บทที่ 1699 สูญเสียความทรงจำ
“หวันหวั่น เธอเลื่อนเป็นทหารรับจ้างระดับ A ก่อน จากนั้นทำภารกิจเพิ่มสักหน่อย อย่างมากสองเดือนก็สามารถเป็นทหารรับจ้างระดับ S ได้แล้ว” ผู้อาวุโสกงยิ้มเอ่ย
ได้ยินคำพูดนี้ของผู้อาวุโสกง เยี่ยหวันหวั่นกลับส่ายหัว
ก่อนหน้านี้ยังไม่คิดว่าแต้มคุณงามความดีมีอะไร แต่หลังฟังผู้อาวุโสกงอธิบาย เยี่ยหวันหวั่นจึงค่อยค้นพบว่า ประโยชน์ของแต้มคุณงามความดีเยอะมากจริงๆ
“อาจารย์ หนูจะไม่เลื่อนระดับทหารรับจ้างก่อนค่ะ…” หลังเยี่ยหวันหวั่นครุ่นคิดชั่วครู่จึงค่อยเอ่ยปากกับผู้อาวุโสกง
“พูดว่าไงนะ” ผู้อาวุโสกงขมวดคิ้วแน่น จะไม่เลื่อนระดับทหารรับจ้าง?
ทหารรับจ้างระดับ D กับทหารรับจ้างระดับ A ค่าจ้างและสวัสดิการในโลกทหารรับจ้างต่างกันราวฟ้ากับเหวเชียวนะ!
“ไม่ทราบว่าแต้มคุณงามความดีของหนู…ท่านผู้อำนวยการให้ช่วยฉันสักเรื่องได้หรือเปล่าคะ” จู่ๆ เยี่ยหวันหวั่นก็มองผู้อำนวยการชื่อเยี่ยนที่ด้านข้างด้วยแววตาเปี่ยมความคาดหวัง
อยากอาศัยตัวเองฟื้นฟูตัวเอง เกรงว่าคงเป็นแค่นิทานเพ้อฝัน แต่ถ้าผู้อำนวยการชื่อเยี่ยนเต็มใจช่วย โอกาสฟื้นฟูความทรงจำ…ก็สูงมาก!
“ได้แน่นอน”
ยังไม่รอให้ผู้อาวุโสกงเอ่ยปาก ผู้อำนวยการชื่อเยี่ยนก็ยิ้มเอ่ยกับเยี่ยหวันหวั่น “ฝีมือหลอมอาวุธของฉันพอใช้ได้”
“หวันหวั่น ฝีมือหลอมอาวุธของผู้อำนวยการไร้พ่ายในรัฐอิสระ ถ้าเธออยากได้อาวุธที่เหมาะมือ ใช้แต้มคุณงามความดีให้ผู้อำนวยการช่วยเธอหลอมอาวุธ อาจารย์ก็เห็นด้วย แน่นอนว่านอกจากอาวุธ เธอก็ขอให้ผู้อำนวยการชี้แนะด้านต่างๆ ได้เหมือนกัน รวมไปถึงกระบวนท่าศิลปะการต่อสู้ด้วย” ผู้อาวุโสกงยิ้มบอก
“อาจารย์ หนูขอพูดกับผู้อำนวยการเป็นการส่วนตัวได้ไหมคะ” เยี่ยหวันหวั่นถามอย่างสงสัย
“ได้สิ” ครั้งนี้ผู้อำนวยการเป็นคนเอ่ยปาก
แล้วเยี่ยหวันหวั่นก็ตามผู้อำนวยการไปที่ห้องทำงานของผู้อำนวยการอย่างรวดเร็ว
“นักเรียนเยี่ย ว่ามาสิ” ผู้อำนวยการมองเยี่ยหวันหวั่นขณะเอ่ย
“ผู้อำนวยการ ไม่ปกปิดความจริง หนูรู้ความสามารถสะกดจิตของผู้อำนวยการ เพราะงั้น…ก็เลยอยากให้ผู้อำนวยการช่วยสะกดจิตหนูทีค่ะ” แววตาของเยี่ยหวันหวั่นแน่วแน่
“สะกดจิต?”
