บทที่ 1073 ทักษะการแสดงดีขนาดนี้
ได้ยินเยี่ยหวันหวั่นพูดแบบนี้ แขกในงานเริ่มพูดคุยกัน
“เยี่ยหวันหวั่น เธอพูดอะไร ฉันว่าเธอเสียสติแล้วละ! แหวนหมั้นของอีอีจะเป็นแหวนของเธอได้ยังไง” สีหน้าเหลียงเหม่ยเซวียนเหมือนกำลังมองคนโง่
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยด้วยสีหน้าปวดใจ “อาสะใภ้รอง นี่ใช่แหวนของหนูหรือเปล่า อาสะใภ้รองจะไม่คิดในใจบ้างเลยเหรอคะ วันนี้หนูเพิ่งรู้เป็นครั้งแรกว่าทักษะการแสดงของอาสะใภ้รองดีขนาดนี้!
แหวนหยกวงนี้เดิมทีเป็นของหนู หนูวางมันไว้ในห้องตลอด อาเข้าไปในห้องแล้วขโมยแหวนวงนี้ของหนูไป หนูเห็นเรื่องนี้กับตา!”
เยี่ยหวันหวั่นชี้เหลียงเหม่ยเซวียน ต่อว่าเสียงดุดัน สีหน้าเปี่ยมไปด้วยความโกรธถึงขีดสุด เธอโกรธแต่กลับยังอดทนไว้ พยายามไม่ให้ตัวเองเสียการควบคุม
“กะ…แกนางเด็กน่าตาย แกพูดอะไรของแก ฉันขโมยแหวนของแกเนี่ยนะ” เหลียงเหม่ยเซวียนร้องเสียงแหลม
“หวันหวั่น เธออย่าพูดมั่ว…” เยี่ยอีอีมองเยี่ยหวันหวั่น หัวคิ้วขมวดมุ่นเป็นปม
“ฉันพูดมั่ว?” เยี่ยหวันหวั่นแค่นเสียงเย็น “ตอนแรก ฉันตั้งใจจะปิดตาข้างเดียวตลอด ในเมื่อพวกเธอชอบ ฉันก็ถือว่ายกแหวนให้พวกเธอเป็นของขวัญแสดงความยินดี…ใครจะรู้ว่า พวกเธอกลับทำแบบนี้กับฉัน…”
เห็นท่าทีน้อยใจลึกซึ้งของเยี่ยหวันหวั่น เยี่ยเส่าถิงกับเหลียงหวั่นจวินก็ประหลาดใจ มองหน้ากันและกัน
ตอนแรกทั้งสองไม่เชื่อว่าลูกสาวตัวเองจะไปขโมยของ แต่ตอนนี้ได้ยินที่เยี่ยหวันหวั่นพูด พวกเขาก็พลันเชื่ออย่างไร้ข้อสงสัยแล้ว
“ถูกต้อง!” เยี่ยมู่ฝานชะงักก่อน จากนั้นจึงขึ้นหน้าทันที มามองแหวนหยกวงนั้น เขาเอ่ยสมทบเยี่ยหวันหวั่น “แหวนวงนี้ เยี่ยหวันหวั่นใช้เงินตั้งมากกว่าจะซื้อมาได้ ผมเข้าใจชัดแล้ว ก็ว่าทำไมหมู่นี้แหวนของเยี่ยหวันหวั่นหายไปไหน…ที่แท้พวกอาก็เป็นคนขโมยไป สารเลว ขโมยแม้แต่ของในครอบครัวตัวเอง! ถุย!”
