บทที่ 1483 กลับมาแล้ว
ที่ผ่านมาเขาไม่เคยเชื่อว่าผู้หญิงคนนี้คือหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ย…ทั้งคำพูดการกระทำ แล้วก็รูปร่างหน้าตาของเธอยังต่างจากหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยไป๋เฟิ่งคนเดิมเล็กน้อย…แถมเธอก็ยังไม่เคยแสดงฝีมือให้เห็นซักครั้ง…
เพราะเหตุผลนี้สมาชิกระดับสูงเกือบทุกคนของพันธมิตรอู๋เว่ยจึงคิดว่าเยี่ยหวันหวั่นไม่ใช่ตัวจริง ถึงขนาดมีสมาชิกระดับสูงบางฝ่ายตกลงกันว่าถ้าใครหาหลักฐานที่ผู้หญิงคนนี้สวมรอยเป็นหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยเจอ คนนั้นก็จะได้ตำแหน่งหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยไปครอง…
แทบจะในเวลาเดียวกัน สมาชิกระดับสูงส่วนใหญ่ต่างหันไปมองเยี่ยหวันหวั่นด้วยใบหน้าตกตะลึง ทั้งตื่นเต้นและดีใจอย่างปิดไม่มิด
“หะ…หัวหน้า!”
ผู้อาวุโสสองคุกเข่าต่อหน้าเยี่ยหวันหวั่นเสียงดังโครม
“หัวหน้า…เป็นหัวหน้าจริงๆ!”
สมาชิกระดับสูงส่วนหนึ่งถึงขนาดทำตัวไม่ถูก
หัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยหายตัวไปนานหลายปี พวกเขาไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยจะกลับมาจริงๆ
ผู้อาวุโสสามจ้องเยี่ยหวันหวั่น ทรุดนั่งกับพื้นอย่างเข่าอ่อนทันที จบกัน นี่เขาทำอะไรกับหัวหน้าไปบ้าง…
“หัวหน้า คุณกลับมาแล้วจริงๆ…” ผู้อาวุโสคนหนึ่งคุกเข่าข้างกายเยี่ยหวันหวั่น น้ำตาไหลอาบใบหน้าสูงวัย
หลายปีที่ไม่มีไป๋เฟิ่ง พันธมิตรอู๋เว่ยไม่องอาจเหมือนในอดีต กลุ่มอำนาจที่เคยอยู่ใต้อำนาจพันธมิตรอู๋เว่ย ตอนนี้ถึงขั้นกล้าอวดดีกับพันธมิตรอู๋เว่ย
ถ้าตอนนั้นหัวหน้าไม่ได้หายตัวไป พันธมิตรอู๋เว่ยคงไม่ตกต่ำอย่างทุกวันนี้ อย่าว่าแต่ข้างนอกเลย แม้แต่ภายในพันธมิตรอู๋เว่ยก็ยังแตกแยกกันอย่างชัดเจน พวกเขาแบ่งฝักแบ่งฝ่ายออกเป็นหลายกลุ่ม…ไม่ยุ่งเกี่ยวกัน…
“หัวหน้า พวกผมโง่เอง…ที่จำหัวหน้าไม่ได้ ถึงขนาด…คิดว่าคุณเป็นตัวปลอม…ยังคิดจะหาหลักฐานที่คุณสวมรอยเป็นหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยด้วย…” ผู้อาวุโสคนหนึ่งพูดอย่างละอายใจ
สมาชิกระดับสูงที่อยู่ฝ่ายผู้อาวุโสสามมองหน้ากันเลิกลัก เหงื่อซึมเต็มหน้าผาก ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง
หลังจากหัวหน้าพันธมิตรกลับมา พวกเขาไม่เคยเห็นหัวหน้าอยู่ในสายตา ถึงขนาดล่วงเกินด้วยคำพูดและน้ำเสียงหลายครั้ง…แบบนี้ก็แสดงว่า…พวกเขาไม่รอดแน่?!