พอได้ยินคำพูดนี้ของเยี่ยหวันหวั่น ผู้อำนวยการชะงักเล็กน้อย
มีนักเรียนของโรงเรียนไม่น้อยมาหาเขาเพื่อให้ทำการสะกดจิตจริงๆ ส่วนใหญ่เป็นเพราะทุกข์ใจกับความรัก จึงอยากปิดผนึกความทรงจำรักใคร่เหล่านี้
แต่นักเรียนตรงหน้าผู้นี้…เดาว่า น่าจะไม่มีเรื่องทุกข์ใจกับความรักหรอกมั้ง…
“นักเรียนเยี่ย ทั่วไปนักเรียนที่มาให้ฉันสะกดจิตเป็นเพราะทุกข์ใจกับความรัก อยากจะปิดผนึกความทรงจำที่เจ็บปวด หรือว่านักเรียนเยี่ยก็มาด้วยเหตุผลนั้นเหรอ” ผู้อำนวยการชื่อเยี่ยนถามอย่างไม่ค่อยแน่ใจนัก
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก เหมือนว่า…จะไม่ใช่แบบนั้นนะ…
“ผู้อำนวยการ…คือแบบนี้ค่ะ ฉันเสียความทรงจำส่วนหนึ่งไป อยากขอให้ผู้อำนวยการช่วยฉันฟื้นฟูความทรงจำที่หายไป” เยี่ยหวันหวั่นไม่อยากอ้อมค้อมจึงเอ่ยตามตรง
“เสียความทรงจำไปส่วนหนึ่ง?”
เมื่อได้ยิน หัวคิ้วของผู้อำนวยการขมวดขึ้นเล็กน้อย อยู่ดีๆ ความทรงจำจะขาดหายไปได้ยังไง
“เพราะงั้นเธอเลยอยากใช้แต้มคุณงามความดีให้ฉันใช้การสะกดจิต ดูว่าสามารถฟื้นความทรงจำส่วนนั้นที่หายไปให้เธอได้หรือเปล่า?” ผู้อำนวยการชื่อเยี่ยนมีท่าทีครุ่นคิด
“ใช่ค่ะ…ฉันหมายถึงแบบนี้แหละค่ะ” เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้ารัว
“นักเรียนเยี่ย เธอนั่งลงก่อน” ผู้อำนวยการชื่อเยี่ยนให้เยี่ยหวันหวั่นนอนลงบนโซฟา
ผู้อำนวยการชื่อเยี่ยนนั่งข้างเยี่ยหวันหวั่น เหมือนกับกำลังคุยเล่นกับเธอ จากนั้นก็หยิบเอานาฬิกาพกโบราณออกมา
ภายใต้การชี้นำของผู้อำนวยการชื่อเยี่ยน เยี่ยหวันหวั่นจ้องเข็มนาฬิกา และตอบคำถามบางอย่างที่ผู้อำนวยการชื่อเยี่ยนถามถึงไม่หยุด
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร เหมือนกับกะพริบตาทีเดียวก็ผ่านไปศตวรรษหนึ่งเนิ่นนานขนาดนั้น
หัวสมองเยี่ยหวันหวั่นมึนเบลอ ก่อนจะเสียสติสัมปชัญญะไป
———————————————————————————————
บทที่ 1700 น่ากลัวยิ่งกว่า
ระหว่างครึ่งหลับครึ่งตื่น เยี่ยหวันหวั่นราวกับเห็นตัวเองกลับมาช่วงวัยเด็กอีกครั้ง
ด้านข้างลำธาร ชายชราที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายสูงส่งสีหน้าเปี่ยมความน่าเกรงขามเดินช้าๆ มาถึงข้างตัวเด็กสาว จากนั้นย่อตัวลงเล็กน้อยแล้วกอดเด็กสาวไว้ในอ้อมอก
“คุณตา…หนูคิดถึงคุณพ่อคุณแม่แล้ว หนูอยากกลับบ้าน…”
ดวงตากระจ่างใสของเด็กสาวมีม่านน้ำเอ่อคลอ
แต่ชายชรากลับส่ายหน้า มองเด็กสาวด้วยสีหน้าคร่ำเคร่ง “พ่อแม่ของหลานตายไปนานแล้ว จากนี้หลานจะตามตาไปใช้ชีวิตพึ่งพากัน อย่าไปคิดถึงพ่อแม่ของหลานอีก เข้าใจไหม”
“ไม่…คุณตา…หนูคิดถึงพ่อแม่…” หมอกในดวงตาของเด็กสาวแปรเปลี่ยนกลายเป็นน้ำตา ร่วงเผาะลงมา
ชายชราไม่สนใจเด็กสาวอีก เขาอุ้มเด็กสาวก้าวเดินไปข้างหน้า