“กะ…แกพูดเหลวไหลให้มันน้อยๆ หน่อย!” เหลียงเหม่ยเซวียนหน้าดำทะมึน
“อาสะใภ้รอง ครั้งก่อนหนูเห็นกับตา อาทำลับๆ ล่อๆ เข้าห้องหนูไปขโมยแหวน อาอยากให้ของขวัญอวยพรลูกสาวหนูเข้าใจ แต่อาจะขโมยของของหนูไม่ได้ ขโมยของหนูแล้วก็ช่างเถอะ แต่สุดท้ายยังมาใส่ร้ายป้ายสีหนูอีก!” เยี่ยหวันหวั่นส่ายหน้าถอนหายใจ สีหน้าเต็มไปด้วยความน้อยใจ
“นางเด็กน่าตาย แกพูดจาส่งเดช ฉันว่าแก่อับอายกลายเป็นโกรธไม่สำนึกไม่พอยังย้อนเล่นงานฉัน แกพูดแบบนี้มีหลักฐานเหรอ”
“งั้นสะใภ้รองกล่าวหาว่าหนูขโมยแหวนมีหลักฐานเหรอ แล้วพวกคุณอามีหลักฐานอะไรมาพิสูจน์ว่าแหวนวงนี้ ไม่ใช่ของหนู”
“น่าขำสิ้นดี นี่เป็นแหวนหมั้นของอีอี ไม่ใช่ของอีอี แล้วจะเป็นของเธอรึไง” เหลียงเหม่ยเซวียนตะคอก
เวลานี้ เยี่ยอีอีมองกู้เยว่เจ๋อที่อยู่ด้านข้างอย่างขอความช่วยเหลือ
กู้เยว่เจ๋อเอ่ย “นี่เป็นแหวนที่ฉันซื้อให้อีอีจริงๆ”
เยี่ยหวันหวั่นพูดจบก็มองกู้เยว่เจ๋อ ดวงตาพลันเบิกกว้าง วาบแววรื้นน้ำตา “นาย…กู้เยว่เจ๋อ…ฉันนึกไม่ถึงจริงๆ…แม้แต่นายก็ช่วยคนพวกนี้ใส่ร้ายฉันด้วยกัน…อา…ช่างเถอะ…ฉันน่าจะรู้นานแล้ว…”
กู้เยว่เจ๋อได้ยินแบบนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้ กำลังทำบ้าอะไร
คนโดยรอบมองฉากนี้ ต่างก็ตะลึงงันแล้ว
“ตกลงมันเป็นยังไงกันแน่”
“จะเป็นอะไรได้อีก…ต้องแถแหงอยู่แล้ว!”
ตอนที่กลุ่มคนกำลังพูดคุยกันนั้น เยี่ยหวันหวั่นก็พลันสายตาเย็นชา เอ่ยเสียงเด็ดขาด “ดี! ดีมาก! งั้นก็หมายความว่า ตั้งแต่ต้นจนจบพวกคุณอาศัยแค่ลมปากใช่ไหม แต่ฉันไม่เคยมีนิสัยกล่าวหาว่าร้ายใคร ฉันมีหลักฐานพิสูจน์ได้ว่า แหวนวงนี้ก็คือของฉัน!”
……………………………..
บทที่ 1074 นายทำทุกอย่าง ฉันทำสิบห้า
ได้ยินคำพูดของเยี่ยหวันหวั่น สถานจัดงานพลันเงียบกริบอีกครั้ง
เหลียงเหม่ยเซวียนหัวเราะเยาะ “น่าขำสิ้นดี! แกจะมีหลักฐานอะไรได้ หรือว่าแหวนวงนี้พูดได้ พูดว่าเป็นของเธอๆ!”
เยี่ยหวันหวั่นหัวเราะ “ขอโทษด้วยจริงๆ ค่ะ อาสะใภ้รอง แหวนวงนี้ มัน ‘พูดได้ ‘จริงๆ”
เหลียงเหม่ยเซวียนเอ่ย “ฉันว่าแกก็ปัญหาไม่เข้าเรื่องแล้ว!”
เยี่ยหวันหวั่นไม่สนใจคำดูถูกของเหลียงเหม่ยเซวียนกับสายตาต่างๆ นานาของคนโดยรอบ “หนูขอถามอาสะใภ้รองอีกรอบ อาสะใภ้ยืนยัน ว่านี่เป็นแหวนหมั้นของเยี่ยอีอี ใช่ไหมคะ”
เหลียงเหม่ยเซวียนถลึงตาใส่เธอ “เหลวไหล แหวนวงนี้ต้องเป็นของอีอีพวกเราแน่อยู่แล้ว เยี่ยหวันหวั่นแกเลิกพูดสวยหรูหลอกคนสักที ปลอมจริงๆ ปลอมทั้งนั้น!”
“โอ้?” เยี่ยหวันหวั่นเลิกคิ้ว จากนั้นเธอก็หยิบแหวนวงนั้นมาจากมือของหวงหมิงคุน แล้วเอ่ยเสียงเบา “งั้น อาสะใภ้รองช่วยอธิบายทีว่า ทำไมแหวนหมั้นของเยี่ยอีอี ถึงมีชื่อของหนูสลักอยู่?”
