรือเปล่า? ต่อให้ฉันเป็นเพื่อนสนิทของเมิ่งฉี แต่แม้แต่ฉันก็ทนดูต่อไปไม่ได้แล้ว!”

 

 

คำพูดนี้ของเยี่ยหวันหวั่นปลุกระดมคลื่นลูกหนึ่งได้สำเร็จ เมื่อครู่ทุกคนเห็นกับตาว่าตั้งแต่ต้นจนจบเยียนหรานพูดแค่เพียงประโยคเดียว เรื่องราวทั้งหมดล้วนเป็นเพราะเฉินเมิ่งฉียัยนักแสดงตัวแม่ทำตัวน่าสงสารไปทั่ว ซ่งจื่อหางก็ดันเชื่อและเริ่มต่อว่าเจียงเยียนหรานขึ้นมา

 

 

เดิมทีหลงคิดว่าเป็นเจียงเยียนหรานเองที่ไม่มีกึ๋นเลยถูกผู้ชายทิ้ง ตอนนี้ก็ได้รู้สักทีว่าเป็นเพราะอะไร? คนบางคนก็เสแสร้งเกินไปแล้ว!

 

 

เยี่ยหวันหวั่นพูดจบยังจงใจมองไปทางเฉินเมิ่งฉีแล้วถาม “เมิ่งฉี เธอว่าฉันพูดถูกมั้ย? หัวหน้าทีมซ่งก็พูดจาไร้เหตุผลเกินไป!”

 

 

เวลานี้ เฉินเมิ่งฉีโกรธเพราะเยี่ยหวันหวั่นจนแทบกระอักเลือดแล้ว ยัยโง่สมควรตายนี่ พูดไม่เป็นก็เงียบปากไปได้ไหม วันนี้อ้าปากก็หาเรื่องหาราวให้เธอ แล้วเธอยังใช้เหตุผลพูดด้วยไม่ได้เลย!

 

 

เพื่อรักษาภาพลักษณ์บริสุทธิ์งดงาม เฉินเมิ่งฉีได้แต่อดกลั้นเอาไว้ “หัวหน้าซ่งคะ อย่าโทษเยียนหรานเลยค่ะ ทุกอย่างเป็นฉันผิดเอง…”

 

 

เดิมซ่งจื่อหางยังอยากพูดอะไร แต่การแข่งเริ่มแล้ว โค้ชด้านล่างก็เร่งมา

 

 

“เมิ่งฉี ฉันไปก่อนนะ”

 

 

“ไปเถอะ พวกเราสู้ๆ กัน!” เฉินเมิ่งฉีพูดอย่างเหนียมอาย

 

 

ที่จริงเธอรู้สึกเฉยๆ กับซ่งจื่อหาง หลักๆ ก็เพราะเขาคือคนที่เจียงเยียนหรานชอบ ทว่าจากข่าวลือที่ได้ยินมาเร็วๆ นี้ ตระกูลซ่งเป็นเป้าหมายให้จับที่ไม่เลวเลยทีเดียว

 

 

“แน่นอนอยู่แล้ว ฉันจะคว้ารางวัลมาเป็นของขวัญให้เธอเอง!”

 

 

ซ่งจื่อหางว่าจบ ก็กลับไปที่สนามอย่างกระปรี้กระเปร่า ผู้ชมรอบด้านก็กลับไปที่นั่งตัวเอง และมุ่งความสนใจไปที่การแข่งขัน

 

 

เยี่ยหวันหวั่นกับเจียงเยียนหรานนั่งลงตรงที่นั่งว่างแถวด้านหลังพวกเฉินเมิ่งฉี

 

 

เจียงเยียนหรานนั่งลงไปด้วยความอ่อนเพลีย พึมพำด้วยสีหน้าเยาะหยันตัวเอง “หวันหวั่น ขอบคุณนะ จู่ๆ ฉันก็รู้สึกว่าตัวเองไร้ประโยชน์จริงๆ …”

 

 

เยี่ยหวันหวั่นหัวเราะเบาๆ “เด็กดี วันนี้เธอทำได้ดีมากแล้ว เธอเมินพวกเขาก็เป็นการดูถูกที่ดีที่สุดแล้วแหละ เมื่อกี้ถ้าไปเถียงกับเขาเหมือนภรรยาโกรธสามีต่างหากถึงจะเสียหน้า เรื่องไม่ดียกให้ฉันจัดการก็พอ ในเมื่อฉันกล้าให้เธอมา ก็จะไม่ให้เธอถูกใครรังแกเป็นอันขาด!”

