บทที่ 1047 จะลองดูก็ได้
เวลานี้ ทุกคนในสนามต่างส่ายหน้าและถอนหายใจ ผู้หญิงคนนี้ทำหน้าตาของตระกูลซือเสียหายหมดแล้ว!
บอดี้การ์ดอีกสี่คนที่เหลือกัดฟันกรอด แต่คาวาตะแข็งแกร่งเกินไป พวกเขาถึงขั้นมองตามการเคลื่อนไหวของเขาไม่ทันด้วยซ้ำ
ไม่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้ใช้ความคิด คาวาตะยกมือกลางอากาศ จากนั้นก็หันจู่โจมบอดี้การ์ดตระกูลซือคนต่อไป
ฝ่ามือนี้ รวดเร็วสุดขีด ได้ยินเพียงเสียงแหวกอากาศที่เกิดจากการระเบิดพลัง
แต่ทว่า ในเวลาเพียงชั่วพริบตานี้ เยี่ยหวันหวั่นโฉบไหวร่างกาย…
ขณะเดียวกัน ก็มีเสียง ‘เพียะ’ ดังขึ้นมา
เห็นเพียงฝ่ามือของคาวาตะซึ่งเป็นลูกศิษย์ยามาโมโตะ ถูกเยี่ยหวันหวั่นสกัดไว้กลางอากาศ
“โอ๊ะ?!”
คาวาตะสายตาไหวระริก ผู้หญิงคนนี้ นึกไม่ถึงเลยว่าจะรับฝ่ามือเขาไว้ได้
“อยากแข่งกับฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?”
เยี่ยหวันหวั่นปล่อยมือคาวาตะ แล้วหันไปมองยามาโมโตะ นัยน์ตาเรียบนิ่งมองไม่เห็นก้นบึ้งอารมณ์
“หึๆ…ในสายตาผม คุณมันก็เป็นแค่ขยะเท่านั้นแหละ” ยามาโมโตะมองเยี่ยหวันหวั่นอย่างสนอกสนใจ “เพียงแต่ เพราะคุณเป็นตัวแทนของตระกูลซือ ที่ผมมาครั้งนี้ ก็เพราะต้องการเหยียบย่ำสามตระกูลใหญ่ให้จมอยู่ใต้เท้า น่าเสียดาย พวกคุณแต่ละคน มีแต่ขยะทั้งนั้น ถึงแม้จะเหยียบย่ำไป ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอะไรเลย ใช่ไหมล่ะ?”
“จะลองดูก็ได้นะ” เยี่ยหวันหวั่นหันไปพูดกับยามาโมโตะ
“หึๆ เห็นแก่ที่เป็นขยะ ผมจะให้เวลาคุณเตรียมตัวสิบวินาทีก็แล้วกัน สิบนาทีผ่านไป ผมจะฆ่าคุณเสีย” ยามาโมโตะมองหน้าเยี่ยหวันหวั่น พลางพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
แต่ว่า เพิ่งจะสิ้นเสียงของยามาโมโตะ จู่ๆ เยี่ยหวันหวั่นกลับง้างมือขึ้น
“เพียะ!”
เสียงกังวานดังไปทั่วทั้งสนาม
ท่ามกลางสายตาทุกคู่ ยามาโมโตะถูกเยี่ยหวันหวั่นใช้ฝ่ามือตบหน้าอย่างแรง
ผ่านไปครู่หนึ่ง ยามาโมโตะเพิ่งจะได้สติ นัยน์ตาไหวระริก “นี่คุณ…กล้าลอบโจมตีผมงั้นเหรอ…”
“ลอบโจมตี?” ได้ยินอย่างนั้น เยี่ยหวันหวั่นกลับยิ้มดูแคลน “ก็คุณให้เวลาฉันเตรียมตัวสิบวินาที แต่ฉันเตรียมตัวเสร็จตั้งแต่วินาทีแรกแล้ว ฝ่ามือนี้ก็คือการโจมตีของฉัน คุณไม่มีปัญหาป้องกันเอง จะมาว่าฉันลอบโจมตีได้ยังไง”
ห่างออกไปไม่ไกล ซุนเสวี่ยเจินแค่นยิ้ม “ผู้หญิงคนนี้เถียงข้างๆ คูๆ นึกไม่ถึงว่าจะกล้าทำเรื่องน่าอายอย่างการลอบโจมตี!”
