บทที่ 265 เหยื่อติดกับแล้ว
พอเห็นมีข่าวใหม่ให้ขุดต่อได้ สื่อทุกคนในนี้ต่างก็ตื่นเต้นขึ้นมา
ขณะเดียวกัน ที่คอนโด
เฟยหยางที่คอยติดตามอย่างใกล้ชิดไม่ทันรอสถานการณ์พลิกกลับ แต่ได้เจอสถานการณ์ที่แย่หนักกว่าอีก เขาใกล้จะเป็นบ้าแล้ว
“ชื่อไอดีบ้าอะไรกัน! นักข่าวพวกนี้บ้าไปแล้วเหรอ?”
ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
นักข่าวของมาร์สวีคเอ็นไม่ใช่คนที่เยี่ยไป๋จัดมาใช่ไหม?
หานเซี่ยนอวี่เอียงไปพิงขอบเตียง จ้องมองหน้าจอ ยังคงสีหน้านิ่งไว้อยู่ ใบหน้ามีความชินชาและว่างเปล่าอย่างที่คิดไว้
เวลานี้ เว็บไซต์ที่ไลฟ์สดก็กำลังปัดหน้าจออย่างบ้าคลั่ง
“สุดยอด! นี่มัน! ชื่อไอดีเวยป๋อของหานเซี่ยนอวี่ถูกเปิดเผยแล้ว!”
“ต้องไม่ได้มีแค่อันนี้อันเดียวแน่!”
“อุบาทว์อย่างที่คิด เด็กผู้หญิงในคลิปอย่างมากก็แค่ห้าหกขวบเอง ไม่ต่างจากน้องสาวเขาที่ป่วยตายไปเท่าไรเลย!”
“ความคิดน่ากลัวมาก…”
………
หลังได้รับการตอบรับอย่างที่คาดคิดไว้แล้ว เกาเฟยเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ทุกคนเห็นกันหมดแล้ว คนทั่วไปเห็นคลิปแบบนี้ก็จะรู้สึกแค่ว่าเด็กผู้หญิงคนนี้น่ารักเท่านั้น มีแค่พวกใคร่เด็กที่จะมีความคิดสกปรกโสมมแบบนี้!”
จ้าวต้าหย่งเห็นนักข่าวคนนี้เอาหลักฐานใหม่ออกมาอีก สายตาพลันเป็นประกายขึ้นมา พูดเห็นด้วยสมทบ “จริงด้วย! อีกอย่างวันที่บนเวยป๋อก็แสดงว่าเป็นเจ็ดปีที่แล้ว หานเซี่ยนอวี่สัตว์เดรัจฉานนี่ปกปิดมาหลายปีขนาดนี้ ไม่รู้ว่าทำร้ายเด็กบริสุทธิ์มาแล้วเท่าไร…”
ส่วนฝั่งสื่อมวลชน ผู้ชายสวมชุดขาวเหลือบมองการคาดเดาที่บ้าคลั่งของผู้คนในมือถือ ได้ยินสื่อตรงนี้รวมถึงคำพูดของจ้าวต้าหย่ง มุมปากก็ฉีกยิ้มเล็กน้อยโดยที่แทบสังเกตไม่เห็น
เหยื่อ…ติดกับแล้ว…
บนเวที เกาเฟยมองไปทางนักข่าวเงียบๆ จากนั้นกวาดสายตาไปทุกที่ สุดท้ายหยุดอยู่ที่ตัวจ้าวต้าหย่ง สีหน้าแสดงออกว่าประหลาดใจอยู่บ้าง เลิกคิ้วเล็กน้อยแล้วถาม “คุณจ้าวครับ คุณก็คิดอย่างนั้นเหรอ? คิดว่าคนในเน็ตนี่คือพวกใคร่เด็ก?”
จ้าวต้าหย่งได้ยินก็พูดอย่างไม่ลังเล “แน่นอนอยู่แล้ว บอกแล้วว่าสัตว์เดรัจฉานแบบนี้ไม่ใช่พวกใคร่เด็กแล้วจะเป็นอะไร?”
คนอื่นก็สุมหัวกระซิบกระซาบกัน…
“นี่ยังต้องถามด้วยเหรอ? ถ้าไม่ใช่พวกใคร่เด็กแล้วอะไรที่เรียกว่าพวกใคร่เด็ก?”
“หานเซี่ยนอวี่แปดเปื้อนไปทั้งชีวิต ล้างยังไงก็ไม่สะอาดแล้วเถอะ?”