“จนถึงตอนนี้พวกคุณยังสงสัยพี่เฟิ่งอยู่อีก ผมบอกแล้วไง พี่เฟิ่งไม่ใช่ตัวปลอม” เป่ยโต่วอดพูดหยันไม่ได้
ชีซิงส่ายหน้า ก็ไม่ใช่ความผิดของพวกเขาทั้งหมด ถึงยังไงหัวหน้าพันธมิตรก็กลับมาได้จังหวะเกินไป ขนาดเขายังเคยสงสัยตั้งหลายครั้ง
เยี่ยหวันหวั่นไม่มองคนพวกนั้นด้วยซ้ำ เธอแค่หาวแล้วหมุนตัวเดินโซเซกลับเข้าไปในห้องทำงาน
“หัวหน้า…พวกหลิงฮั่ว…จะจัดการยังไงครับ?” สมาชิกระดับสูงคนหนึ่งถาม แต่กลับไร้การตอบรับจากเยี่ยหวันหวั่น
สุดท้าย ด้วยความจนใจ พวกสมาชิกระดับสูงได้แต่สั่งให้คนเอาตัวหลิงฮั่วกับพวกแก๊งหัวเหล็กไปขังในคุกใต้ดินของพันธมิตรอู๋เว่ย
ไม่นาน ทุกคนก็เดินตามเยี่ยหวันหวั่นเข้ามาในห้องทำงาน แต่กลับเห็นเยี่ยหวันหวั่นนั่งหลับอยู่บนเก้าอี้
“หัวหน้าเป็นอะไรไป?” สมาชิกระดับสูงคนหนึ่งสีหน้าฉงน หรือว่าสู้กับหลิงฮั่วจนเพลีย?
“พี่เฟิ่งเมา” ชีซิงที่ยืนอยู่ด้านหนึ่งเอ่ย
“เมา?!”
คำพูดของชีซิงทำให้ทุกคนอึ้งงัน
ไม่น่าล่ะตัวเยี่ยหวันหวั่นถึงได้มีกลิ่นเหล้าหึ่งขนาดนั้น แต่เพราะการปรากฏตัวของหลิงฮั่ว ทำให้พวกเขาสับสนทำอะไรไม่ถูก จนไม่ทันสังเกตเรื่องนี้
“เหลวไหล พวกนายปล่อยให้หัวหน้าดื่มเหล้าเยอะขนาดนั้นได้ยังไง นี่ถ้าเมื่อกี้หัวหน้าเมาจนแพ้หลิงฮั่วหรือบาดเจ็บขึ้นมาจะทำยังไง!” ผู้อาวุโสคนหนึ่งจ้องเป่ยโต่ว แล้วตำหนิอย่างรุนแรง
————————————————————————————-
บทที่ 1484 กลายเป็นยอดฝีมือ
เป่ยโต่วทำหน้าเหวอ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเขาล่ะ พี่เฟิ่งไม่เคยดื่มเหล้า ใครจะไปรู้ว่าครั้งนี้เกิดอะไรขึ้นถึงได้ซัดเหล้าจนหมดขวดเหมือนเครื่องดื่มอย่างงั้น…
ถึงจะอยากสบถแค่ไหน แต่ยังไงอีกฝ่ายก็เป็นผู้อาวุโส เป่ยโต่วเลยอดทนไว้
“หัวหน้าจะตื่นเมื่อไหร่?” สมาชิกระดับสูงคนหนึ่งหันมาถามเป่ยโต่ว
เป่ยโต่วครุ่นคิด แล้วตอบออกไปว่า “เรื่องนี้อย่าถามผมเลย ดมกลิ่นเหล้าจากตัวพี่เฟิ่งดูเอาแล้วกัน ถ้ากลิ่นอ่อนก็จะตื่นเร็วหน่อย ถ้ากลิ่นแรงก็ตื่นช้าหน่อย”
สมาชิกระดับสูงคนนั้นยังไม่ทันพูดอะไร เจ้าบีรุสกับต้าไป๋ก็พลันลืมตา พวกมันย่างกรายมาทางนี้ จากนั้นก็นั่งลงข้างเยี่ยหวันหวั่น สายตาของสัตว์ร้ายสองตัวกวาดมองพวกเขาทีละคน
มีเจ้าบีรุสกับต้าไป๋อยู่ พวกเขากลับไม่กล้าเข้าใกล้มาก ทำได้แค่รออยู่ข้างนอก
กระทั่งผ่านไปหลายชั่วโมง เยี่ยหวันหวั่นถึงค่อยลืมตาขึ้นมาช้าๆ กลิ่นเหล้าบนตัวก็เริ่มอ่อนลง
ตอนนี้ เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกปวดหัวเหมือนจะระเบิด ปากคอแห้งผาก
