บทที่ 1427 พ่อตาแม่ยาย
“ครั้งนี้ที่ผมพาเสี่ยวเฟิ่งกลับมา ก็เพราะอยากให้พ่อกับแม่เอารายชื่อกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์ให้เสี่ยวเฟิ่ง” จี้ซิวหร่านเอ่ยเสียงเรียบ
“นายว่ายังไงนะ…รายชื่อกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์? ให้หัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ย?” จี้หลิงเฟยหัวเราะด้วยความโมโห “จี้ซิวหร่าน นี่นายยังปกติดีอยู่รึเปล่า? รายชื่อที่มีค่าขนาดนี้ตระกูลจี้ของเราได้รับแค่ไม่กี่รายชื่อเท่านั้น แล้วนายจะให้ตระกูลจี้ของเราแบ่งให้หัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยเนี่ยนะ?”
เยี่ยหวันหวั่นที่นั่งอยู่ห่างๆ ขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าครุ่นคิด
ดูเหมือนคนในตระกูลจี้จะไม่รู้เรื่องของจี้ซิวหร่านกับไป๋เฟิ่งจริงๆ
อีกเรื่องที่ทำให้เธอนึกไม่ถึงก็คือ จี้ซิวหร่านพาเธอกลับมาเพราะงานประลองยุทธ์ที่จะจัดขึ้นในอีกไม่นาน…
งานประลองวิทยายุทธ์ที่ว่าเยี่ยหวันหวั่นเองก็เคยได้ยินมา รัฐอิสระจะจัดงานประลองวิทยายุทธ์ขึ้นในทุกสามปี
งานประลองวิทยายุทธ์จัดขึ้นโดยความร่วมมือของตระกูลเก่าแก่หลายตระกูลกับกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์ กฎเกณฑ์ในแต่ละปีไม่เหมือนกัน ถ้าหากแสดงฝีมืออันโดดเด่นในงานประลองยุทธ์ ก็อาจได้รับคำเชิญจากตระกูลเก่าแก่หลายตระกูลให้ไปเป็นแขกถึงบ้าน
สำหรับรายละเอียดของงานประลองยุทธ์ เยี่ยหวันหวั่นเองก็ไม่ได้รู้มากนัก
เพียงแต่ งานสำคัญอย่างงานประลองยุทธ์ กลุ่มอำนาจที่ไร้กฎเกณฑ์อย่างพันธมิตรอู๋เว่ยคงยากที่จะได้โควตา
ได้ยินมาว่า ตอนที่พันธมิตรอู๋เว่ยเพิ่งก่อตั้งขึ้น เคยได้รับโควตาหนึ่งที่ เพียงแต่หลังจากนั้น พันธมิตรอู๋เว่ยก็ไม่เคยได้รับโควตาอีกเลย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าโควตาผู้เข้าแข่งขันที่ว่านี้สำคัญแค่ไหน
เยี่ยหวันหวั่นไม่เคยสนใจที่จะเข้าร่วมงานประลองยุทธ์ เพียงแต่…พอลองคิดดูดีๆ แล้ว ถ้าได้โควตางานประลองยุทธ์มา บางทีเธออาจแฝงตัวเข้าไปในตระกูลเก่าแก่…แล้วตามหาซือเยี่ยหานจากตระกูลซือเจอก็ได้…
แต่ ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ เหมือนตระกูลจี้จะไม่ค่อยต้อนรับเธอนัก พวกเขาคงไม่ยอมให้โควตาเธอแน่ๆ…
เยี่ยหวันหวั่นคิดมาตลอดว่าคนในตระกูลจี้น่าจะรู้ว่าหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยเป็นคู่หมั้นของจี้ซิวหร่าน แต่พอมาที่นี่วันนี้ถึงได้รู้ว่าเธอคิดมากไปเอง…
อย่าว่าแต่ให้ตระกูลจี้ยอมรับหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยเลย พวกเขาไม่เคยเจอไป๋เฟิ่งหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยด้วยซ้ำ จะไปรู้เรื่องที่เธอเป็นคู่หมั้นเขาได้ยังไง…
“ซิวหร่าน นายอยู่รับแขกหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยไปเถอะ ฉันจะไปดูว่าพ่อกับแม่กลับมารึยัง” จี้หลิงเฟยหันไปพูดกับจี้ซิวหร่าน จากนั้นก็เดินออกจากห้องโถงไป
