บทที่ 131 ท่าทางไม่ค่อยดี
เสียงนกหวีดดังขึ้นมา การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ
เยี่ยหวั่นหวันล้วงเอาป๊อปคอร์น โค้กและไก่ทอดที่เตรียมไว้แล้วออกมาจากกระเป๋า กินไปพลางดูอย่างเพลิดเพลินไปด้วย
พูดขึ้นมาแล้ว ทางเลือกของเธอในอนาคตคือเป็นนายหน้าไม่ใช่ศิลปิน ความอยากอาหารนี้ก็เป็นเหตุผลสำคัญ ถ้าต้องให้เธออดอาหารทุกวัน นั่นก็กินไม่ได้ โน่นก็กินไม่ได้ แล้วคนเราเกิดมาจะมีความหมายอะไร?
และไม่รู้ว่าเมล็ดผักในสวนจิ่นหยวนงอกหรือยัง โตขึ้นมาเป็นยังไงบ้าง แล้วยังมีไก่น้อย ปลาน้อยและองุ่นน้อยอีก…
เยี่ยหวั่นหวันแค่ใจลอยไปวูบเดียว คะแนนการแข่งขันไปถึง 11 ต่อ 0 แล้ว
ชิงเหอ 11 คะแนน จิ่นซิ่ว 0 คะแนน
“เกิดอะไรขึ้น?” เยี่ยหวั่นหวันอึ้งไป
เจียงเยียนหรานส่ายหน้า “ไม่รู้ วันนี้ท่าทางฉู่เฟิงดูไม่ค่อยดีเลย”
เยี่ยหวั่นหวันรีบมองไปทางฉู่เฟิง เห็นวันนี้อีกฝ่ายผิดพลาดบ่อยมาก การวิ่งดูไม่มั่นคง เหมือนคนเมาเหล้า
เมื่อกี้ก็เห็นท่าทางเขาดูใช้ได้อยู่เลย อยู่ต่อหน้าผู้หญิงที่ชอบ ควรจะยิ่งทำลายคู่ต่อสู้ไม่ใช่หรือ?
นายนี่… คงไม่ใช่ว่าตื่นเต้นเกินไปนะ?
เธอปวดหัวจัง!
ยังหวังให้เขาเล่นงานซ่งจื่อหางอยู่นะ!
“โอ้ย นี่เหล้าไม่ได้ทำให้เขาเมาแต่เขาเมาเอง…ได้ได้ได้ ถือว่าฉันผิดเอง เยียนหรานเธออย่าไปจ้องเขาแล้ว…”
ฟังออกว่าน้ำเสียงเยี่ยหวั่นหวันนั้นหัวเราะเยาะ เจียงเยียนหรานละสายตาไปด้วยความอึดอัด
ทว่า หลังเจียงเยียนหรานละสายตาไปแล้ว ท่าทางของบางคนนั้นยิ่งยุ่งเหยิงเข้าไปใหญ่ เยี่ยหวั่นหวันที่อยู่ห่างไปไกลยังได้ยินเสียงโค้ชของจิ่นซิ่วตะคอกแทบจะเป็นบ้าแล้ว – –
“ไอ้บ้าฉู่เฟิง แม่งนี่! แกกินยาผิดมาหรือไง! เล่นบ้าอะไรวะเนี่ย!”
“ไอ้เลว แกออกไปเลย! ฉันจะปรับทัศนคติแก!”
…….
เวลาพักสองนาทีของครึ่งหลัง โค้ชทุกคนต่างด่าฉู่เฟิง
ฝ่ายชายก้มศีรษะคอตกเศร้าสร้อย ไม่กล้าเงยหน้าแวบขึ้นมามองอัฒจันทร์เลย
สุดท้าย ครึ่งหลังก็ไม่สามารถดึงจิ่นซิ่วที่เสียเปรียบอยู่กลับมาได้ ผลของครึ่งแรกในตอนสุดท้ายจบที่ 23:6
เยี่ยหวั่นหวันทนดูไม่ไหวหลับตาลง
ต่อมาเป็นเวลาพักครึ่งการแข่งขันสิบห้านาที
เหล่าสาวๆ ชิงเหอต่างกรีดร้องตรงไปยังสนามแข่งมอบดอกไม้ ผ้าขนหนูเย็นและถามไถ่กับเหล่านักกีฬา ส่วนฝั่งจิ่นซิ่วกลับคุยกันอย่างเคร่งเครียด
“โอ้ย! จิ่นซิ่วทำอะไรอยู่เนี่ย! ทำไมถึงเล่นออกมาแบบนี้! โดนชิงเหออัดจนฉันไม่อยากจะดูเลย!”
