บทที่ 191 ละครสนุกยอดเยี่ยม
ดังนั้นใบหน้าของเยี่ยหวั่นหวันเลยยังคงเครื่องสำอางแบบเวลาปกติที่เธอแต่งอยู่ พอมารวมเข้ากับทรงผมและเสื้อผ้าชุดนี้แล้ว ออกมาเป็นที่โดดเด่น
ในห้องแต่งหน้าหลังเวทีส่วนตัวห้องหนึ่ง ผู้หญิงสามคนกำลังยุ่งห้อมล้อมช่วยเฉิงเสวี่ยแต่งตัว
“ว้าว! เสี่ยวเสวี่ย วันนี้เธอสวยมากเลย!”
“ทุกวันก็สวยอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? เสี่ยวเสวี่ยของพวกเราเป็นถึงดาวโรงเรียนสามสมัยซ้อนเลยนะ!”
เฉิงเสวี่ยโดนเยินยอจนอารมณ์ดีขึ้นมา ใช้นิ้วมือที่สวมถุงมือลูกไม้ลูบแก้มเนียนของตัวเองเบาๆ พูดเสียงแข็งเล็กน้อย “เรื่องที่ให้พวกเธอทำ เตรียมการเรียบร้อยแล้วใช่ไหม?”
ผู้หญิงผมสั้นพยักหน้าด้วยความตื่นเต้น “เรียบร้อยแล้วๆ เตรียมเสร็จเรียบร้อยทุกอย่าง เสี่ยวเสวี่ยเธอสบายใจได้! วันนี้เธอต้องได้เห็นละครสนุกยอดเยี่ยมแน่นอน!”
เวลานี้ ผู้หญิงท้วมสูงพูดอย่างลังเล “พวกเราทำอย่างนี้ ถ้าซือเซี่ยรู้เข้าจะโกรธไหม?”
สีหน้าเฉิงเสวี่ยเย็นชาขึ้นมาทันที “ความหมายของเธอคือ ซือเซี่ยจะโมโหฉันเพราะยัยอัปลักษณ์นั่นเหรอ?”
เห็นเฉิงเสวี่ยจะโมโหขึ้นมาอีกแล้ว ทั้งสามคนเลยรีบโบกมือ “ไม่แน่นอน! ไม่มีทางหรอก! จะเป็นไปได้ยังไง!”
“ใช่ๆๆ รอซือเซี่ยเห็นใบหน้าที่แท้จริงของยัยอัปลักษณ์นั่นก่อน จะต้องเป็นคนแรกที่ถูกรังเกียจแน่นอน!”
ฟังมาถึงตรงนี้ สีหน้าเฉิงเสวี่ยค่อยคลายลงหน่อย “เรื่องวันนี้ถ้าเกิดข้อผิดพลาดอีก พวกเธอไม่ต้องมายุ่งกับฉันแล้วนะ!”
“ได้ๆๆ ครั้งนี้ต้องไม่มีปัญหาแน่! พวกเราจัดการเรียบร้อยทั้งหมดแล้ว เสี่ยวเสวี่ยเธอสบายใจได้เลย!”
บนเวทีด้านหน้า
แสงไฟสว่างขึ้นมา พร้อมกับเสียงเพลงที่ตื่นเต้นเร้าใจ ผู้ชายและผู้หญิงสองคนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มเดินขึ้นไปบนเวที
ด้านล่างเวทีเต็มไปด้วยนักเรียน อาจารย์และผู้นำนั่งกันเต็มไปหมด
พิธีกรดำเนินรายการเปิดงาน หลังจากคำพูดที่ยืดยาวของผู้นำโรงเรียน ในที่สุดงานแสดงศิลปวัฒนธรรมของคืนนี้ก็เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ
รายการต่างๆ ของแต่ละชั้นเรียนมีหลากหลายการแสดง ทั้งร้องเพลง เต้นรำ ทอล์กโชว์ ต่างมีหมด แสดงออกกันอย่างเต็มที่ถึงพรสวรรค์ของนักเรียนและวัตถุประสงค์ของโรงเรียนที่มุ่งพัฒนารอบด้าน นานๆ ทีจะมีเสียงปรบมือด้วยความกระตือรือร้นจากด้านล่างเวที
การแสดงของห้อง F ชั้นม.หกถูกจัดไว้หลังสุด เพราะยากมากที่ดาวและเดือนของโรงเรียนจะร่วมแสดงเวทีเดียวกัน บทที่ข่าวนี้เพิ่งแพร่ออกไป ก็กลายเป็นที่สนใจแล้ว
“ด้านล่างขอเชิญห้อง F ชั้นม.หก คืนนี้จะมาแสดงละครเวทีเรื่อง ‘สโนว์ไวท์’ ให้พวกเราได้รับชม เชื่อว่าทุกคนต้องคุ้นหูกับละครคลาสสิคเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่วันนี้การแสดงของเพื่อนนักเรียนพวกเรานั้นสร้างสรรค์อย่างกล้าหาญมาก ไม่เหมือนคนอื่น! มารับชมการแสดงที่ตื่นตาตื่นใจของพวกเขากันเถอะ!”