จี้ซิวหร่านหันมามองเยี่ยหวันหวั่น เขายิ้มเล็กน้อย แล้วเอ่ยว่า “ไม่ต้องห่วง วันนี้ฉันแค่พาเธอกลับมากินข้าวมื้อหนึ่ง”
เยี่ยหวันหวั่นเหลือบมองจี้ซิวหร่าน พูดเหมือนง่าย ดูจากท่าทางของจี้หลิงเฟยที่มีต่อเธอ เยี่ยหวันหวั่นก็พอจะเดาได้แล้วว่าอีกเดี๋ยวผู้อาวุโสสองคนของตระกูลจี้จะมีท่าทียังไงกับเธอ…
อีกอย่าง จี้ซิวหร่านไม่เคยบอกเธอว่าที่พาเธอกลับมาเพราะเรื่องโควตางานประลองยุทธ์…เธอไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจเลยซักนิด
ผ่านไปครู่หนึ่ง ชายสูงวัยหน้าตาเคร่งขรึมและหญิงวัยกลางคนท่าทางสง่างามก้าวเดินเข้าในห้องโถงช้าๆ จี้หลิงเฟยเดินตามหลังทั้งสองเงียบๆ ไม่พูดอะไร
หลังจากชายสูงวัยกับหญิงวัยกลางคนเดินเข้ามา ก็หันมามองเยี่ยหวันหวั่นทันที
หญิงวัยกลางคนไม่คิดปิดบังท่าทีเฉยชาแม้แต่น้อย
“พ่อครับ แม่ครับ” จี้ซิวหร่านลุกขึ้นแล้วหันไปทักทายหญิงวัยกลางคนกับชายสูงวัย
เยี่ยหวันหวั่นเองก็รีบลุกขึ้นยืน สองคนนี้ก็คือผู้นำตระกูลและนายหญิงแห่งตระกูลจี้ หนึ่งในสี่ตระกูลใหย่ของรัฐอิสระ แล้วก็เป็นพ่อแม่ของจี้ซิวหร่าน…หรือก็คือพ่อตาแม่ยายของเธอนั่นเอง…
นายหญิงตระกูลจี้พยักหน้า จากนั้นก็นั่งลงพร้อมกับชายสูงวัย แล้วมองพิจารณาเยี่ยหวันหวั่นขึ้นลง
————————————————————————————-
บทที่ 1428 สู้อู๋โยวไม่ได้
“หึๆ ซิวหร่านไม่ค่อยพาผู้หญิงกลับมาบ้าน” นายหญิงตระกูลจี้มองเยี่ยหวันหวั่น แล้วยิ้มพูด
จากนั้นเธอก็จ้องเยี่ยหวันหวั่น แล้วกล่าวว่า “เมื่อกี้ฉันได้ยินหลิงเฟยบอกว่าเธอชื่อไป๋เฟิ่ง เป็นหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ย”
“ใช่ค่ะคุณน้า” เยี่ยหวันหวั่นมองหญิงวัยกลางคนที่มีบุคลิกสง่างาม แล้วกล่าว
“อ้อ…ชื่อเสียงอันโด่งดังของพันธมิตรอู๋เว่ย ฉันก็เคยได้ยินมาบ้าง ปีนั้นพันธมิตรอู๋เว่ยทำลายกลุ่มอำนาจหลายกลุ่มที่อยู่ใต้อำนาจของตระกูลจี้” นายหญิงตระกูลจี้เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
เยี่ยหวันหวั่นกระอักกระอ่วนเล็กน้อย
ยัยไป๋เฟิ่งไปทำเวรทำกรรมอะไรไว้บ้างกันแน่เนี่ย…
“หัวหน้าไป๋ นั่งเถอะ ไม่ต้องเกรงใจ” ผู้นำตระกูลจี้มองเยี่ยหวันหวั่น แล้วบอก
“ค่ะ…” เยี่ยหวันหวั่นนั่งลง ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองมาเยี่ยมบ้านคู่หมั้นครั้งแรก แต่กลับลืมซื้อของติดไม้ติดมือมาด้วย…
“ซิวหร่าน แม่เคยบอกแล้วใช่ไหม อู๋โยวกลับมาแล้ว ทุกครั้งที่แม่บอกให้ลูกไปเยี่ยม ลูกก็ชอบหาข้ออ้าง ลูกทำอย่างงี้อู๋โยวจะเสียใจเอานะ รู้ไหม” นายหญิงตระกูลจี้หันไปพูดกับจี้ซิวหร่าน
“เนี่ยอู๋โยว…”
ได้ยินนายหญิงตระกูลเนี่ยพูดอย่างนั้น เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
เนี่ยอู๋โยวคือน้องรองของเนี่ยอู๋หมิง แล้วก็เป็นแม้แท้ๆ ของถังถังที่หายตัวไปนานแล้วไม่ใช่เหรอ…
แต่ฟังจากที่นายหญิงตระกูลจี้พูด จี้ซิวหร่านมีสายสัมพันธ์กับเนี่ยอู๋โยวด้วยงั้นเหรอ?!