 

 

………………………………….

 

 

 

 

 

 

บทที่ 130 ความหนักแน่นน้อยไปนะไอ้หนุ่ม

 

 

ได้ยินน้ำเสียงของเยี่ยหวันหวั่นที่นับเธอไปอยู่ในขอบเขตการปกครองของตัวเองแล้ว หัวใจของเจียบเยียนหรานพลันรู้สึกอุ่นวาบ ยิ้มเอ่ยว่า “ไม่น่าเชื่อว่านี่เป็นครั้งแรกที่ฉันพบว่าเธอร้ายกาจขนาดนี้!”

 

 

เฉินเมิ่งฉีถูกหลอกแล้วยังไม่รู้ตัว ยังหลงคิดว่าเยี่ยหวันหวั่นเป็นคนโง่จริงๆ อีก

 

 

“ขอบคุณสำหรับคำชม อ๊ะ! ดูเร็ว! ฉู่เฟิง!” หางตาของเยี่ยหวันหวั่นเห็นชายหนุ่มรูปหล่อสดใสเดินออกมาจากห้องพักผ่อน

 

 

ชายหนุ่มสวมชุดบาสเกตบอลลายฟ้าขาว ผมสั้นสีน้ำตาลเข้มมีความหยักศกธรรมชาติเล็กน้อย ศีรษะคาดริบบิ้นเส้นหนึ่ง รอยเส้นกล้ามเนื้อที่เผยอยู่ด้านนอกสวยงามและไม่มากเกินไป ใบหน้าหล่อเหลามองดูเด่นสะดุดตาจากกลุ่มพวกผู้ชายทั่วไป

 

 

“กรี๊ดๆ! ฉู่เฟิง! รุ่นพี่ฉู่เฟิง!”

 

 

“รุ่นพี่ฉู่เฟิงหล่อจังเลย!”

 

 

รุ่นน้องหญิงที่อยู่ระดับชั้นต่ำกว่าอดไม่ไหวจนส่งเสียงกรี๊ดออกมา กระทั่งสาวๆ ชิงเหอจำนวนไม่น้อยยังส่งเสียงกรี๊ดออกมาด้วย

 

 

ในทีมบาสเกตบอลจิ่นซิ่ว หากพูดถึงทักษะการเล่นบาสของฉู่เฟิงนับ ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร การเล่นบาสของเขาเป็นเพียงงานอดิเรกเท่านั้น แต่ใครใช้ให้เขาหน้าตาดีที่สุดเล่า!

 

 

เพียงแต่ เทียบกับท่าทีเอ้อระเหยลอยชายเมื่อก่อนของเขาแล้ว วันนี้ท่าทีของฉู่เฟิงกลับแตกต่างออกไปอย่างชัดเจน

 

 

สายตาของชายหนุ่มดุดัน หน้าเครียดเดินอยู่ในทีม ต่างไปจากท่าทางเอาจริงเอาจังในยามปกติยิ่งทำให้สาวน้อยทั้งหลายกรี๊ดกร๊าด

 

 

เยี่ยหวันหวั่นเองก็กำลังคิดจะเอ่ยชมสักประโยค ผลคือ…เพียงแวบเดียวก็เห็นชายหนุ่มกำลังเดินอยู่ดีๆ อยู่ดีๆ ก็โซเซ จนเกือบจะล้มลงไปตรงนั้น…

 

 

“เอ่อ…”

 

 

เยี่ยหวันหวั่นยืนยันได้ว่า พริบตาที่ฉู่เฟิงสะดุดล้ม ได้มองมาทางเจียงเยียนหรานทีหนึ่ง

 

 

“ความหนักแน่นน้อยไปนะไอ้หนุ่ม!” เยี่ยหวันหวั่นก่ายหน้าผาก “นี่แค่มองทีหนึ่งก็เกือบจะล้มไปแล้ว อีกเดี๋ยวนายจะแข่งยังไง?”