ผู้ชมในสนามพากันวิพากษ์วิจารณ์ ต่างไม่พอใจและดูถูกการลอบโจมตีสไตล์นักเลงข้างถนนของเยี่ยหวันหวั่นมาก
“เธอ…อยากตายจริงๆ…ใช่ไหม?”
วินาทีนี้ ประกายเย็นชาพาดผ่านดวงตาของยามาโมโตะ เขาเอื้อมฝ่ามือออกไปหมายจะคว้าตัวเยี่ยหวันหวั่น
“เพี๊ยะ!”
มือของยามาโมโตะยังไม่ทันเข้าใกล้เยี่ยหวันหวั่น เยี่ยหวันหวั่นก็เบี่ยงตัวหลบการโจมตีของยามาโมโตะ จากนั้นก็พลิกฝ่ามือตบหน้ายามาโมโตะอีกครั้ง
หลังถูกตบหน้าอย่างแรงถึงสองครั้งติดกัน ยามาโมโตะก็เข้าสู่ภาวะเดือดดาลเต็มรูปแบบ เขาง้างแขนขึ้น แล้วสับฝ่ามือไปที่ลำคอของเยี่ยหวันหวั่น
ในชั่วเสี้ยววินาทีนี้ นัยน์ตาของเยี่ยหวันหวั่นไหวระริก แต่เธอไม่ได้ทำอะไร กลับคว้าฝ่ามือของยามาโมโตะที่เหวี่ยงเข้ามาอย่างทรงพลัง
ฝ่ามือของเยี่ยหวันหวั่น เสมือนภูเขาขนาดใหญ่ที่มีพลังมหาศาล ไม่ว่ายามาโมโตะจะขยับอย่างไร ก็ไม่อาจหลุดพ้นไปจากฝ่ามือของเธอได้
ขณะเดียวกัน ฝ่ามือขวาของเยี่ยหวันหวั่นก็ค่อยๆ เอื้อมไปหายามาโมโตะ แต่พออยู่ในระยะห่างสามนิ้ว เธอกลับชะงักหยุด
ในเวลาชั่วสองลมหายใจเป็นอย่างมาก เยี่ยหวันหวั่นดึงพลังจากเอวขึ้นมา รวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดในร่างกายมารวมกันที่ฝ่ามือซ้าย
ฝ่ามือนี้ รวดเร็วดุจสายฟ้าฟาด พลังมหาศาลจนน่าทึ่ง
วินาทีนี้ คนในสนามต่างปากอ้าตาค้าง กลับไม่มีใครมองตามฝ่ามือของเยี่ยหวันหวั่นได้ทันซักคน
“บึ้ม~~~”
วินาทีต่อมา เสียงดังสนั่นหวั่นไหว เยี่ยหวันหวั่นเหวี่ยงฝ่ามือใส่หน้าผากของยามาโมโตะอย่างจัง
ภายใต้สายตาเหลือเชื่อของซุนเสวี่ยเจินกับซุนลี่จ้ง แล้วยังมีสายตาตกตะลึงของผู้ชมในสนาม ยามาโมโตะกรีดร้องเสียงหลง ร่างสูงเหมือนว่าวที่เชือกขาด กลับถูกเยี่ยหวันหวั่นซัดด้วยฝ่ามือจนปลิวออกไปไกลถึงสิบกว่าเมตร
“นี่มัน…เป็นไปไม่ได้!!!” ซุนเสวี่ยเจินลุกพรวด แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
“อะไรกัน!” ใบหน้าเรียบเฉยของฉินรั่วซีเองก็แตกสลายในที่สุด…
————————————————————————————-
บทที่ 1048 เธออ่อนแอเกินไป
“ปะ…เป็นไปได้ยังไง…”
วินาทีนี้ สายตาทุกคู่ต่างหันไปมองยามาโมโตะที่ถูกซัดออกไปไกลถึงสิบกว่าเมตรอย่างตกตะลึง ทุกคนนิ่งค้างอยู่กับที่ราวกับได้กลายเป็นก้อนหินไปแล้ว ได้แต่อ้าปากค้าง และพูดอะไรไม่ออกสักคำ
เหตุการณ์ตรงหน้าเหมือนความฝันก็ไม่ปาน ยามาโมโตะที่เอาชนะราชาหมาป่าเซนนีได้ด้วยกระบวนท่าเดียว กลับถูกซัดออกไปไกลถึงสิบกว่าเมตรด้วยกระบวนท่าเดียว!