“นี่ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ความสามารถนักกีฬาทีมบาสของชิงเหอเดิมทีก็แกร่งอยู่แล้ว!”
“แต่พวกเราก็ไม่สามารถแพ้อย่างราบคาบแบบนี้ได้นะ? รุ่นพี่ฉู่เฟิงวันนี้เป็นอะไรไป? หรือว่าไม่สบาย?”
…….
“ไม่สบายอะไร! วิญญาณเขาโดนควักออกไปแล้ว!”
เยี่ยหวั่นหวันคำนวณเป็นหมื่นเป็นพันครั้ง ก็คิดไม่ถึงว่าสมาธิของคนๆ หนึ่งจะแย่ได้ถึงขั้นนี้ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปแผนการวันนี้ของเธอต้องโดนทำลายหมดแน่
“ตอนนี้ทำได้เพียงหนามยอกต้องเอาหนามบ่งแล้วเท่านั้น!” เยี่ยหวั่นหวันหรี่ตาลงสองข้าง
“หนามยอกเอาหนามบ่ง? หมายความว่ายังไง?” เจียงเยียนหรานไม่เข้าใจ
เยี่ยหวั่นหวันล้วงเอาน้ำขวดหนึ่งและผ้าขนหนูออกมาจากกระเป๋า ยัดใส่เจียงเยียนหราน “เอาไปให้นายโง่นั่น!”
“หา…?” เจียงเยียนหรานรู้สึกอึดอัด “แบบนี้จะดีเหรอ?”
เจียงเยียนหรานก็คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะมีอิทธิพลกับฉู่เฟิงมากขนาดนี้ แอบรู้สึกผิดในใจ “ตอนนี้ฉันควรจะหลบฉากไปดีหรือเปล่า?”
เยี่ยหวั่นหวันถอนหายใจ “ถ้าเธอไปแล้วเขายิ่งแย่ใหญ่ เอาไปให้เถอะ”
เมื่อกี้เธอไม่ให้เจียงเยียนหรานมองฉู่เฟิงแล้ว ปรากฏว่าสีหน้านายนั่นเหมือนสุนัขที่โดนนายทอดทิ้งขึ้นมาในพริบตา ครึ่งหลังไม่เพียงแต่ตัวเองไม่ได้ทำคะแนน ยังทำจังหวะของคนอื่นเสียไปหมดเลย
เจียงเยียนหรานได้แต่พยักหน้า “ก็ได้”
………………………………………..
บทที่ 132 เขาแย่งภรรยาฉันไป
เวลานี้ ที่สนามแข่ง
หัวหน้าทีมของจิ่นซิ่วมาตบไหล่ฉู่เฟิง พูดถามไถ่ถึงสภาพจิตใจเขา “ฉู่เฟิง วันนี้นายเป็นอะไรไป? หรือว่าอกหักมา?”
“นายสิอกหัก ครอบครัวนายทั้งหมดแหละอกหัก!” ฉู่เฟิงระเบิดลงทันที
หัวหน้าทีมพูดไม่ออก “ไม่ได้อกหักแล้วทำไมวันนี้นายไม่อยู่กะร่องกะรอย ไม่ได้อกหักแล้วนายทำหน้าเหมือนผิดหวังเพิ่งโดนทิ้งมาทำไม?”
เห็นซ่งจื่อหางฝั่งตรงข้ามโดนห้อมล้อมไปด้วยสาวๆ หัวหน้าทีมมองด้วยความอิจฉา “โว้ย! คนเรานี่เทียบกันไม่ได้เลย! นายซ่งจื่อหางนั่นทำไมโชคดีขนาดนี้! คนหนึ่งเฉินเมิ่งฉี แล้วก็มีเจียงเยียนหรานอีก สาวสวยทั้งนั้นเลย ฉู่เฟิงนายดูสิ ช่างน่าเสียดายใบหน้านี้ของนายจริงๆ!”
ถึงแม้ว่านายฉู่เฟิงนี่จะหล่อ แต่ว่าเรื่องความรู้สึกนี้ฉู่เฟิงแทบจะเป็นศูนย์ อย่าว่าแต่ความรักเลย แม้แต่ผู้หญิงที่ชอบยังไม่มี
มีจุดหนึ่งเขาเกือบคิดว่านายนั่นชอบผู้ชายหรือเปล่า
หัวหน้าทีมกำลังพูดประชดอยู่ กลับพบว่าสีหน้าของฉู่เฟิงดูผิดปกติไป โดยเฉพาะตอนที่เห็นเจียงเยียนหรานเดินไปทางซ่งจื่อหาง สายตาที่ฉู่เฟิงจ้องซ่งจื่อหางนั้น เหมือนจะฆ่าคนชัดๆ
หัวหน้าทีมพบว่าท่าทางเขาดูแปลกไป เลยรีบปราม “คุณชายน้อย นายจะทำอะไรอีก? สีหน้าน่ากลัวขนาดนี้จะหาเรื่องอะไร? เมื่อกี้ฉันรู้สึกว่าสายตาที่นายมองซ่งจื่อหางนั้นดูแปลกไป! เขาติดเงินนายเหรอ?”