 

 

เสียงตะโกนเชียร์ “รุ่นพี่ฉู่เฟิงสู้ๆ” ด้วยความหวังดีดังกระหน่ำจากอัฒจันทร์ผู้ชม พี่ชายสุดหล่อต่อให้เกือบจะล้มก็ยังน่ารัก

 

 

เจียงเยียนหรานมองหนุ่มน้อยบนสนามแข่งที่กำลังเกาศีรษะอย่างเก้อเขิน รู้สึกกังวลขึ้นมา

 

 

แม้ว่าจะตัดสินใจจะลองดูแล้ว แต่จากสถานการณ์ของเธอตอนนี้ ไม่มีทางทุ่มเทความรู้สึกให้ใครอีกคนได้รวดเร็วแบบนี้ เพียงแต่เห็นท่าทางเก้อเขินของชายหนุ่มแล้ว เหมือนว่าเธอจะไม่ได้รังเกียจเขาอย่างที่จินตนาการไว้

 

 

ขณะที่เจียงเยียนหรานกำลังมองฉู่เฟิงอยู่นั้น รู้สึกได้ถึงสายตาแผดเผาที่มองมาที่ตนเองอย่างประหลาด เมื่อหันไปมอง ก็ประสบกับสายตาของซ่งจื่อหางเข้าพอดี

 

 

ซ่งจื่อหาง…กำลังมองเธออย่างนั้นเหรอ?

 

 

คิดไปเองล่ะมั้ง เมื่อกี้เขาน่าจะกำลังมองเฉินเมิ่งฉีมากกว่า?

 

 

เยี่ยหวันหวั่นพบว่าเจียงเยียนหรานกำลังมองซ่งจื่อหาง จึงเอ่ยเตือนสติขึ้นทันที “มองไปทางไหนน่ะที่รัก ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป สายตาของเธอมองได้แค่ฉู่เฟิงเท่านั้น ห้ามมองซ่งจื่อหางแม้แต่ครั้งเดียว จำไว้นะ!”

 

 

เจียงเยียนหรานถึงได้รู้สึกตัวขึ้น พยักหน้า “อื้อ!”

 

 

จากมุมของพวกเยี่ยหวันหวั่นสามารถมองเห็น เพื่อนร่วมทีมทั้งหลายของซ่งจื่อหางกำลังล้อมซ่งจื่อหางด้วยเสียงหัวเราะยิ้มแย้ม เหมือนว่ากำลังหยอกล้อเขา ชายหนุ่มกลุ่มนั้นหันมองทางเฉินเมิ่งฉีที เจียงเยียนหรานที

 

 

“ลูกพี่! มีโชคเรื่องผู้หญิงไม่เบาเลยๆ! สาวสวยคนดังทั้งสองต่างก็วิ่งมาเชียร์พี่ แล้วยังจะชิงรักหักสวาทกันอีก”

 

 

“อิจฉาจะตายอยู่แล้วเนี่ย! แบ่งให้ฉันสักคนก็ได้นะ”

 

 

“พูดจริงๆ เป็นครั้งแรกที่ผมรู้ว่าคุณหนูใหญ่เจียงจะสวยขนาดนี้ รูปร่างก็ดีระเบิด! ผมว่าไม่แพ้เฉินเมิ่งฉีเลยนะ ลูกพี่จะไม่คิดดูใหม่อีกทีเหรอครับ?”

 

 

“เฮ้ยๆ ลูกพี่เก็บไว้ทั้งสองคนไปเลยสิ!”

 

 

 

 

มีผู้ชายคนไหนที่จะไม่ชอบได้รับความชื่นชอบจากสาวสวย คำพูดของเพื่อนร่วมทีมได้เติมเต็มความพึงพอใจให้กับหัวใจหยิ่งทระนงของเขา ถึงขนาดที่มองเจียงเยียนหรานเข้าตามากขึ้นไม่น้อย จะอย่างไรวันนี้เจียงเยียนหรานก็โดดเด่นสะดุดตาจริงๆ

 

 

ใบหน้าซ่งจื่อหางเต็มไปด้วยความเบิกบานมีความสุข “พอได้แล้ว เลิกพูดล้อเล่นกันที่นี่ได้แล้ว การแข่งกำลังจะเริ่ม ครั้งนี้ทุกคนจะต้องชนะ! รับทราบ?”

 

 

“ทราบ!!!”

 

 

ซ่งจื่อหางที่กำลังปลุกใจเพื่อนร่วมทีมไม่ทันสังเกตุถึงสายหนึ่งจากทีมจิ่นซิ่ว ที่กำลังจ้องมองเขาตาขวาง

Options

not work with dark mode
Reset