ชั่วพริบตาที่เยี่ยหวันหวั่นพูดจบ สีหน้าของเหลียงเหม่ยเซวียนก็แข็งทื่อ “กะ…แกว่าอะไรนะ”
เยี่ยหวันหวั่นส่งแหวนให้เยี่ยหงเหวยที่อยู่ด้านข้างโดยตรง “คุณปู่ คุณย่าลองดูก็ได้ ที่สลักอยู่ด้านในแหวน คือตัวอักษรอะไร”
เยี่ยหงเหวยรีบขยับเข้าไปดู แล้วใบหน้าก็เปลี่ยนสีทันทีทันใด “นี่…ด้านในแหวนนี่…สลักตัวหวั่น…”
ถานอี้หลานก็มีสีหน้าตกใจ “เป็นตัวหวั่นจริงๆ! ตัวเลขด้านหลัง เหมือนจะเป็นวันเกิดของหวันหวั่น!”
“เป็นไปไม่ได้!” เหลียงเหม่ยเซวียนคว้าแหวนมา
หลังเห็นตัวอักษรสลักที่ด้านในชัดเจน เธอก็พลันตกตะลึง…
แขกไม่น้อยโดยรอบเขย่งปลายเท้าเข้ามาดู ทันใดนั้นคนมากมายเห็นว่าบนแหวนนั้นสลักชื่อของเยี่ยหวันหวั่นจริงๆ …
ชั่วเวลานั้น ทุกคนตะลึงค้างแล้ว
“สลักตัวหวั่นจริงๆ ด้วย! แถมมีกระทั่งวันเกิด!”
“นี่…แหวนนี้เป็นของคุณหนูรองเยี่ยแน่แล้วใช่ไหม งั้นแหวนหมั้นของเยี่ยอีอีจะสลักชื่อของเยี่ยหวันหวั่นได้ยังไง”
“ถ้างั้น คุณหนูรองเยี่ยคนนี้ก็พูดความจริงเหรอ แต่ด้วยฐานะของเหลียงเหม่ยเซวียน ทำไมถึงทำเรื่องอย่างนี้ได้”
“ฐานะของเหลียงเหม่ยเซวียน? ลืมแล้วเหรอว่าตอนนั้นเหลียงเหม่ยเซวียนเข้าตระกูลเยี่ยได้ยังไง เหลียงเหม่ยเซวียนเป็นน้องสาวของเหลียงหวั่นจวิน ตอนแรกแค่อาศัยความช่วยเหลือจากตระกูลเยี่ยเท่านั้น ต่อมาไม่รู้ทำไมถึงตกนายท่านรองเยี่ยเส่าอันได้
“ตอนที่เยี่ยเส่าอันยังไม่มีอำนาจไร้สิทธิ์ไร้พลัง เหลียงเหม่ยเซวียนคุณนายรองคนนี้ย่อมไม่ได้ผลประโยชน์อะไร เรื่องลักเล็กขโมยน้อยแบบนี้ ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้จริงๆ!”
“จิ๊ๆ ตอนนี้นายท่านรองเยี่ยมีอำนาจล้นฟ้า ถ้าไม่ใช่เพราะว่าด้านในแหนสลักตัวอักษรไว้ เกรงว่าวันนี้คุณหนูรองเยี่ยคงแก้ตัวไม่ขึ้นแล้ว…”
…
พอได้ยินบทสนทนาของพวกโดยรอบ เหลี่ยงเหม่ยเซวียนมีสีหน้าน่าเกลียดขึ้นทุกที เธอจ้องแหวนวงนั้นอย่างไม่อาจเชื่อลง
ไม่ว่ายังไงเธอก็คิดไม่ออกว่าทำไมบนแหวนนี้ถึงมีชื่อของเยี่ยหวันหวั่นเพิ่มขึ้นมาได้!
ทั้งเยี่ยอีอีและหวงหมิงคุนก็ตกตะลึงโดยสมบูรณ์เช่นกัน แม้แต่กู้เยว่เจ๋อก็มีสีหน้าตะลึงงัน
แหวนวงนี้…ทั้งๆ ที่เขาซื้อเองกับมือ…ทำไมถึงสลักชื่อของเยี่ยหวันหวั่นได้?
เหลียงเหม่ยเซวียนจ้องหวงหมิงคุนอย่างดุร้าย เหมือนถามเขาว่านี่มันเรื่องอะไร แต่หวงหมิงคุนกลับมีสีหน้าเปี่ยมความงุนงง ไม่รู้แม้แต่น้อยว่าเกิดอะไรขึ้น
เยี่ยหวันหวั่นมองใบหน้าเหลียงเหม่ยเซวียนที่แข็งทื่อขึ้นทุกที เธอเอ่ยเสียงเนิบช้า “อาสะใภ้รองคะ หนูบอกนานแล้วนะคะ ว่าอย่าทำเรื่องให้น่าขายหน้าเกินไปจะดีกว่า”
………………….