แต่…เนี่ยอู๋โยวมีลูกแล้ว…
พ่อแท้ๆ ของเบบี๋ถังถังคงไม่ใช่จี้ซิวหร่านหนอกนะ?!
แต่ใจหนึ่งเยี่ยหวันหวั่นก็รู้สึกว่าเป็นไปได้ยาก ถ้าหากจี้ซิวหร่านเป็นพ่อแท้ๆ ของเบบี๋ถังถัง เนี่ยอู๋หมิงจะไม่รู้เชียวเหรอ…
แต่คิดดูอีกที คนบ้าๆ บอๆ พึ่งพาไม่ได้อย่างเนี่ยอู๋หมิง อาจจะไม่รู้จริงๆ ก็ได้ จะไปหวังอะไรกับคนไอคิวต่ำอย่างหมอนั่นได้อีกล่ะ?
สองคนโง่แห่งรัฐอิสระ เนี่ยอู๋หมิงกับเป่ยโต่ว พวกเขาโง่จนกู่ไม่กลับตั้งนานแล้ว…
แต่ถ้าจี้ซิวหร่านกับเนี่ยอู๋โยวเป็นอะไรกันแล้วแอบมีถังถังแบบลับๆ…จี้ซิวหร่านก็เลวเกินไปแล้ว เขายังมีความสัมพันธ์กับไป๋เฟิ่งหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยด้วย เลวเต็มคราบจริงๆ!
ไม่เปิดโอกาสให้จี้ซิวหร่านพูดอะไร ผู้นำตระกูลจี้กล่าวต่อว่า “ซิวหร่าน ถ้าลูกไม่ชอบอู๋โยว พ่อว่าเนี่ยหลิงหลงก็ไม่เลว”
“เหลวไหล!” นายหญิงตระกูลจี้ถมึงตาใส่ผู้นำตระกูลจี้ “คุณเงียบไปเลยนะ เรื่องของเด็กๆ คุณห้ามยื่นมือเข้ามาเจ้ากี้เจ้าการ ชีวิตนี้ฉันยอมรับแค่อู๋โยวคนเดียวเท่านั้น ถึงหลิงหลงจะไม่เลวเหมือนกัน…แต่ก็ยังสู้อู๋โยวไม่ได้”
ได้ยินอย่างงั้น ผู้นำตระกูลจี้เหลือบมองนายหญิงตระกูลจี้เล็กน้อย แล้วพยักหน้าบอกว่า “ได้ คุณพูดอะไรก็ถูกทั้งนั้น”
“ซิวหร่าน เล่นสนุกข้างนอกน่ะได้ แต่ไม่ใช่ว่าจะพาใครกลับบ้านก็ได้ ลูกเข้าใจไหม” นายหญิงตระกูลจี้เอ่ยด้วยน้ำเสียงตักเตือน
นายหญิงตระกูลจี้ย่อมดูออกว่าผู้หญิงคนนี้หน้าคล้ายอู๋โยว แต่กลับสวยกว่าอู๋โยวร้อยเท่า เธอไม่อยากให้ลูกชายเธอหลงใหลในรูปลักษณ์ภายนอก เพราะความจริงใจของคนเรานั้นหายาก
ประโยคนี้เหมือนจะพูดกับจี้ซิวหร่าน แต่ความจริงแล้วต้องการให้เยี่ยหวันหวั่นได้ยิน เพื่อให้เธอรู้ตัว และไม่คิดอาจเอื้อม
เยี่ยหวันหวั่นกล้ำกลืนความโกรธ แต่กลับอาละวาดไม่ได้
เธอไม่ได้โกรธเพื่อตัวเอง แต่โกรธแทนไป๋เฟิ่งหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยต่างหาก
อุตส่าห์ชอบจี้ซิวหร่านสุดหัวใจ แต่ตอนนี้เป็นยังไง สถานะคู่หมั้นไม่ได้รับการเปิดเผย พ่อแม่ของเขาก็ยังไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะผู้ชายเลวๆ อย่างจี้ซิวหร่านนี่ นึกไม่ถึงว่าจะมีความสัมพันธ์ไม่ชัดเจนกับผู้หญิงหลายคน ดีไม่ดีลูกถังถังอาจจะเป็นลูกของเขาก็ได้!
เยี่ยหวันหวั่นแค่รู้สึกเสียดายความจริงใจที่หัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยมีให้เขา! ถุย คนเลว!