เมื่อกี้เธอฝัน ในฝันเธอกลายเป็นยอดฝีมือ…แล้วก็เหมือนจะอัดยอดฝีมืออีกคนจนอ่วม…
ส่วนทำไมเธอถึงได้ฝันว่าตัวเองอัดยอดฝีมืออีกคนจนอ่วม ตัวเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกัน…
พอเห็นเยี่ยหวันหวั่นตื่น เจ้าบีรุสก็เข้ามาเลียแก้มเยี่ยหวันหวั่น ลิ้นสากๆ ของเจ้าบีรุสทำให้เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกเจ็บเล็กน้อย
“เสี่ยวเฮยเด็กดี” เยี่ยหวันหวั่นลุกขึ้นนั่งตัวตรง ลูบหัวเจ้าบีรุส ส่วนเจ้าบีรุสก็หลับตาแล้วทำหน้าประมาณว่า “ข้าฟินสุดๆ”
“พี่เฟิ่ง”
ชีซิงรีบเทน้ำแก้วหนึ่งแล้วส่งให้เยี่ยหวันหวั่น
เยี่ยหวันหวั่นที่กำลังคอแห้งดื่มน้ำที่ชีซิงยื่นให้จนหมดแก้วในรวดเดียว
“ฉันเป็นอะไรไป…” เยี่ยหวันหวั่นนวดหัวคิ้ว
ชีซิงทำหน้าเหมือนเอือมระอา แล้วบอกตามจริงว่า “พี่เฟิ่ง พี่ดื่มเหล้า แล้วก็เมา”
เยี่ยหวันหวั่นอึ้ง เธอดื่มเหล้า? ดื่มเหล้างั้นเหรอ?!
ในที่สุดเยี่ยหวันหวั่นก็นึกออก เมื่อกี้เธอกลับมาที่ห้องทำงาน เพราะคอแห้งก็เลยดื่มเหล้าที่เจ้าหมาจรจัดให้มาจนเกลี้ยง…ตอนแรกเธอนึกว่ามันเป็นเครื่องดื่มอะไรซักอย่าง…
ตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นเริ่มกังวล เธอจำอะไรไม่ได้เลย…หลังจากดื่มจนเมา…เธอได้ทำอะไรเพี้ยนๆ รึเปล่า?! ตอนเมาเธอได้ทำความลับแตกรึเปล่าเนี่ย?
“พี่เฟิ่ง ตื่นได้ซักที ตกลงจะให้จัดการไอ้สวะหลิงฮั่วนั่นยังไง? ฆ่าเลย หรือซ้อมจนตาย?” เป่ยโต่วสาวเท้ายาวๆ มาหยุดข้างเยี่ยหวันหวั่น แล้วถาม
เยี่ยหวันหวั่นทำหน้างง อะไรนะ…เป่ยโต่วพูดเรื่องอะไรอยู่?
หลิงฮั่วคือใคร?
แล้วฆ่ากับซ้อมจนตายมันไม่เหมือนกันตรงไหน?
“ใช่สิ อย่าเพิ่งสนใจเรื่องไอ้หลิงฮั่วเลย ตาเฒ่าพวกนั้นรออยู่ข้างนอก บอกจะรอเจอพี่” เป่ยโต่วพูดอีก
เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้ว ตาเฒ่าพันธมิตรอู๋เว่ยพวกนั้นไม่ยอมจบซักที ไม่มีเรื่องแล้วอยู่ไม่สุขกันใช่มั๊ย?
“ให้พวกเขาเข้ามา” เยี่ยหวันหวั่นนั่งตัวตรง
เป่ยโต่วพยักหน้าแล้วเดินออกไปข้างนอก
ไม่นาน สมาชิกระดับสูงกับผู้อาวุโสจากหลายฝ่ายในพันธมิตรอู๋เว่ยก็ทยอยเดินเข้ามาในห้องทำงาน แน่นอนว่าผู้อาวุโสสามหลี่ซือก็รวมอยู่ในนั้นด้วย
“หัวหน้า…คุณไม่เป็นไรใช่มั๊ย?”
ผู้อาวุโสสูงสุดที่ใส่เสื้อสูทสีแดงรีบเดินมาหยุดข้างเยี่ยหวันหวั่น แล้วถามด้วยความเป็นห่วง
เห็นอย่างนั้นเยี่ยหวันหวั่นก็นึกแปลกใจ ผู้อาวุโสสูงสุดคนนี้เยี่ยหวันหวั่นย่อมจำได้อยู่แล้ว ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยเห็นเยี่ยหวันหวั่นอยู่ในสายตา แล้ววันนี้เป็นอะไรไป?