ผ่านไปเนิ่นนาน ชายชราจึงค่อยเอ่ยกล่าว “อู๋โยว หลานจำไว้ ตาตั้งชื่อให้หลานว่าอู๋โยว เพราะหวังให้หลานมีความสุขตลอดไป ไร้ห่วงไร้กังวล ส่วนพ่อแม่ของหลาน ไม่สมเป็นพ่อคนแม่คนแม้แต่นิดเดียว โดยเฉพาะแม่ของหลาน ถึงกับยอมเป็นศัตรูกับตาเพื่อพ่อของหลาน อู๋โยว หลานว่าด้วยความอกตัญญู ไร้หัวใจ และไร้ความยุติธรรมของพวกเขา มีคุณสมบัติอะไรถึงมาเป็นพ่อแม่ของหลาน จากวันนี้ไปอย่าพูดถึงพวกเขาอีก หลานก็คิดเสียว่าพวกเขาตายทั้งหมดแล้ว ตาจะดูแลหลานอย่างดี บนโลกนี้ ใครก็ห้ามทำให้เสี่ยวอู๋โยวของตาน้อยเนื้อต่ำใจเป็นอันขาด”
“ประธาน พวกเราควรไปแล้วครับ…”
ผ่านไปครู่หนึ่ง ชายวัยกลางคนหลายคนก็มาถึงที่แห่งนี้ มองชายชรา สีหน้าน้ำเสียงเคารพนอบน้อมและพาเด็กสาวกับชายชราขึ้นรถไป
เวลานี้เอง สมองของเยี่ยหวันหวั่นพลันเจ็บปวดราวกับจะแตกเป็นเสี่ยง
ฉากกระโดดข้ามไป เลือดสดๆ อาบท่วมตัวเธอ เธอทรุดเข่าลงกับพื้น ดวงตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวาดกลัวและไม่อยากเชื่อ
นั่นคือความสิ้นหวังและไร้ทางช่วยที่ทำให้คนยากจะเชื่อ เหมือนเทียบกับการที่โลกทั้งใบล่มสลายแล้วยังน่ากลัวยิ่งกว่า
เยี่ยหวันหวั่นร้องด้วยความตกใจ ลืมสองตาที่ปิดแน่นและเด้งตัวขึ้นจากโซฟานในฉับพลัน
เวลานี้ทั้งตัวเยี่ยหวันหวั่นมีเหงื่อชุ่มโชกตั้งแต่เส้นผมไปจนถึงเสื้อผ้า เหมือนคลานออกมาจากเหยือกน้ำ
ความน่ากลัวที่สิ้นหวังถึงขีดสุดนั้นยังคงอยู่ไม่อาจสลัดพ้นจากห้วงทะเลความคิดของเยี่ยหวันหวั่น เธอสาบานว่าทั้งชีวิตนี้ไม่เคยมีความน่ากลัวและสิ้นหวังที่ทำให้เธอยากรับได้อย่างนี้มาก่อน
“ตื่นแล้ว”
ยังไม่รอให้เยี่ยหวันหวั่นคิดลึกต่อ ผู้อำนวยการชื่อเยี่ยนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานซึ่งอยู่ไม่ไกล ในปากดื่มชา สายตากำลังมองเยี่ยหวันหวั่นเป็นพักๆ
เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วแน่น ใช้ฝ่ามือขวาตบหัวอย่างแรง ความเจ็บปวดราวกับแตกเป็นเสี่ยงอย่างนี้ไม่พอบอกคนอื่นจริงๆ
ก่อนหน้านี้เยี่ยหวันหวั่นสงสัยมานานแล้ว วิธีการของผู้อำนวยการชื่อเยี่ยนจะทำให้เธอฟื้นคืนความทรงจำได้หรือไม่กันแน่ แต่ตอนนี้ดูทรงแล้ว ความกังวลของตัวเองคงจะมากเกินไป
ครั้งนี้ปริมาณข้อมูลที่ตัวเองได้รับยิ่งชัดเจนขึ้นกว่าเมื่อก่อน กระทั่งว่าสามารถเห็นหน้าตาของคุณตาได้รางๆ …
อีกทั้งความทรงจำไม่ปะติดปะต่อในอดีต ตอนนี้กลับเป็นความทรงจำที่เชื่อมต่อกันแล้ว
ก่อนหน้านี้เยี่ยหวันหวั่นยังสงสัย ทำไมคุณตาของตัวเธอมักบอกเธอว่าพ่อแม่เธอไม่อยู่ในโลกนี้แล้ว แต่หลังจากผ่านการสะกดจิตครั้งนี้ ในที่สุดเยี่ยหวันหวั่นก็ล่วงรู้…
ในความทรงจำที่เชื่อมต่อกันครั้งนี้ จากคำพูดของคุณตา เขาค่อนข้างไม่พอใจคุณนายกับผู้นำตระกูลเนี่ย เหมือนพ่อแม่ทำเรื่องอะไรบางอย่างกระตุ้นให้คุณตาโกรธ ดังนั้นคุณตาจึงบอกให้คิดเสียว่าพ่อแม่ของเธอตายไปแล้ว…