“หรือว่าจะจงใจอ่อนข้อให้?!”
เวลานั้น ผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้คนหนึ่งของตระกูลซุนขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่มีทางเชื่อว่ายามาโมโตะจะถูกเยี่ยหวันหวั่นโจมตีจนร่างปลิวออกไปอย่างนั้น
“อ่อนข้อ…ล้อเล่นรึเปล่า เมื่อกี้ตัวแทนตระกูลซือโจมตีระยะประชิดตัว…อยู่ใกล้แค่ไม่กี่นิ้ว ยามาโมโตะตั้งตัวไม่ทันด้วยซ้ำ จะเรียกว่าอ่อนข้อได้ยังไงกัน!”
นักศิลปะป้องกันตัวคนหนึ่งที่มาร่วมงานประชุมศิลปะป้องกันตัวของสามตระกูลใหญ่ พูดด้วยสีหน้าตื่นเต้น
ตราบใดที่มีพื้นฐานศิลปะการต่อสู้ ย่อมดูออกในแวบเดียว ว่าการประลองของยอดฝีมือนั้นเป็นของจริงหรือไม่ อย่าว่าแต่การระเบิดพลังอย่างทะลักทะลวงของเยี่ยหวันหวั่นเลย แม้แต่ก่อนหน้านี้ที่ฉินรั่วซีอ่อนข้อให้ซุนเสวี่ยเจิน นักศิลปะป้องกันตัวส่วนใหญ่ต่างก็ดูออกกันทั้งนั้น
บนที่นั่งวีไอพี มู่สุยเฟิงสั่นสะท้านเล็กน้อย เขามองเยี่ยหวันหวั่นด้วยสายตาประหลาดใจ ผู้หญิงคนนี้ วินาทีที่ใช้พลัง กลิ่นอายรอบตัวเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ที่สำคัญก็คือ กระบวนท่ารวบมถึงสไตล์การโจมตีที่เยี่ยหวันหวั่นใช้เมื่อกี้ ทำไมถึงได้รู้สึกคุ้นนักนะ…
ราชาหมาป่าเซนนีเองก็ปากอ้าตาค้างไม่ต่างกัน ไม่อยากจะเชื่อ คนอื่นอาจไม่รู้ว่ายามาโมโตะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่เมื่อกี้เขาเพิ่งปะทะกับยามาโมโตะ และพ่ายแพ้ตั้งแต่กระบวนท่าแรก เขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่ายามาโมโตะแข็งแกร่งขนาดไหน
แต่ว่า ตัวแทนของตระกูลซือที่ไม่เข้าใจศิลปะการต่อสู้คนนั้นกลับ…
ผ่านไปหลายอึดใจ ยามาโมโตะค่อยๆ ลุกขึ้นยื่น เขามองหน้าเยี่ยหวันหวั่น ประกายเย็นชาพาดผ่านดวงตา
“เธออ่อนแอเกินไป…” ยามาโมโตะจ้องหน้าเยี่ยหวันหวั่น แล้วพูดอย่างเย็นชา “เมื่อกี้ฉันจงใจให้เธอโจมตีเอง แต่น่าเสียดายที่มันไม่เจ็บไม่คันเลยซักนิด น่าผิดหวังจริงๆ”