ฉู่เฟิง: เขาแย่งภรรยาฉันไป!
ในขณะเดียวกัน ทีมบาสโรงเรียนชิงเหออีกฝั่ง
“หัวหน้าซ่ง พี่เก่งมากจริงๆ!”
“รุ่นพี่ซ่งเก่งมากค่ะ! สู้ๆ นะคะ! ครึ่งหลังต้องบดขยี้จิ่นซิ่วต่อเลยนะ!”
“จื่อหาง ดื่มน้ำหน่อยเถอะ!” เฉินเมิ่งฉียื่นน้ำเปล่าในมือให้
ซ่งจื่อหางถูกห้อมล้อมไปด้วยแฟนคลับสาว เฉินเมิ่งฉีเอาน้ำและผ้าขนหนูมาให้ด้วยตัวเอง กระทั่งสรรพนามที่เรียกเขาจากหัวหน้าซ่งยังเปลี่ยนมาเป็นจื่อหางเลย
ซ่งจื่อหางไม่เคยรู้สึกอิ่มเอมใจขนาดนี้มาก่อน ยากที่เขาจะใจกล้าจับมือเฉินเมิ่งฉีต่อหน้าทุกคน “เมิ่งฉี รอผมเอาถ้วยรางวัลมาส่งให้ถึงมือคุณ! ถ้าวันนี้ผมชนะ ถึงตอนนั้นคุณจะ…” ตอบรับผมได้ไหม
ซ่งจื่อหางยังพูดไม่จบ อยู่ๆ รอบข้างก็มีเสียงคนร้องอย่างตกใจไปทางฝั่งตรงข้ามที่อยู่ไม่ไกล “เจียงเยียนหรานหรือนี่! เจียงเยียนหรานก็มา! แม่เจ้า สองหญิงแย่งผู้ชายคนเดียวกัน มีเรื่องสนุกให้ดูแล้ว!”
ซ่งจื่อหางเห็นร่างหญิงสาวสวยสง่าบอบบางน่าทะนุถนอมอยู่ไม่ไกล สองตาเป็นประกายทันที
ที่จริงแล้ว… เจียงเยียนหรานก็ไม่เลวเลย…
พื้นฐานครอบครัว แม้กระทั่งรูปร่างหน้าตา ที่จริงนั้นไม่แพ้เฉินเมิ่งฉีเลย เพียงแต่บุคลิกดูไม่น่าสนใจ คบกันนานไปจะรู้สึกไม่น่าสนใจและไม่ตื่นเต้น แต่ว่าตอนนี้…
เวลานี้ สายตานักกีฬาทีมบาสของชิงเหอต่างมองไปที่ซ่งจื่อหางด้วยความอิจฉาเป็นสายตาเดียวกัน แล้วก็มีเสียงโห่แซวไปทางเจียงเยียนหรานทันที
“เฮ้ คุณหนูเจียง! เธอก็มาส่งน้ำให้ลูกพี่หรือ!”
“หึหึ วันนี้ตั้งใจแต่งตัวสวยขนาดนี้มาเพื่อลูกพี่เลย! เสน่ห์ลูกพี่นั้นเหลือร้ายจริงๆ!”
“คุณหนูเจียง เธอขี้เหนียวไปหน่อยนะ! ทำไมเอามาแค่ขวดเดียว แล้วของพวกเราล่ะ?”
เวลาปกติเจียงเยียนหรานจะดีกับทีมบาสมาก สนับสนุนให้เงินไปไม่รู้เท่าไร ดังนั้นคนพวกนี้รู้สึกเคยชินกับการที่เธอเสียสละให้แล้ว
เฉินเมิ่งฉีรู้อยู่แล้วว่าสายตาซ่งจื่อหางที่มองเจียงเยียนหรานนั้นไม่ปกติ เธอแอบกรอดฟัน เบื้องหน้านั้นทำท่าทีใจกว้างเดินเข้าไปหา “เยียนหราน เธอมาแล้ว! เมื่อกี้อยากจะเรียกเธอมาด้วยกัน แต่ก็กลัวว่าเธอจะโกรธฉันอยู่ รีบมาเถอะ ทุกคนกำลังรอเธออยู่เลย…”