เกาเฟยหัวเราะ ไม่ปฏิเสธ แต่คลิกที่โปรเจคเตอร์อีก “ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ทุกคนดูนี่หน่อย คอมเมนต์ชาวเน็ตที่น่ารังเกียจนี่ ตกลงแล้วมันออกมาจากปากใคร!”
ได้ยินคำพูดเกาเฟย ทุกคนต่างจ้องมองหน้าจอ แล้วนั่งตัวตรงโดยไม่รู้ตัว
ไอดีของหานเซี่ยนอวี่ เนื้อหาด้านในต้องมีสีสันมากแน่…
บนหน้าจอใหญ่ภาพเปลี่ยนไป ยังคงเป็นภาพอยู่ แต่ครั้งนี้ไม่เซนเซอร์ชื่อบนเวยป๋อแล้ว ชื่อผู้ใช้บนเวยป๋อโชว์ขึ้นมาต่อหน้าทุกคนอย่างชัดเจน…
บุหรี่หงอยเหงา: ‘ยั่วดี อยากเคลมเลย! คืนละเท่าไรน่ะ?’
ส่วนหลักฐานชื่อเวยป๋อของบุหรี่หงอยเหงาที่โชว์ขึ้นมาก็คือ…พ่อของเด็กผู้หญิงที่เป็นเหยื่อของดาราดัง จ้าวต้าหย่ง!
เหล่าสื่อตรงนั้นเห็นชื่อไอดีเวยป๋อที่พวกเขาคุ้นเคยที่สุดแล้ว ทั่วทั้งห้องมัลติฟังก์ชันที่ใหญ่โตก็ตกเข้าสู่ความเงียบงันที่น่ากลัว
จ้าวต้าหย่งที่เดิมทีแอบหัวเราะเยาะมุมปากตัวแข็งทื่อทันที มีสีหน้าไม่อยากเชื่อและโมโหก่อน ตามมาด้วยอาการเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ ความร้อนรนและตื่นตระหนกถึงค่อยๆ ฉายบนหน้า…
………………………………………………………………….
บทที่ 266 ตบปากตัวเอง
หลังจากเงียบมานาน ทั่วทั้งงานก็ฮือฮา!
“เวร…เอ๊ย! นี่… นี่เป็นไปได้ยังไง!”
“นี่ไม่ใช่ไอดีเวยป๋อของหานเซี่ยนอวี่ แต่เป็นของจ้าวต้าหย่ง?”
“จริงหรือนี่! รูปนี้โฟโต้ชอปหรือเปล่า คำพูดแบบนี้คุณจ้าวจะพูดได้ยังไง?”
“เป็นไปไม่ได้! ต้องเป็นของปลอมแน่นอน!”
……..
เหยียนเจิ้งหยางที่เดิมทีนิ่งสงบอยู่ ตอนนี้สีหน้าเปลี่ยนทันใด ลุกขึ้นมาทันที พูดด้วยความโมโหว่า “เกาเฟย! คุณบ้าไปแล้วหรือ! ยังไงก็เคยได้ชื่อในวงการว่าปาปารัสซี่อันดับหนึ่งของประเทศ นี่ขุดหาข่าวใหม่ไม่ได้ก็ไร้จรรยาบรรณแต่งเรื่องขึ้นมาแบบนี้! ไม่มีมารยาท หน้าไม่อายด้วย!”
เกาเฟยมองเหยียนเจิ้งหยางด้วยสายตาเย็นชา “นักข่าวเหยียนครับ คุณกับผมทำอาชีพเดียวกัน คุณพูดจาแบบนี้ไม่รู้สึกขำเหรอ วันนี้งานอะไร? มีเพื่อนๆ สื่อนั่งกันเยอะขนาดนี้ ผมจะพูดเรื่องโกหกที่โดนเปิดเผยได้ทุกเมื่อได้เหรอ?
หึ ข้อความเวยป๋อนี้ถูกโพสต์เมื่อเจ็ดปีก่อน เกรงว่าแม้แต่ตัวต้นเรื่องคุณจ้าวต้าหย่งเองยังลืมไปแล้วว่าเขาเคยพูดสิ่งที่เผยให้เห็นนิสัยที่แท้จริงแบบนี้ด้วย ดังนั้นจนถึงตอนนี้เลยยังไม่ถูกทำลายทิ้งสินะ?
ผมแชร์เวยป๋ออันเดิมให้แล้ว ตอนนี้ทุกคนเข้าไปตรวจสอบด้วยตัวเองได้เลย ความคิดเห็นที่สามหน้าเจ็ด!”