ในสายตาของยามาโมโตะ พลังของผู้หญิงคนนั้นถือว่าไม่เลว แต่เมื่อกี้เขาแค่ไม่ทันตั้งตัว ทำให้เยี่ยหวันหวั่นได้โอกาส แต่เขาไม่มีทางพูดอะไรอย่างนี้ต่อหน้าสาธารณะชนอยู่แล้ว
ขณะเดียวกันพอได้ยินยามาโมโตะพูดอย่างนั้น เหล่าผู้ชมต่างก็ถึงบางอ้อ ที่แท้ยามาโมโตะก็ตั้งใจอ่อนข้อให้เยี่ยหวันหวั่น ให้เธอโจมตีหนึ่งครั้ง…
“หึๆ…ฉันก็นึกว่าผู้หญิงคนนั้นจะมีปัญญาอะไรจริงๆ ซะอีก ที่แท้ยามาโมโตะก็ตั้งใจอ่อนข้อให้เธอ” ซุนเสวี่ยเจินหัวเราะเยาะ
ฉินรั่วซีเองก็แอบถอนหายใจเบาๆ เพียงแต่นิ้วมือเริ่มกำเข้าหากันแน่น…
“แต่…ต้องยอมรับว่าผู้หญิงคนนั้นมีพลังอยู่บ้างจริงๆ” ศิษย์คนหนึ่งของตระกูลซุนพูดขึ้น
เวลานี้ ยามาโมโตะจ้องใบหน้าไม่บ่งบอกอารมณ์ของเยี่ยหวันหวั่น มุมปากหยักขึ้น เผยให้เห็นรอยยิ้มเย็นยะเยือก จากนั้นก็สาวเท้ายาวๆ ไปหาเยี่ยหวันหวั่นทันที
“สวบ!”
เสียงแหวกลมดังขึ้น ยามาโมโตะเอามือสอดกระเป๋ากางเกง จากนั้นก็ยกเท้าเหวี่ยงออกไปในแนวขวาง ผสมผสานกันอย่างสมบูรณ์แบบทั้งพลังและความเร็ว
และราชาหมาป่าเซนนี ก็ถูกกระบวนท่าและความเร็วเดียวกันนี้ของยามาโมโตะโจมตีจนพ่ายแพ้ยับเยิน
พอเห็นอย่างนั้น ตระกูลซุนและตระกูลฉินต่างก็ทำหน้าเหมือนรอดูฉากสนุก แม้แต่ราชาหมาป่าเซนนียังถูกโจมตีโดยลูกเตะนี้จนไม่สามารถสู้กลับได้ ตัวแทนของตระกูลซือคนนั้น ต้องถูกยามาโตะเตะจนพิการแน่ๆ
แต่ขณะเดียวกัน ก็มีผู้ชมในสนามไม่น้อยที่เป็นห่วงเยี่ยหวันหวั่น เพราะถึงยังไงเธอก็เป็นแค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่ใช่นักศิลปะป้องกันตัว ยามาโมโตะลงมือรุนแรงเกินไปหน่อยหรือเปล่า
“วืด!”
แต่ทว่า ในขณะที่ทุกคนยังไม่ทันตั้งตัว เยี่ยหวันหวั่นกลับเหวี่ยงลูกเตะที่เหมือนกับของยามาโมโตะออกไป
ลูกเตะของเยี่ยหวันหวั่น แม้ทั้งเรื่องความเร็วและความแรงจะสู้ยามาโมโตะไม่ได้ แต่องศาของลูกเตะกลับพลิกแพลงมาก ยามาโมโตะยังไม่ทันปรับเปลี่ยนกระบวนท่า ลูกเตะของเยี่ยหวันหวั่นก็เตะเข้าที่ข้อพับเข่าของเขาอย่างเต็มแรง
……………………………