“เปาะแปะๆๆ…”
ทันใดนั้นด้านล่างเวทีก็มีเสียงปรบมือที่กระตือรือร้นที่สุดของค่ำคืนนี้ เดิมทีคิดว่ารอนานเกินไปแต่ผู้ชมที่ง่วงเหงาหาวนอนกลับตื่นตัวขึ้นมาทันที
ชายหนุ่มหญิงสาวต่างยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปอัดคลิป เสียงกรีดร้องต้อนรับดังอยู่นานมากไม่หยุด
“ซือเซี่ย! ซือเซี่ย! ซือเซี่ย!”
“ว้าย! ในที่สุดหนุ่มในฝันของฉันก็ขึ้นเวทีแล้ว!”
“เฉิงเสวี่ย! เฉิงเสวี่ย! สาวในฝันสู้ๆ!”
ภายใต้เสียงปรบมือและเสียงกรี๊ดที่กระตือรือร้นแล้ว ม่านบนเวทีค่อยๆ ยกขึ้น เห็นเฉิงเสวี่ยสวมชุดกระโปรงสีแดงสไตล์ยุโรปในยุคสมัยกลางดูสวยโอ่อ่าไปทั้งตัว สวมมงกุฎราชินี ท่าทางสง่างามยืนอยู่หน้ากระจก
“โอ้ย! วันนี้สาวในฝันช่างสวยเหลือเกิน! นี่น่าจะเป็นราชินีที่สวยที่สุดในประวัติศาสตร์แล้ว!”
“สาวในฝันเล่นเป็นราชินีไม่ใช่สโนว์ไวท์? ตามหลักนี่ไม่ถูกต้องนะ! เพราะสโนว์ไวท์เป็นผู้หญิงที่สวยกว่าราชินีอีก! บทราชินีเป็นเฉิงเสวี่ยไปแล้ว! แล้วใครเล่นเป็นสโนว์ไวท์?”
“นายยังไม่รู้อีกหรือไง! สโนว์ไวท์ก็คือเยี่ยหวั่นหวัน!”
“อะไรนะ? เยี่ยหวั่นหวัน? นี่นายล้อฉันเล่นใช่ไหม? นั่นไม่ใช่ผู้หญิงขี้เหร่เบอร์หนึ่งของชิงเหอหรอกหรือ?”
……………………………………………………
บทที่ 192 อุจาดตา
ณ บนเวที
ราชินี “กระจกวิเศษ กระจกวิเศษ จงบอกข้าเถิดใครงามเลิศในปฐพี?”
กระจกวิเศษ “ราชินีท่านงามจับใจผู้คน…ทว่า ข้าได้พบหญิงสาวผู้หนึ่ง เสื้อผ้าที่ขาดวิ่นก็ไม่อาจบดบังความงามเลิศล้ำของนางได้ นางเป็นผู้ที่งดงามที่สุดในปฐพี
ราชินี “เป็นไปไม่ได้! ไม่มีใครที่จะสวยไปกว่าข้า! มันเป็นใคร?”
กระจกวิเศษ “นาง ริมฝีปากแดงดั่งกุหลาบ ผมดำราวอีกา ผิวขาวดั่งหิมะ นางก็คือ…เจ้าหญิงสโนว์ไวท์!”
เวลานี้เอง อุปกรณ์และฉากบนเวทีได้ปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว เยี่ยหวันหวั่นขึ้นเวทีแล้ว
ผมของหญิงสาวยุ่งเหยิงเหมือนกับรังนก สวมชุดกระโปรงขาดวิ่น เปลือยเท้าเปล่าเดินบนพื้น ใบหน้าที่ปรุงแต่งจนหนาเตอะน่ากลัวเสียยิ่งกว่าแม่มดซะอีก
“ฮ่าๆๆๆ นี่น่ะเหรอเจ้าหญิงสโนว์ไวท์!”
“นี่จะต้องเป็นหนึ่งในเจ้าหญิงสโนว์ไวท์ที่น่าเกลียดที่สุดในประวัติศาสตร์แน่ๆ! มิน่าพิธีกรถึงได้บอกว่าเวอร์ชั่นสร้างสรรค์ นี่ก็สร้างสรรค์เกินไปแล้ว!”
“สร้างสรรค์ตรงไหนกัน ทั้งหมดเป็นเพราะยับตัวประหลาดนั่นกอดบทเจ้าหญิงสโนว์ไวท์ไม่ยอมปล่อย ทุกคนจนปัญญาแล้วถึงได้แก้บท!”