ได้ยินคำพูดเหยียนเจิ้งหยาง ทุกคนก็วิพากษ์วิจารณ์กัน
“นี่เป็นข่าวใหญ่ของมาร์สวีคเอ็นเลย! ตอนนี้ถึงมาร์สวีคเอ็นจะไม่รอดแล้ว แต่ก็ไม่เคยแฉข่าวเท็จมาก่อน! ถึงได้ทำให้คนดังในวงการบันเทิงขุ่นเคืองกันมากมาย โดนเล่นงานจนใกล้จะเจ๊งแล้ว!”
“ถึงจะเป็นสำนักข่าวเล็กๆ ก็ไม่กล้าเอารูปปลอมมาหลอกต่อหน้าสื่อมวลชนมากขนาดนี้หรอก!”
“แม่เจ้า! ผมงงไปหมดแล้ว! งงไปหมดแล้ว! นี่เป็น…นี่เป็นข้อความที่จ้าวต้าหย่งโพสต์จริงเหรอเนี่ย! พวกเรารีบไปดูเร็ว!”
สื่อมวลชนตรงนั้นรวมถึงคนที่กำลังดูไลฟ์สดอยู่แทบจะกดเปิดโพสต์เวยป๋อที่เกาเฟยเพิ่งแชร์ใหม่ไม่กี่วินาทีก่อนในพริบตา จากนั้นก็เห็นข้อความของจ้าวต้าหย่งในนั้นจริงๆ
ในขณะเดียวกัน เกาเฟยใช้บลูทูธต่อกับสไลด์โชว์และมือถือตัวเอง โชว์ความคิดเห็นของจ้าวต้าหย่งให้ทุกคนเห็นบนหน้าจอใหญ่ รวมถึงบทสนทนาที่ด่ากันกับชาวเน็ตคนอื่น
‘ยั่วดี อยากเคลมเลย! คืนละเท่าไรน่ะ?’
‘เมนต์ด้านบนโรคจิตเหรอ! แบบนี้ยังพูดออกมาได้’
‘หึๆ ฉันทำไม? เด็กน้อยไซส์เล็กสวมเสื้อผ้าแบบนี้มาเต้น ไม่ใช่ว่าอยากให้คนมาทำอย่างว่าหรือไง?’
‘กลับไปทำกับปู่แกเถอะ ไอ้เดรัจฉาน!’
‘อยากฟันรูปโปรไฟล์คุณอะ อิๆ รูปโปร์ไฟล์คุณนี่ใช่ลูกสาวไหม? หน้าตาเหมือนชอบโดนของเลย!’
‘ไปเอากะแม่แกสิ! แม่งเอ๊ย! ไอ้สัตว์นี่แกอยู่ที่ไหน กล้าก็โพสต์ที่อยู่มาเลย! กูXXXX’
………
เกาเฟยค่อยๆ มองไปทางจ้าวต้าหย่งด้านล่างเวทีที่สีหน้าเริ่มซีดขึ้นทุกที “เป็นยังไง? คุณจ้าว ตอนนี้ความจำกลับมาหรือยังครับ?”
มือจ้าวต้าหย่งที่ถือมือถืออยู่สั่นเทา เหงื่อเย็นซึมบนหน้าผาก กำลังกดอะไรอยู่อย่างตื่นตระหนก
เกาเฟยยิ้มเย็นชา “ตอนนี้อยากจะลบเวยป๋อเหรอ คงสายไปแล้วแหละ!”
นิ้วจ้าวต้าหย่งหยุดชะงัก เหมือนรู้ว่าไม่มีประโยชน์แล้ว สีหน้ายิ่งดูหวาดกลัว จากนั้นฝืนลุกขึ้นยืนอย่างนิ่งๆ แล้วพูดขึ้นมา “นี่…นี่เรื่องมันหลายปีก่อนมาแล้ว….ผมก็ไม่ได้ตั้งใจ…เรื่องนี้พิสูจน์อะไรไม่ได้…”
เหมือนเกาเฟยเดาไว้แล้วว่าเขาต้องพูดแบบนี้ จึงพูดตอบ “คุณจ้าว เมื่อกี้เหมือนคุณไม่ได้พูดแบบนี้นี่ เมื่อกี้ทุกคนเห็นกันหมดว่าคุณพูดยอมรับออกมาเอง บอกว่าคนที่พูดแบบนี้ได้คือพวกโรคจิตใคร่เด็ก! ตอนนี้จะมาบอกว่าพิสูจน์ไม่ได้อะไรกัน?”
เห็นได้ชัดว่านี่คือการตบปากตัวเอง!
……………………………………………………….