…
บทที่เจ้าหญิงสโนว์ไวท์ปรากฏตัวบรรดาผู้บริหารการโรงเรียนที่อยู่ด้านหน้าต่างก็นิ่งอึ้ง ได้ฟังเสียงพากษ์อธิบายว่ามารดาของเจ้าหญิงสโนว์ไวท์ทำเพื่อที่จะปกป้องเธอ ก็เลยบังคับให้เขาแต่งตัวแบบนี้ตั้งแต่เด็ก ถึงได้พากันพยักหน้า ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง
เจ้าชายและเจ้าหญิงอัปลักษณ์พบกันโดยบังเอิญ เจ้าหญิงได้ช่วยเจ้าชายไว้ แม้ว่าเจ้าหญิงจะหน้าตาอัปลักษณ์จนน่าตกใจ แต่ทว่าเจ้าชายซาบซึ้งในจิตใจอันดีงามของเจ้าหญิง ก็เลยหลงรักเจ้าหญิงเข้าอย่างลึกซึ้ง
บทถูกควักเอาความคิดออกไป นับว่าได้เติมเรื่องราวให้สมบูรณ์ อีกทั้งยังเติมได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย คณะอาจารย์และบรรดาผู้บริหารโรงเรียนชมละครอย่างพึงพอใจ ถึงกระทั่งเอ่ยชมไม่หยุดปาก
จังหวะที่นายพรานปรากฏตัวบนเวที ผู้ชมด้านล่างต่างพากันส่งเสียงเชียร์ “รีบฆ่าเขาซะ!” “ฆ่าๆ ไปซะ อุจาดสายตา” “ให้เจ้าชายกับราชินีครองรักกันอย่างมีความสุขเถอะ”
จนถึงบทที่เจ้าหญิงสโนว์ไวท์ถูกแม่มดวางยาพิษในแอปเปิ้ล ผู้ชมด้านล่างเวทีกลับส่งเสียนตะโกนเชียร์ด้วยความชอบใจ
ดูจากปฏิกิริยาของผู้ชมเพียงอย่างเดียว ละคนเวทีเรื่องนี้พูดได้ว่า…สร้างสรรค์มาก…
ในที่สุด เจ้าชายที่ทุกคนรอคอยก็ปรากฏตัวขึ้นมา
พ่อเทพบุตรในคราบเจ้าชายผู้งามสว่าดึงดูดสายตาค่อยๆ เดินไปยังด้านหน้าโลงแก้ว สาวๆ ด้านล่างเวทีทุกคนต่างทำหน้าเศร้าราวกับมีใครตาย ใบหน้าของแต่ละคนเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นและสงสารจับใจ
พ่อเทพบุตรเสียสละเพื่อการแสดงครั้งนี้มากเกินไปแล้วจริงๆ
เยี่ยหวันหวั่นนอนอยู่ในโลงแก้วนานเสียจนเกือบจะเคลิ้มหลับไปแล้ว จนกระทั่งได้ยินเสียงฝีเท้าแว่วมาจากด้านข้าง ถึงได้มีสติชัดเจน ตื่นตัวขึ้นเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดคิด
เกิดไอ้หนุ่มนี่เกิดเล่นจริงขึ้นมาในเวลานี้ เธอจะต้องถูกผู้หญิงทั้งโรงเรียนฉีกทึ้งแน่ๆ
เธอสามารถรู้สึกได้ถึงลมหายใจของซือเซี่ยที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ใกล้ขึ้นเรื่อยๆ…
“รู้ไหมว่ามีผู้หญิงตั้งกี่คนอยากให้ฉันจูบ?” ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร เสียงกระซิบอย่างขุ่นเคืองลอยเข้าหู แล้วในที่สุดลมหายใจนั้นก็ถอยห่างออกไป
หลังจากถูกเธอโจมตีด้วยท่าไม้ตายต่อเนื่อง เจ้าเด็กแสบก็สงบเสงี่ยมลงไม่น้อย สุดท้ายซือเซี่ยก็ถอยออกไป
เยี่ยหวันหวั่นโล่งใจไปเปราะหนึ่ง รีบลุกขึ้นทำท่าทางเหมือนตื่นขึ้นเพราะจุมพิต แสดงฉากต่อไปจนจบ
ขอบคุณฟ้าดิน ในที่สุดการแสดงละครเวทีครั้งนี้ก็จบสิ้นเสียที
และตลอดจนฉากสุดท้ายจบลง เจ้าหญิงสโนว์ไวท์ก็ไม่ได้เผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมา
“ผมหลงคิดว่าสุดท้ายเจ้าหญิงสโนว์ไวท์จะเผยโฉมหน้าที่แท้จริงอันสวยงามต่อหน้าผู้ชมนะเนี่ย!” ผู้บริหารโรงเรียนคนหนึ่งเอ่ยขึ้นกลั้วหัวเราะ
อาจารย์หลายท่านที่รู้เรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังพยายามกลบเกลื่อนอย่างกระอักกระอ่วน “เฮอะๆๆ มุกแบบนั้นมันเก่าแล้วน่ะสิคะ! เชิญทุกท่านทางนี้ดีกว่า พวกเราจองร้านอาหารไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ”
……………………………………………